ทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงกระเง้ากระงอดดังขึ้นว่า “เฉินผิง คุณหลบอยู่ที่นี่อยู่ตลอดเวลาเลยสินะ! คุณหลบหน้าฉันตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเลยใช่ไหม?”
เสี่ยวหลานปรี่เข้ามาหาเฉินผิงที่กำลังพูดคุยกับเหล่าผู้อาวุโสอย่างแง่งอน
ซูฉางเซิงกับเหล่าผู้อาวุโสขอตัวอย่างรู้กาลเทศะ หากเฉินผิงไม่เป็นอะไร พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อไปอีก
ในขณะเดียวกัน เฉินผิงก็รีบอธิบายว่า “ผมปลีกตัวบำเพ็ญฌานอยู่ตลอดเวลา แล้วผมก็เพิ่งจะออกมาด้วย ผมกำลังจะไปเยี่ยมคุณพอดี”
“เยี่ยมฉันรึ? ขอทีเถอะ คุณเป็นคนมีน้ำใจแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เสี่ยวหลานกลอกตามอง
เฉินผิงแสร้งโมโหพลางตอกกลับว่า “ถ้าหากผมไม่ใช่คนมีน้ำใจล่ะก็ ตอนนี้คุณคงได้ตายไปแล้ว ผมเกือบจะต้องสังเวยตัวเองเพื่อช่วยคุณอยู่แล้วนะ”
คำพูดของเขาทำให้เสี่ยวหลานรีบขอโทษขอโพยทันที “ก็ได้ ก็ได้ ฉันรู้แล้ว ผู้อาวุโสซูและคนอื่นๆ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังแล้ว คุณช่วยชีวิตอันล้ำค่าของฉันเอาไว้ เช่นนั้นคุณอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ”
ขณะที่เสี่ยวหลานพูดก็โผเข้าหาเฉินผิงอย่างน่าประหลาด โชคดีที่เขาถอยหลังไม่กี่ก้าวก็หลบหลีกเธอได้อย่างปราดเปรียว
เมื่อเธอเห็นว่าเขากำลังหลบเลี่ยงเธอ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นหม่นหมองขึ้นมาทันที เธอโอดครวญว่า “เฉินผิง ฉันไม่สวยรึไง? หุ่นของฉันเป็นยังไงบ้าง? ทำไมคุณถึงได้รังเกียจฉันขนาดนั้นเล่า?”
“ผมเปล่านะ คุณสวยมากแล้วก็หุ่นดีมากเชียวล่ะ คุณไม่รังเกียจผมก็พอแล้ว” เฉินผิงเอ่ยละล่ำละลักพลางส่ายหน้า
เสี่ยวหลานทำปากยื่นแล้วพูดอย่างแง่งอนว่า “ฉันแทบจะโถมตัวใส่คุณอยู่แล้วนะ ทำไมคุณถึงต้องหลบหลีกฉันด้วยเล่า? คุณยังเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า?”
เมื่อหมดหนทางแล้ว เฉินผิงก็ตัดสินใจที่จะใช่ซูอวี่ฉีมาเป็นโล่กำบัง เขาจึงอธิบายว่า “ผมมีแฟนแล้วนะ”
เสี่ยวหลานดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องสถานภาพความสัมพันธ์ของเขาสักนิด แต่เธอกลับตอบว่า “ฉันรู้ แต่เธอก็เป็นแค่แฟนนี่นา ไม่ใช่เมียของคุณสักหน่อย และถึงคุณจะแต่งงานแล้วยังไงเล่า? ฉันไม่รังเกียจว่าจะเป็นเมียเก็บหรือคู่ขาของคุณ ฉันไม่ต้องการสถานะอะไรทั้งนั้น ขอเพียงแค่คุณดีกับฉันก็พอ”
เฉินผิงปวดหัวตุบๆ กับข้อเสนออันแสนจจะใจกล้าบ้าบิ่นของเสี่ยวหลาน
ในที่สุดเขาก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เอาล่ะ ตอนนี้เลิกพูดถึงเรื่องนั้นเถอะ ผมต้องกลับบ้านสักสองสามวัน ไหนๆ ก็เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ทั้งที ผมก็อยากจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของผม คุณก็อยู่ฉลองงานเทศกาลกับผู้อาวุโสซูและคนอื่นๆ ในหุบเขายาเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...