หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 4958

สรุปบท ตอนที่ 4958 ลอบเข้าตำหนัก: หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนที่ 4958 ลอบเข้าตำหนัก – ตอนที่ต้องอ่านของ หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนนี้ของ หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 4958 ลอบเข้าตำหนัก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

สายลับหลายสิบคนจากเมืองเฟยหู่เปลี่ยนเสื้อคลุมของพวกเขาเป็นชุดเกราะนักรบ จากนั้นก็เดินขบวนมุ่งหน้าไปยังตำหนักเจ้าเมือง

เนื่องจากเมืองซือหนิวลาดตระเวนเข้มงวดยิ่งขึ้น ท้องถนนจึงเต็มไปด้วยทหาร ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัยในตัวตนของพวกเขา

เมื่อไปถึงทางเข้าตำหนักเจ้าเมือง พวกเขาก็ถูกขวางทาง

ทหารยามคนหนึ่งพูดกับหัวหน้ากลุ่ม “แสดงตราประทับด้วย...”

หัวหน้ากลุ่มไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าของจวนเก็บสมบัติ เขาหยิบตราประทับออกมาทันทีและยื่นให้

ทหารยามถือตราประทับไว้ในมือ แสงสีขาวกะพริบขึ้นมา ซึ่งพิสูจน์ความถูกต้องของตราประทับและยืนยันว่าไม่ใช่ของปลอม

เมื่อเห็นว่าตราประทับเป็นของแท้ ทหารยามก็คืนให้พร้อมพูดว่า “พวกเจ้าเข้าไปได้...”

จากนั้นเจ้าของจวนเก็บสมบัติก็เข้าไปในตำหนักเจ้าเมืองพร้อมคนของเขา

เมื่อเข้าไปในตำหนักเจ้าเมืองแล้ว เจ้าของจวนเก็บสมบัติก็กระซิบ “ตอนนี้เราจะแยกเป็นสองกลุ่ม พยายามเลี่ยงการปะทะ ตามหาดูว่าลูกชายกับลูกสาวของเจ้าเมืองอยู่ที่ไหน”

ทุกคนพยักหน้า จากนั้นจึงแยกเป็นสองกลุ่มและเริ่มค้นหาหนิวหลี่กับหนิวเปิ่น

เนื่องจากตำหนักเจ้าเมืองนั้นกว้างใหญ่ พวกเขาจึงไม่รู้ว่าหนิวหลี่กับหนิวเปิ่นอยู่ที่ไหน และไม่กล้าใช้ปราณสัมผัสตรวจสอบ เพราะจะทำให้ตัวตนถูกเปิดเผยอย่างง่ายดาย พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากค้นหาไปทีละจุด

อย่างไรก็ตาม สายลับของเมืองเฟยหู่ต่างไม่รู้ตัว พวกเขาไม่สังเกตเห็นว่าที่ใต้เท้าของพวกเขา ทุกก้อนหินและกรวดที่พวกเขาเหยียบย่ำส่องประกายแสงสีเขียวจางๆ

เพื่อป้องกันไม่ให้ใครแอบเข้าไปในตำหนักเจ้าเมือง หนิวเหมิงจึงทุ่มเงินจำนวนมากวางวงแหวนอาคมไว้รอบตำหนัก

แม้จะมีตราประทับและสวมชุดเกราะนักรบ แต่รัศมีของพวกเขาไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในวงแหวนอาคม ดังนั้นเมื่อพวกเขาเข้าไปในตำหนักเจ้าเมือง วงแหวนอาคมก็เริ่มทำงานช้าๆ

ในขณะนั้น หนิวเหมิงซึ่งกำลังฝึกอยู่ในหอสะกดมารลืมตาขึ้นทันใด คิ้วขมวดเข้าหากัน

“เกิดอะไรขึ้น” เฉินผิงถามเมื่อเห็นอย่างนั้น

“มีคนแปลกหน้าบุกรุกเข้ามาในตำหนักเจ้าเมือง ข้าต้องไปดู...”

ในขณะเดียวกัน เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทั่วตำหนักเจ้าเมือง และทหารยามนับไม่ถ้วนก็เข้ามารุมล้อม

ไป๋อี้และชายคลั่งรีบวิ่งออกไปด้วยสีหน้าวิตก “เกิดอะไรขึ้น”

“ไม่ต้องกังวล! เราเจอผู้บุกรุก น่าจะเป็นสายลับจากเมืองเฟยหู่ แต่เราจะรีบจัดการพวกมันเดี๋ยวนี้”

หนิวเหมิงรับปากกับทั้งสองคน

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไป๋อี้ก็ตอบกลับด้วยความโกรธ “บ้าเอ้ย! เมื่อไหร่พวกเมืองเฟยหู่จะหยุดก่อเรื่องสักที ต้องให้ตายกันไปข้างเลยหรือไง”

เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋อี้ เฉินผิงจึงรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำระหว่างทั้งสองฝ่าย “เมืองซือหนิวมีความแค้นอะไรกับเมืองเฟยหู่เหรอ”

“ไม่เชิงว่าความแค้นหรอก ก็แค่ว่าเมืองเฟยหู่มีทรัพยากรจำกัด พวกมันจึงมักเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในอาณาเขตของเรา อีกอย่างเมืองเฟยหู่ยังปรารถนาวงกตมารและต้องการครอบครอง ถึงได้เกิดความขัดแย้งขึ้น ซึ่งก็คงไม่แปลกเพราะเมืองของเราอยู่ห่างจากเมืองเฟยหู่ไม่มาก เมืองนั้นกับเมืองเราอยู่ใกล้กันมากที่สุด”

หนิวเหมิงชินชากับเรื่องนี้แล้ว โดยเข้าใจว่าการแย่งชิงทรัพยากรนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร