หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 869

สิ่งนี้กลับไม่เหมือนการแก้แค้น แต่เป็นการทรมานผู้อื่นอย่างมีความสุขชัดๆ เลย

ตุ้บ!

ร่างของเซี่ยโหวตุนร่วงจากกลางอากาศอย่างแรง แล้วตกกระแทกพื้นราวกับดินโคลนกองหนึ่ง นอกจากศีรษะของเขาแล้ว เขาก็ไม่สามารถขยับร่างกายส่วนใดได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น กระดูกทั่วทั้งร่างของเขาก็แหลกละเอียดเพราะพลังโจมตีของเฉินผิง

เลือดไหลกระฉูดออกจากจมูกและปากของเซี่ยโหวตุน ใบหน้าของเขาแลดูสยดสยอง

“ฆ่าฉันเลย... ได้โปรดฆ่าฉันที...”

ขณะที่ร้องตะโกน สายตาที่จ้องมองเฉินผิงก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความชิงชัง ทุกครั้งที่ตะโกนก็จะมีเลือดกระฉูดออกมาจากปาก

ตอนนี้เซี่ยโหวตุนอยู่มิสู้ตาย เขาหวังว่าเฉินผิงจะสังหารตนเสีย

เฉินผิงไม่คิดจะปล่อยให้เซี่ยโหวตุนได้ตายเร็วนัก เขาคิดจะปล่อยให้เซี่ยโหวตุนมีชีวิตต่อไป แล้วสุดท้ายเขาก็ใช้จิตตวิสุทธิเพื่อดูดพลังลมปราณทั้งหมดของเซี่ยโหวตุนมาเป็นของตนเอง

ในช่วงเวลานี้ เฉินผิงก็ใช้พลังวิญญาณในแก่นมังกรจนเกือบหมดเกลี้ยงแล้ว เห็นได้ชัดว่าใช้ไปได้ไม่นานนักก็ต้องค่อยๆ ฟื้นฟูกลับคืนมา ทางที่ดีตอนนี้เฉินผิงจึงต้องดูดพลังลมปราณของคนอื่น

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นวิธีต้องห้ามของยุทธภพเพราะถือว่าเป็นเคล็ดวิชามาร ตอนนี้เฉินผิงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น มีผู้คนมากมายกำลังพุ่งเป้ามาที่เขาจึงจำเป็นต้องเพิ่มพลังของตนเองด้วยวิธีการนี้ที่เร็วที่สุด

เมื่อเฉินผิงไม่ยอมสังหารเขา เซี่ยโหวตุนจึงหันไปมองหนีซื่อเต้า โดยหวังว่าหนีซื่อเต้าจะสังหารเขาเพราะอยู่ก็มิสู้ตาย

ในขณะเดียวกัน หนีซื่อเต้าก็ไม่สนใจเขาอีก หนีซื่อเต้าขมวดคิ้วแน่นพลางจับจ้องไปที่เฉินผิง

พวกเขาดูแคลนพลังของเฉินผิงมากเกินไป มิหนำซ้ำยังผลีผลามเข้าใกล้เขามากเกินไป

“แกเป็นรายต่อไป...”

เฉินผิงมองหนีซื่อเต้าพลางเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง

“เฉินผิง ดูเหมือนแก่นมังกรจะมอบผลประโยชน์ให้แกไม่น้อยเลย ฉันไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนมากมายตามหาแก แต่วันนี้ถึงแกอยากจะฆ่าฉัน ก็คงไม่ง่ายนักหรอกนะ...”

หลังจากหนีซื่อเต้าพูดจบ เขาก็โบกมือทันทีแล้วหมอกดำก็ซัดไปที่เขา ในขณะเดียวกันเขาก็อันตรธานหายไป

“เฝ้าเซี่ยโหวตุนเอาไว้ อย่าปล่อยให้มันฆ่าตัวตายได้”

หลังจากเฉินผิงพูดจบ เขาก็หายตัวไปกลางอากาศ

ทันทีที่เฉินผิงไล่ตามหนีซื่อเต้าไป เขาก็เปิดปราณสัมผัสของตนเองแล้วตรวจหาตำแหน่งของหนีซื่อเต้า

หนีซื่อเต้าหลบหนีจากลานสนามเข้ามาในป่าผืนเล็กๆ เมื่อเขาหันกลับไปแล้วเห็นว่าไม่มีใครตามมา เขาจึงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ถุย! เจ้าเฉินผิงผู้นี้ช่างมีความสุขจากการทรมานผู้อื่นเสียจริง...”

หนีซื่อเต้าสบถด่า! เขาไม่เคยอัปยศอดสูถึงเพียงนั้นมาก่อนเลย

หลังจากนั้นเขาก็หน้าเปลี่ยนสี เขารีบประสานมือเข้าด้วยกันพลางพึมพำเสียงเบา เมฆหมอกดำสนิทโอบล้อมเขาไว้

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงปราณสัมผัสของเฉินผิงและทราบว่าเฉินผิงเจอตัวเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบใช้ทักษะวิญญาณปิดบังตนเองไว้

แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ในขณะนั้นเฉินผิงก็ปรากฏตัว และทันทีที่เห็นเขาเฉินผิงก็ชกเขาโดยไม่ลังเลสักนิด

เมื่อเห็นเช่นนั้น หนีซื่อเต้าก็รีบร้องตะโกนขึ้นมาว่า “ค่ายกลดักมังกร...”

ทันใดนั้นหมอกดำที่ล้อมหนีซื่อเต้าก็กลายเป็นโซ่ตรวนพันธนาการร่างของเฉินผิงเอาไว้ ทำให้ฝ่ายหลังขยับเขยื้อนตัวไม่ได้

“ค่ายกลดักมังกรของแกไม่ได้ผลกับฉันหรอก...”

เฉินผิงยิ้มเยาะ เมื่อเห็นหนีซื่อเต้าพยายามจะใช้ค่ายกลดักมังกรพันธนาการเขาไว้

“ถึงจะไม่สามารถจับแกเอาไว้ได้ แต่ก็พอจะถ่วงเวลาแกเอาไว้ได้สักพักแล้วฉันก็จะหลบหนีไปได้โดยไร้ร่องรอย”

หนีซื่อเต้าไม่คิดจะใช้ค่ายกลดักมังกรมาจับเฉินผิง อย่างไรเสีย แม้แต่ตอนที่เกิดเรื่องในหุบเขายา โซ่ตรวจก็ไม่สามารถจับเขาได้ ตอนนี้พลังของเฉินผิงเพิ่มขึ้นมาก ย่อมไม่มีทางที่เขาจะสามารถพันธนาการด้วยทักษะเช่นนี้ได้

“ถ่วงเวลาฉันรึ?” เฉินผิงยกยิ้มแล้วเขาก็รีบใช้จิตตวิสุทธิของตนเอง โซ่ตรวนที่ก่อเกิดจากพลังแห่งเจตจำนงสังหารของหนีซื่อเต้าก็ถูกดูดเข้าไปในร่างของเฉินผิงอย่างรวดเร็ว

สีหน้าอิ่มอกอิ่มใจของหนีซื่อเต้าพลันแข็งทื่อไป เมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร