“คุณเฉินวางใจได้ ฉันรู้หนักเบา!” ชื่อเฟิ่งพูดอย่างมั่นใจในตัวเองมาก!
เธอยังไม่รู้ความหมายของเฉินผิง แต่ว่าเฉินผิงก็ไม่ได้พูดให้เข้าใจอย่างชัดเจน เพียงแค่คอยสังเกตคนๆ นั้นของตระกูลเจี่ยงเป็นพิเศษ ถ้าหากอีกฝ่ายแอบลงมืออย่างลับๆ เฉินผิงก็จะไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
“ขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมเวทีประลองในครั้งนี้ กฎของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของเรา ขอเพียงแค่มีความเห็นต่าง ไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ย งั้นก็ใช้หมัดกำปั้นบนเวทีประลองในการแก้ปัญหา แต่ว่าไม่อาจยับยั้งหมัดกำปั้นและเท้าได้ ท้ายที่สุดไม่ว่าจะทำให้ใครบาดเจ็บ ถึงขั้นคร่าชีวิต ล้วนแต่ไม่อนุญาตให้มีคำพูดที่แค้นเคือง นี่เป็นกฎของเวทีประลอง!”
“ครั้งนี้พุ่งเป้าไปยังปัญหาของอสังหาริมทรัพย์ตระกูลเว่ย ตระกูลเจี่ยงและชื่อเฟิ่งมีความเห็นต่างกัน เพราะงั้นตอนนี้ก็จะมีเจี่ยงเจิ้งจงและชื่อเฟิ่งแก้ไขปัญหาบนเวทีประลอง ใครชนะ คนนั้นก็จะเป็นผู้ตัดสินใจในปัญหาของอสังหาริมทรัพย์ตระกูลเว่ย เชิญทั้งสองท่านขึ้นบนเวที!”
อู่ลิ่วอีในฐานะที่เป็นคนดีที่ไม่รู้จักปฏิเสธของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ ประกาศเสียงดังลั่นอยู่บนเวทีประลอง!
“รอเดี๋ยว!”อู่ลิ่วอีเพิ่งจะพูดจบ เจี่ยงเจิ้งจงกระโดดขึ้นบนเวทีประลองเลย
“เหล่าเจี่ยง คุณยังมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
อู่ลิ่วอีพูดถาม
เจี่ยงเจิ้งจงพยักหน้า หลังจากนั้นกวาดสายมองผู้คนอย่างนิ่งๆ แวบหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังสั่นสะเทือน “วันนี้ เวทีประลองแห่งนี้ ฉันไม่เพียงแค่ทำเพื่ออสังหาริมทรัพย์ตระกูลเว่ยเท่านั้น สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ก่อตั้งมาสิบกว่าปี อยู่ในสภาวะที่ขาดอยู่ดูแลมาโดยตลอด ทำแบบนี้มันไม่ส่งผลดีต่อการพัฒนาของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของเรา เพราะงั้นฉันคิดว่าจะยืมใช้โอกาสในวันนี้ เลือกผู้นำออกมาหนึ่งท่าน ฉันแซ่เจี่ยงไร้ซึ่งพรสวรรค์ อยากจะแนะนำตัวเองในตำแหน่งของผู้นำ ถ้าหากแต่ละท่านมีความเห็นที่ต่างกัน ประลองกับฉันบนเวทีประลองได้!”
เจี่ยงเจิ้งจงเพิ่งจะพูดจบ ตรงหน้างานก็เกิดความโกลาหลทันที แต่ละคนต่างก็พูดแสดงความคิดเห็นกัน
“เจี่ยงเจิ้งจง แกหมายความว่ายังไง”
เมื่อซุนเย่าปังได้ฟัง ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งทันที พูดถามด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น
คิดไม่ถึงว่าเจี่ยงเจิ้งจงจะอยากเป็นผู้นำของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ เขาไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้นตระกูลซุนของพวกเขาจะยังมีตำแหน่งอะไรในสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้อีกล่ะ
อู่ลิ่วอีก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดด้วยความโมโหเล็กน้อย “เหล่าเจี่ยง สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้อยู่ในความดูแลของตระกูลทั้ง4ของเรามาเป็นเวลากว่าหลายปีขนาดนี้ อยู่ด้วยความสงบและไม่มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอด จู่ๆ คุณเสนอเป็นผู้นำ อย่าถึงตอนสุดท้ายที่เป็นผู้นำไม่สำเร็จ ตำแหน่งที่นั่งในตอนนี้ก็สูญเสียไปแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...