ฝุ่นควันตลบฟุ้งไปทั่วทั้งบริเวณก่อนที่จะจางหายไปจนเผยให้เห็นเฉินผิงที่กำลังยืนหยัดอยู่ตรงกลางแอ่ง
“คะ คุณเฉิน?” ไป๋จ่านถังตะลึงงันด้วยความตกตะลึง
เขากระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์งั้นเหรอ? เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? ใช่สิ เขาเป็นผู้บำเพ็ญเพียรนี่นา มิหนำซ้ำยังเป็นเซียนอีกต่างหาก เขาไม่ใช่มนุษย์หรอก!
เมื่อไป๋จ่านถังหายตกตะลึงก็มองเฉินผิงด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมและหวาดหวั่น
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับซูอวี่ฉีงั้นเหรอ?” เฉินผิงถามหน้าเคร่ง
“ไม่ คุณซูอยู่ที่นี่ เธออยู่ในห้อง...” ไป๋จ่านถังเป็นคนในตระกูลไป๋อันเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในจิงตู ยามที่ได้เห็นเฉินผิง เขาไม่อาจบังคับตนเองมิให้พูดตะกุกตะกักด้วยความหวาดหวั่นได้ ตอนนี้เขามิได้วางท่าราวกับบุตรชายของตระกูลดัง
จากนั้นเฉินผิงก็รีบมุ่งไปยังห้องนั้น ซูอวี่ฉีได้ยินเสียงอะไรสักอย่าง แต่ยังไม่ทันได้ตรวจสอบดูว่าเกิดอะไรขึ้นเฉินผิงก็โผล่พรวดเข้ามาในห้องเสียก่อน
“เฉินผิง?” ซูอวี่ฉีร้องไห้ทันทีที่เห็นเฉินผิง เธอถลาเข้าสู่อ้อมแขนของเขา
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” เฉินผิงกอดซูอวี่ฉีเอาไว้แล้วตบไหล่เบาๆ เพื่อปลอบโยนเธอ
“ทำไมคุณถึงได้กลับมาเอาป่านนี้? ฉินเฟิงกับคนของมันลักพาตัวหลิงเอ๋อร์ไป พวกมันบอกให้คุณคุกเข่าขอโทษให้พวกมันด้วย ถึงตอนนั้นพวกมันก็จะปล่อยหลิงเอ๋อร์ ฉันกลัว... ฉันกลัวฉินเฟิงจะทำอะไรเธอไปแล้ว เขามันเลวยิ่งกว่าสัตว์!” ซูอวี่ฉีกล่าวทั้งน้ำตา
“ฉินเฟิง?” เพียงแค่ได้ยินชื่อ เฉินผิงก็พรั่งพรูไปด้วยเจตจำนงแห่งการล่าสังหาร แม้แต่ไป๋จ่านถังที่อยู่นอกห้องก็ยังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเพราะสัมผัสได้ถึงพลังความโกรธแค้น
หลินเทียนหู่กับชื่อเฟิ่งเองต่างก็สัมผัสได้ถึงเจตจำนงแห่งการล่าสังหารระลอกหนึ่งเช่นกัน พวกเขาไชโยโห่ร้องอยู่ในใจเพราะนั่นหมายความว่าเฉินผิงกลับมาแล้ว จึงรีบประคองกันออกจากห้องมาพบเขา
“อวี่ฉี ไม่ต้องร้องไห้ไปนะ คุณช่วยบอกผมทีว่าพวกมันจับหลิงเอ๋อร์ไปไว้ที่ไหน? ผมจะช่วยพาเธอกลับมาเอง!” เฉินผิงถามซูอวี่ฉี
“โรงแรมหวังเจีย ฉินเฟิงบอกชื่อสถานที่แห่งนี้ก่อนที่มันจะออกไป!” ซูอวี่ฉีตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร