ซู่ชีเม่าทั้งหน้าแดงทั้งติดอ่าง เขาไม่รู้จะอธิบายยังไง
เฉินผิงยิ้มจางๆ แล้วบอกเขา “ไม่เป็นไรครับ ที่จริงผมโดนมัดมือชกให้เป็นเจ้าหุบเขายา คนที่ยังคอยดูแลหุบเขาอยู่จริงๆ คือคุณซูกับคนอื่นๆ”
“ใช่ ใช่ครับ” ซู่ชีเม่าพยักหน้าซ้ำๆจนเขาดูงุ่มง่าม
“อย่ามัวแต่ยืนเฉยสิครับ กินยาฟื้นฟูร่างแล้วก็รีบฝึกกันได้แล้ว” เฉินผิงบอก
จ้าวอู๋ฉีโบกมือเรียก จากนั้นหัวหน้าของแต่ละกลุ่มก็เดินออกมารับยา แล้วเอาไปแจกจ่ายให้คนในกลุ่ม
“ขอบคุณครับ คุณเฉิน”
สมาชิกกระทรวงยุติธรรมที่ได้รับยาฟื้นฟูร่างต่างปลื้มปีติและพากันขอบคุณเฉินผิง
“ในเมื่อผมรับปากว่าจะเป็นครูฝึกให้พวกคุณ นี่จึงเป็นสิ่งที่ผมควรทำ!” เฉินผิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณเฉิน ไปพักบ้างเถอะครับ ผมนัดหัวหน้าสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้เอาไว้แล้วในตอนเย็น และผมจะไปกับคุณด้วย ตราบใดที่เราอยู่กับคนของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งจิงตู ผมเชื่อว่าอีกหลายคนคงทั้งกลัวทั้งหวั่นเกรงก่อนที่จะกล้ามาหาเรื่องคุณ” จ้าวอู๋ฉีกระซิบที่ข้างหูของเฉินผิง
“ขอบคุณครับ นายพลจ้าว!”
เฉินผิงตอบอย่างซาบซึ้งใจ
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ คุณเฉิน ตอนนี้คุณคือคนของกระทรวงยุติธรรม ปัญหาของคุณก็คือปัญหาของผมด้วย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เชิญประมุขของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้มาไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่คนสำคัญขนาดนั้น” จ้าวอู๋ฉีกล่าวอย่างละอาย
“เพียงเท่านี้ผมก็ซึ้งใจแล้วครับ”
เฉินผิงรู้สึกขอบคุณจ้าวอู๋ฉีจากใจจริง เขากับตระกูลไป๋คือคนกลุ่มเดียวที่เฉินผิงไว้ใจได้ในจิงตู
พอตกค่ำ คนของกระทรวงยุติธรรมก็พาเฉินผิงไปที่ห้องโถง
เมื่อเฉินผิงไปถึงห้องโถง เขาก็เห็นชายแก่ในชุดฝึกซ้อมสีดำนั่งอยู่กลางห้อง ชายแก่คนนั้นดูมีสง่าราศี สีหน้าของเขานิ่งเฉย
จ้าวอู๋ฉียิ้มกว้างในระหว่างที่เขารินชาให้ผู้อาวุโส
พอเขาเห็นว่าเฉินผิงมาถึงแล้ว จ้าวอู๋ฉีก็รีบโบกมือเรียกแล้วแนะนำตัวเขากับเฉินผิง “คุณเฉิน ครับ นี่คือกั๋วเว่ยกั๋วเว่ย หัวหน้าสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งจิงตู”
เฉินผิงเพ่งมองกั๋วเว่ยเพื่อหยั่งความแข็งแกร่งของเขา เฉินผิงมั่นใจว่าระดับพลังของเขาอาจเทียบเท่าปรมาจารย์ผู้ฝึกยุทธ์ แม้แต่หลงอู่ก็อาจจะด้อยกว่าเขา
แม้ว่าจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่กั๋วเว่ยก็ไม่เก็บงำรัศมีของเขาเอาไว้เลย ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณกั๋ว”
เฉินผิงเอื้อมมืออกไปทักทายตามมารยาท
แต่กั๋วเว่ยก็เพียงแค่จ้องหน้าเฉินผิงอย่างเย็นชาและไม่ได้เอื้อมมือมาจับกับเขา “คุณคือเฉินผิงงั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ!” เฉินผิงยิ้มเจื่อนแล้วรีบหดมือกลับ
จ้าวอู๋ฉีมองเฉินผิงอย่างรู้สึกผิด แต่เฉินผิงก็ไม่ได้โทษเขา ถึงยังไงจ้าวอู่ฉีก็อุตส่าห์ลงแรงไปมากแล้วที่เชิญกั๋วเว่ยมาได้
กระทรวงยุติธรรมแห่งจิงตูดูเหมือนจะไม่อยู่ในสายตาของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ แม้แต่จ้าวอู๋ฉีที่เป็นนายพลแห่งกระทรวงยุติธรรมก็ยังไม่มีค่าพอที่เขาจะเสวนาด้วย
“คุณเป็นคนที่กลืนแก่นมังกรเข้าไปที่เกาะสะกดมังกรใช่ไหม?”
