หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 5136

หูหม่าซือพยักหน้า และพวกเขาก็ตามเฉินผิงออกไปทันที

หากสำนักลึกลับนั้นส่งคนมามากกว่านี้ เฉินผิงก็ไม่แน่ใจว่าจะรับมือไหวหรือเปล่า ดังนั้นการถอยจึงฉลาดที่สุดแล้ว

“เฉินผิง เราจะไปไหนต่อดี” หยุนหวู่ถาม

“ไปสำนักทำนายชะตา ถ้าจำไม่ผิด เราอยู่ห่างจากอาณาเขตของพวกมันไม่เกินหนึ่งหมื่นไมล์” เฉินผิงตอบ

หยุนหวู่พยักหน้า “ถูกต้อง เผ่าม่านหวงอยู่ห่างจากสำนักทำนายชะตาราวหมื่นไมล์ เราน่าจะไปถึงภายในไม่กี่วัน”

เมื่อพูดจบ เฉินผิงก็พาทุกคนไปยังสำนักทำนายชะตา แต่หลังจากเดินทางเพียงวันเดียว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

“มีบางอย่างแปลกๆ อยู่ข้างหน้า...” เขาพึมพำ ดวงตาหรี่ลงขณะจ้องมองไปด้านหน้า

สายฟ้าสีแดงฉานผ่าลงมาไม่หยุดที่จุดหนึ่งจากระยะไกล

หยุนหวู่เหลือบมองและรีบอธิบาย “เฉินผิง นั่นคืออัสนีบาตสีชาด มีคนพยายามขึ้นจากอาณาจักรแดนสรวงชั้นสามไปยังชั้นสี่ พูดง่ายๆ คือเซียนพเนจรกำลังจะกลายเป็นเซียนโลกา ระดับพลังที่ถือว่าเป็นเซียนที่แท้จริง”

เฉินผิงจ้องมองสายฟ้าสีแดงฉานเบื้องหน้า ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เขาก็พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่อาณาจักรแดนสรวงชั้นสี่แล้ว แต่เขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอัสนีบาตสีชาด “ไปดูกันเถอะ” เขากล่าว

“เฉินผิง อัสนีบาตนี้น่ากลัวมาก ไม่ใช่ทุกคนที่พยายามขึ้นสู่อาณาจักรแดนสรวงชั้นสี่จะผ่านได้ หากล้มเหลวและต้านสายฟ้าสีแดงฉานที่โหมกระหน่ำผ่าลงมาไม่ไหว เราทุกคนอาจโดนลูกหลงและซวยไปด้วย” หยุนหวู่เตือนเฉินผิงด้วยน้ำเสียงที่ต่ำและหนักแน่น

เฉินผิงตอบด้วยความมั่นใจ “ไม่ต้องห่วง ผมเคยผ่านอัสนีบาตที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้มาแล้ว” พูดจบ เขาก็พุ่งไปข้างหน้า ตรงไปยังพายุสีแดงเลือดที่อยู่ไกลออกไป

ครืน... ครืน... เสียงฟ้าร้องดังไปทั่วท้องฟ้า ราวกับกลองศึกกังวานกลางสนามรบ

ดวงตาของเฉินผิงเบิกกว้างด้วยความทึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะมีใครในอาณาจักรแดนสรวงชั้นสามที่ทรงพลังขนาดนี้!

เบื้องหลังชายวัยกลางคนมีผู้บำเพ็ญเพียรระดับสูงนับไม่ถ้วนนั่งขัดสมาธิเป็นค่ายกล รัศมีเรืองรองแผ่ออกมาจากร่างที่นั่งอยู่ ไหลทะลักเข้าสู่ร่างของชายคนนั้นอย่างต่อเนื่อง เฉินผิงรู้สึกได้ทันทีว่าชายวัยกลางคนอยู่ที่ขั้นเซียนพเนจรระดับสูงสุด รัศมีของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าของเจ้าตำหนักลำดับเจ็ดเสียอีก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เฉินผิงสับสนคือกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังเขา หลายคนเป็นผู้บำเพ็ญเพียรขั้นเซียนพเนจรระดับเจ็ดถึงแปด และมีห้าคนอยู่ในระดับเก้า ผู้บำเพ็ญเพียรทุกคนล้วนมีสีหน้ามุ่งมั่นไม่หวั่นเกรง ขณะที่พวกเขาส่งรัศมีของตนให้ชายคนนั้นโดยไม่ลังเล

หูหม่าซืออ้าปากค้างขณะมองภาพนั้น “คนพวกนั้นกำลังทำอะไรกัน”

หยุนหวู่ตอบอย่างเคร่งขรึม “พวกเขาส่งพลังของคนทั้งเผ่าให้ชายผู้นั้นขึ้นไปถึงอาณาจักรแดนสรวงชั้นสี่”

เฉินผิงถามด้วยความอยากรู้ “ใช้คนทั้งเผ่าเลยเหรอ? พลังระดับเขายังต้านทานอัสนีบาตสีชาดไม่ไหวเหรอ”

หยุนหวู่อธิบาย “แม้จะถึงขั้นเซียนพเนจรระดับสูงสุดก็ยังไม่พอ หากจะไปให้ไกลกว่านั้นเขาต้องกลายเป็นเซียนโลกา ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ในอาณาจักรแดนสรวงชั้นสี่เท่านั้น ซึ่งเป็นมิติที่อยู่เหนือชั้นนี้ อาณาจักรแดนสรวงทั้งสามสิบหกชั้นแบ่งออกเป็นสิบสองมิติ แต่ละมิติจะมีสามชั้น ดังนั้นอาณาจักรแดนสรวงชั้นสี่จึงเป็นคนละโลกกับที่นี่ อัสนีบาตสีชาดไม่ได้ตัดสินจากระดับบำเพ็ญเพียรอย่างเดียว แต่ยังวัดความแข็งแกร่งของร่างกายและพลังต่อสู้ด้วย มีผู้บำเพ็ญเพียรไม่กี่คนที่ขึ้นสู่อาณาจักรแดนสรวงชั้นสี่ได้สำเร็จ บางตระกูลที่ใฝ่ฝันจะสร้างเซียนโลกาสักคนต้องยอมเดิมพันทุกอย่าง ทุ่มพลังของคนทั้งตระกูลส่งให้ตัวแทนเพียงคนเดียว แต่การเดิมพันมีความเสี่ยง หากล้มเหลว คนทั้งตระกูลจะต้องชดใช้”

เฉินผิงหายใจเฮือกด้วยความยำเกรง ถึงขั้นใช้พลังคนทั้งเผ่าเลยหรือนี่