“ท่านพ่อ-” ไป๋ชวงเริ่มพูด แต่ราชาโลหิตยกมือขึ้นขัด
เขารู้ว่าไป๋ชวงจะพูดอะไร คนทรยศอย่างผู้อาวุโสฉีควรถูกกำจัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต
หากแสดงความเมตตา ศัตรูย่อมย้อนกลับมาเล่นงานพวกเขาอย่างแน่นอน
ถึงกระนั้น ราชาโลหิตกลับไม่ฆ่าผู้อาวุโสฉี เพราะเขาเคยทำผิดที่แย่งต้าเหนียงมาจากผู้อาวุโสฉี
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง นครหลิวหลี่ก็เหลือเพียงซากปรักหักพัง
ไป๋ชวงเข้าใจเจตนาของราชาโลหิต เธอพยุงร่างที่สั่นคลอนของเขาอย่างอ่อนโยนและบอกว่า “ท่านพ่อ ท่านเสียแก่นโลหิตไปมาก ท่านต้องรีบกลับไปพักฟื้น”
ราชาโลหิตพยักหน้าแล้วหันไปหาเฉินผิง “เฉินผิง วันนี้ข้าติดหนี้เจ้า... ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า วังซิ่วหลัวคง...”
“เรื่องเล็กน้อย” เฉินผิงตอบอย่างนอบน้อม “ถ้าไม่ใช่เพราะท่านเรียกนักรบมารโลหิตมาช่วย เกรงว่าผมคงตายไปแล้ว”
เขาหยุดพูดครู่หนึ่ง แล้วมองม่อชิงหยุนซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังเสาหิน “ม่อชิงหยุน ถึงเวลาที่เราต้องไปแล้ว”
ม่อชิงหยุนรีบวิ่งเข้ามา ใบหน้าของเธอยังคงมีร่องรอยของความกลัวอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังขอบคุณราชาโลหิตและไป๋ชวง “ราชาโลหิต ไป๋ชวง ขอบคุณที่มาช่วยเรา” เธอกล่าว
ราชาโลหิตมองเฉินผิง ก่อนจะหยิบตราประทับที่สลักไว้ด้วยตราของวังซิ่วหลัวออกมาจากอก “นี่คือตราประทับของวังซิ่วหลัวสำหรับศิษย์นอกสำนัก เฉินผิง ถ้าเจ้าพบปัญหาในชั้นสอง ก็ใช้ตราประทับตามหาข้าได้”
เฉินผิงรับตราประทับและเก็บไว้ในถุงเก็บของ “ขอบคุณ ราชาโลหิต ลาก่อน”
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน เฉินผิงและม่อชิงหยุนค่อยๆ เลือนหายไปจากซากปรักหักพังของนครหลิวหลี่
เมฆพายุเคลื่อนตัวข้ามขอบฟ้าไป ราชาโลหิตมองไปทางที่ผู้อาวุโสฉีจากไป จี้หยกที่ถืออยู่ในมือแผ่ไอเย็น เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกหรือผิด
อย่างไรก็ตาม ความบางหมางบางครั้งก็ยากที่จะแก้ไข แม้จะแก้ด้วยความรุนแรงก็ตาม ในทางกลับกัน บางคนแม้จะได้พบกันไม่นาน ก็อาจสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นพอที่จะยอมปกป้องกันด้วยชีวิตได้
“หลานเอ๋อ กลับกันเถอะ” ราชาโลหิตหันหลังกลับ หน้าตาดูแก่ลงอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะนั้น เฉินผิงและม่อชิงหยุนกำลังเดินเล่นไปเรื่อยๆ
“เฉินผิง เจ้าดูไม่ค่อยสบาย ทำไมเราไม่กลับไปพักผ่อนล่ะ” ม่อชิงหยุนถาม
“ไม่ต้องหรอก ผมเข้าไปพักในหอคอยได้”
ตูม!
เขาไม่นึกว่าจะได้เลื่อนระดับหลังต่อสู้กับผู้อาวุโสฉี ซึ่งผลักดันให้เขาก้าวขึ้นสู่ขั้นเซียนพเนจรระดับสี่
“ถ้าได้สู้กับผู้อาวุโสฉีอีกครั้ง ฉันจะจัดการเขาให้สิ้นซาก!”
ในขณะนั้น ความมั่นใจของเฉินผิงพุ่งสูงขึ้น
ที่จริงความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณตามระดับบำเพ็ญเพียรที่สูงขึ้น
การต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายทุกครั้งทำให้เฉินผิงได้เห็นมุมมองใหม่ แท้จริงแล้วการต่อสู้เช่นนี้ช่วยเร่งความสามารถให้เขาได้เร็วที่สุด
ตอนนี้เฉินผิงต้องการหายอดฝีมือมาประลองกับเขา
การที่ผู้อาวุโสฉีใช้พลังจุติยกระดับบำเพ็ญเพียรของตัวเองขึ้นไปถึงขั้นเซียนพเนจรระดับเก้า ทำให้เฉินผิงตระหนักได้ว่าพลังของเขายังไม่มากพอที่จะโค่นเซียนพเนจรระดับเก้าได้ เขาจึงต้องให้รูปปั้นนักรบทั้งสองช่วย
อย่างไรก็ตาม เฉินผิงไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญเพียรขั้นเซียนพเนจรระดับเก้าอีกต่อไป เขาจะสู้ได้อย่างสูสี
แน่นอนว่าเขายังคงเสียเปรียบ หากคู่ต่อสู้สามารถรับมือผู้บำเพ็ญเพียรที่ระดับสูงกว่าขั้นเซียนพเนจรระดับเก้าได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
กดอ่านไม่ได้แก่ไขให้ด้วยนะคับ...
กดอ่านไม่ได้อะคับ...
ปลดล็อคอ่านไม่ได้...
กดอ่านไม่ได...
กดอ่านไม่ได้เลย...
ชอบกดปลดล็อคไม่ได้ แก้ไขที...
ปลดล็อคอ่านไม่ได้...
อ่านไม่ได้แอดมินช่วยดูที .... {code: 4, message: 'Cannot buy chapter, contact admin for the details.'}...
รออ่านไม่ได้เลย ปลดล็อคไม่ได้ แอดมินช่วยดูที่ {code: 4, message: "Cannot buy chapter, contact admin for the details."}...
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...