กั๋วเว่ยยังถามต่อ
เฉินผิงชะงักไปชั่วครู่ เขาไม่ตอบในทันทีเพราะเขาไม่รู้ว่ากั๋วเว่ยจะทำอะไรต่อจากนั้น
“คุณเฉิน คุณกั๋ว..”
กั๋วเว่ยโบกมือห้ามจ้าวอู๋ฉีเอาไว้ แววตาเย็นชาของเขาจับจ้องเฉินผิง
เฉินผิงกัดฟันตอบ “ใช่ครับ ผมคือคนที่กลืนแก่นมังกรเข้าไป”
ทันทีที่เฉินผิงยอมรับ กั๋วเว่ยก็หัวเราะขึ้นมาดังลั่น “ใจเย็น คุณไม่ต้องเครียดนักหรอก ผมไม่สนใจแก่นมังกรที่คุณกลืนเข้าไปหรอกนะ และผมก็จะไม่ฆ่าคุณเพื่อแย่งมาด้วย แก่นมังกรอาจเป็นของล้ำค่าสำหรับคุณ แต่ที่สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ยังมีอีกหลายอย่างที่มีค่ายิ่งกว่านั้น”
เฉินผิงโล่งใจขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินคำพูดของกั๋วเว่ย เพราะพลังของเขาเทียบเท่ากับปรมาจารย์ผู้ฝึกยุทธ์ ถ้ากั๋วเว่ยอยากจะได้แก่นมังกรจนพยายามฆ่าเฉินผิง เขาก็คงไม่มีทางโต้กลับได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ไม่เด็ดขาดสักที เวลาสู้กัน รอดตลอดทั้งที่พลังว่าแกร่งดาบก็เทพ แต่ฟาดออกไปไม่เด็ดขาดสักครั้ง...
น่าจะฝึกให้แกร่งขึ้นตั้งแต่แรกแล้วมาช่วยร่างน้ำแข็ง เอาแก่นมังกรให้ครบสองอัน น่าจะมีคนบอกวิธีการบำเพ็นเพรียรที่เก่ง เฉินเป่ยซานน่าจะช่วยได้อิอิ อ่อคนละเรื่อง...
ติดตามอ่านทุกวันเลย ขอบคุณที่อัพเดตให้ได้อ่านทุกวันนะครับ สนุกมากๆเลย แต่อยากให้อัพเดตเพิ่มขึ้นอีกนิดจะขอบคุณมากเลยครับ...
ยังไปได้อีกไกล ตอนนี้ยังเทียบได้แค่ฝุ่นในจักรวาล อยากอ่านต่อเร็วๆแล้วสิ...
เรื่องนี้มันมีหนังสือหรือป่าวอ่านแล้วรู้สึกว่านี้แค่เริ่มต้นเรื่องช่วงเก็บเกี่ยววิชาอยู่เลย...
สนุกและติ่นเต้นมากขึ้นๆทุกวันเลยครับ ขอบคุณที่คอยอัพเดตเนื้อหาให้ได้อ่านทุกวันครับ...
สนุกทุกตอนครับ...
รออ่านตอนต่อไป...
ขอบคุณมากครับที่คอยอัพเดตให้ได้อ่านทุๆวัน เป็นกำลังใจให้เสมอครับ...
รออ่านตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว สนุกมากๆเลย ยิ่งอ่านยิ่งสนุกยิ่งตื่นเต้น...