“มีบางอย่างเข้ามาขัดจังหวะซะแล้ว ฉันจำเป็นต้องเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน แต่ฉันต้องการให้เธอหาซื้อศิลาจากภูเขาเหิงชาน!” เฉินผิงบอกกับอู่ตง
“ได้สิ ฉันจะไปที่ภูเขาเหิงชานเอง แล้วตรวจสอบเรื่องของศิลา!”
หลังจากที่อู่ตงจากไป เฉินผิงก็บอกกับซูอวี่ฉีเรื่องงานแต่งงานของเฉินหยิงเซี่ย เธอก็รู้ว่าการเดินทางไปที่หมู่บ้านอาจจะไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก แต่ในฐานะคนรู้ใจของเฉินผิง เธอก็ตอบตกลงทันที
พวกเขาจึงเริ่มเดินทางกลับบ้านของเฉินผิง ด้วยการขับรถไปเอง
บ้านเกิดของเขาเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหงเฉิง มันเคยเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ แต่ตอนนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงสองสามปี ทำให้ภูมิทัศน์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เฉินผิงเห็นว่าบ้านหลายหลังถูกปิดประกาศให้รื้อถอน เพื่อเปิดทางให้กับโครงการพัฒนาใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเฉินเป่าเฉียง จึงยืนกรานที่จะครอบครองบ้านของครอบครัว!
เด็กๆพากันวิ่งเล่นอยู่ในหมู่บ้าน แต่เฉินผิงก็ไม่รู้จักใครเลย เพราะไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว
“สวัสดี เลิกงานกันแล้วหรอ” เขาลดกระจกรถลงเพื่อทักทายพวกผู้สูงอายุที่นั่งชุมนุมกันอยู่ริมถนน
เฉินผิงรู้จักว่าพวกเขาเป็นใคร เพราะเขาเติบโตในหมู่บ้านและอาศัยอยู่ที่นี่จนถึงชั้นมัธยมต้น แล้วย้ายออกไปเมื่อพ่อของเขาต้องย้ายไปทำงานในเมือง
มีผู้อาวุโสเดินเข้ามาดูใกล้ๆแล้วหญิงกลางคนคนหนึ่งก็จำเฉินผิงได้ทันที “นั่นเธอใช่ไหมเฉินผิง? ฉันคิดว่าเธอยังอยู่ในคุกเสียอีก? ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ตอนนี้ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์เชียวเหรอ?”
เธอมองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
เฉินผิงยิ้มตอบอย่างเจ้าเล่ห์ “ผมเพิ่งออกจากคุกมาได้ไม่งานนี้เองครับ”
“อ้อ เธอคงจะกลับมาร่วมงานแต่งงานใช่ไหม? สามีของเฉินหยิงเซี่ย ร่ำรวยมากเลยนะ และยังเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ซะด้วย! เขาอาจจะช่วยหางานให้เธอทำก็ได้นะ เอาล่ะ..ฉันจะไม่รบกวนเธอแล้ว” พูดแล้วหญิงคนนั้นก็โบกมือลา
เฉินผิงพยักหน้าแล้วก็เลื่อนกระจกรถขึ้น จากนั้นเขาก็หันไปมองซูอวี่ฉีแล้วพูดอย่างเคอะเขินว่า “นั่นเป็นวิธีที่พวกผู้หญิงในหมู่บ้านคุยกันน่ะ พวกเธอมักจะพูดจาขวานผ่าซากแบบนี้แหละ แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กเธอเคยต้มไข่ให้ฉันกินด้วย”
ซูอวี่ฉียิ้มตอบแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร อาจเป็นเพราะเธอยังไม่คุ้นเคยกับการพูดจาของชาวบ้านก็ได้
ไม่นานนักเฉินผิงก็ขับรถมาถึงบ้านของครอบครัวเขา เมื่อจอดรถที่ลานบ้านเรียบร้อยแล้วเขาก็เหลือบไปเห็นที่พัก ซึ่งประกอบไปด้วยอาคาร 5 หลังแยกกัน พ่อแม่ฉันคงจะทาสีบ้านให้ใหม่
“พ่อครับ! แม่ครับ!” เขาตะโกนเรียกจากลานบ้าน
การยืนร้องเรียกพ่อแม่อยู่ที่หน้าบ้าน ทำให้เขาหวนคิดถึงความทรงจำในวัยเด็ก
เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ร้องเรียกพ่อแม่ของเขาเมื่อกลับจากโรงเรียน แล้วเขาก็จะทิ้งกระเป๋าไว้ที่มุมของลานบ้าน แล้วรีบวิ่งออกไปเล่น
“แกกลับมาแล้ว!” ถังหงอิง ออกจากห้องมาแล้วเอ่ยทักทายลูกชาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...