ปฏิกิริยาที่ไร้ซึ่งการตอบสนองของฉางหยวนจุน ส่งผลให้เกิดบรรยากาศที่คุกรุ่น ทำให้เฉินผิงถึงกับต้องรีบดึงมือของเขากลับมาในทันที
จ้าวอู๋ฉีสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดที่ก่อตัวขึ้น เขาจึงเริ่มอธิบาย “คุณฉางครับ คุณเฉินไม่ได้มีความรู้แค่เรื่องการแพทย์เท่านั้น แต่เขายังเก่งเรื่องการใช้เวทมนตร์อีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมพาเขามาที่นี่ครับ!”
เขารู้ดีว่า ฉางหยวนจุนคงเกิดข้อกังขาในความสามารถของเฉินผิงเพราะเขายังเด็ก
นอกเหนือจากนั้นแล้ว เขาก็พูดอะไรได้ไม่มาก ด้วยเหตุผลที่เขาไม่อาจเปิดเผยเรื่องที่เฉินผิงเป็นนักบำเพ็ญเพียรต่อหน้าหยวนเป่าจงและโจวจ้าว
“รัฐมนตรีจ้าว เด็กนี่ได้ติดสินบนคุณให้มาพูดแบบนี้กับพวกเราหรือเปล่า เพราะเขาดูเด็กเกินไป เขาจะมีความสามารถด้านการแพทย์และเวทมนตร์ได้มากแค่ไหนกัน? ถึงแม้ว่า เขาจะเริ่มฝึกฝนทักษะตั้งแต่ตอนอยู่ในท้องแม่ แต่นั่นก็แค่ยี่สิบกว่าปีเองนะ ดูอย่างผมสิ ผมเริ่มฝึกเวทมนตร์ตั้งแต่ผมยังเด็ก จนถึงตอนนี้ผมก็พอจะมีความรู้อยู่บ้าง และนั่นก็เป็นเวลามากกว่าสองทศวรรษเลยนะที่ผมหมั่นฝึกฝนจนมีประสบการณ์ แต่ผมก็ยังไม่กล้าที่จะแนะนำตัวเองแบบนั้นเลย ทำไมคุณถึงได้เยินยอเด็กคนนี้นักล่ะ” หยวนเป่าจงพูดล้อเลียนพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย
เขาเคยเห็นเฉินผิงใช้เวทย์มนตร์ครั้งหนึ่งตอนที่อยู่ในงานประมูล ตอนนั้นเขายังไม่ได้มองเฉินผิงเป็นศัตรูจึงเผลอไม่ทันระวังปล่อยให้เฉินผิงร่ายมนตร์ส่งผ่านเสียงใส่โจวจ้าวหลงจนทำให้แผนของเขาถูกเปิดโปงได้ แต่เขาก็ยังคงคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไม่ใช่ฝีมือของเฉินผิง เพราะความจริงแล้ว เวทมนตร์การส่งผ่านเสียงเป็นวิชาง่ายๆ ที่ใครต่างก็ทำได้โดยใช้เวลาในการฝึกเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
โจวจ้าวหลงมองจ้าวอู๋ฉีด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม ก่อนจะตั้งคำถาม “รัฐมนตรีจ้าว ไม่ใช่ใครก็ได้จะมารักษาอาการของลูกชายคุณฉางตามที่ใจเขาต้องการ หากมีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้น แล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ? คุณจะเป็นคนรับผิดชอบงั้นเหรอ?”
ในความเป็นจริง เขาก็ไม่ชอบเฉินผิงมานานมากแล้ว และเขาก็ไม่ค่อยถูกชะตากับจ้าวอู๋ฉีเช่นกัน ในฐานะแขกพิเศษของฉางหยวนจุน ทั้งหยวนเป่าจงและโจวจ้าวหลงรู้สึกว่ามันไม่มีความจำเป็นอะไรที่พวกเขาต้องไว้หน้าจ้าวอู๋ฉี พวกเขายังมั่นใจด้วยซ้ำว่าจ้าวอู๋ฉีจะไม่กล้าโต้ตอบ ถึงแม้พวกเขาจะสบประมาทเขาก็ตาม
จ้าวอู๋ฉีถอนหายใจยาว “เนื่องจากผมเป็นคนพาคุณเฉินมาที่นี่ ผมก็จะรับผิดชอบในผลที่ตามมาทุกอย่างครับ”
“คุณฉางครับ ในเมื่อรัฐมนตรีจ้าวมั่นใจถึงเพียงนี้ ผมจึงคิดว่าผมไม่จำเป็นจะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ท่านลองไปขอให้เด็กที่ชื่อเฉินผิงหรืออะไรก็แล้วแต่ ช่วยรักษาลูกชายของท่านดูก็แล้วกันนะครับ ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน”
หยวนเป่าจงพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับ
มันเป็นวิธีที่เขาใช้เพื่อปั่นหัวคน เขาอยากเห็นท่าทีของฉางหยวนจุนว่าจะโต้ตอบกับการกระทำของเขาอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...