หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 3763

เมื่อเขาพูดจบ เสียงฮัมแผ่วเบาก็ดังมาจากในตัวเฉินผิง พลังจุติที่หมุนเวียนรอบตัวเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น

ภายในจุติภูมิของเฉินผิง ดาวมืดหม่นดวงหนึ่งค่อยๆ ส่องสว่าง

มันคือจุติดาราแห่งเวลานั่นเอง

ตูม!

ทันใดนั้นเมฆก้อนหนึ่งก็ลอยไปทั่วท้องฟ้า ภายใต้แสงจันทร์สว่างมันเปล่งแสงสีอันสดใสออกมา

ลำแสงลำใหญ่ส่องลงมาที่เขา ปกคลุมไปทั่วร่างของเฉินผิง

ปรากฏการณ์ฉับพลันนี้ดึงดูดความสนใจศิษย์ของตำหนักก่วงหานที่พากันออกมาดู

เจ้าตำหนักเพิ่งกลับมาที่ห้องได้ไม่ทันไรก็ต้องรีบกลับออกไป

แทบทุกคนกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ ดวงตาของพวกเขาจับจ้องไปที่แสงสีรุ้งที่แวววาวด้วยความสงสัยว่ามันส่องอะไรอยู่

“นั่นคุณเฉิน ทำไมแสงถึงส่องไปที่เขา? เกิดอะไรขึ้น?”

“หรือว่าเขาจะเพิ่มระดับพลังและกำลังเผชิญอัสนีบาต? แต่เมฆอัสนีบาตมันไม่ใช่แบบนี้!”

ในระหว่างที่เกิดอัสนีบาต สายฟ้าจากสวรรค์จะโหมกระหน่ำและวูบวาบไปทั่วท้องฟ้า

แต่เมฆนี้นอกเหนือจากแสงเปล่งประกายเจิดจ้าแล้วก็ไม่มีอะไรอีก ยิ่งไปกว่านั้น แสงนี้ยังอ่อนโยนจนน่าประหลาดใจ มันทอแสงอันอบอุ่นลงบนร่างของเฉินผิง ให้ความรู้สึกสบายใจ ชวนให้นึกถึงอ้อมกอดอันเปี่ยมด้วยความรักของแม่

“เป็นไปได้ยังไง? เขาสามารถเข้าถึงมันได้จริงๆ คำพูดของฉันทำให้เขาสำเร็จวิชาได้งั้นหรือ?”

ดวงตาของเจ้าตำหนักเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เธอเข้าใจจุติเวลาเพียงผิวเผินเท่านั้น ถึงกระนั้นเธอก็บอกทุกสิ่งที่เธอรู้ให้เฉินผิง

ใครจะคิดว่าเขาสำเร็จวิชาได้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม เจ้าตำหนักไม่รู้ว่าเฉินผิงไม่ได้ตระหนักรู้จากคำพูดของเธอ

ลำแสงกระทบกับจุติดาราแห่งเวลา ทำให้ดาวดวงหนึ่งที่เคยมืดสลัวค่อยๆ สว่างขึ้น

ในขณะที่จุติดาราแห่งเวลาส่องแสงเจิดจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ แสงสว่างวาบครั้งสุดท้ายของมันก็ทอแสงกลบจุติดาราดวงอื่นๆ

อันที่จริงเฉินผิงใช้เวลาไม่น้อยในการบำเพ็ญเพียรจุติดาราของเขา จุติดาราแห่งอัสนีและเพลิงส่องสว่างหลังเฉินผิงใช้เวลาขัดเกลาอยู่นาน

อย่างไรก็ตาม จุติดาราแห่งเวลาเพิ่งส่องแสงได้ไม่นานก็ทอรัศมีเจิดจ้ายิ่งกว่าจุติดาราดวงอื่น

ในขณะเดียวกัน แสงของจุติดาราแห่งเวลายังคงส่องสว่างไม่หยุด

ดูเหมือนว่าแม้แต่แสงจันทร์ก็ยังส่องลงมาที่ตัวเฉินผิงเพียงผู้เดียว

ในเวลาเดียวกัน พลังจุติก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างของเฉินผิงราวกับคลื่นในมหาสมุทร

เฉินผิงลอยอยู่กลางอากาศ พลังจุติไหลเข้าไปและชำระตัวเขา

“โล่งอกไปที จุติภูมิของเจ้ามีขนาดใหญ่มากพอ ถ้าเป็นคนอื่นคงรับไม่ไหวและตายไปแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทนต่อพลังจุติที่มหาศาลเช่นนี้ได้!” จ้าวมารสีชาดเอ่ยความเห็นโดยมีแววอิจฉาในดวงตา