หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 902

เฉินผิงต้องการจะบรรลุขั้นหลุดพ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาไปถึงขั้นก่อแกนกลาง ก่อนจะเตรียมจุดชีพจรตันเถียน จากนั้น พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

เมื่อเป็นเช่นนี้ เฉินผิงก็จะเทียบได้เท่ากับปรมาจารย์การต่อสู้แล้ว และด้วยกระบี่พิฆาตมังกร เขาก็อาจจะมีพลังมากเพียงพอกับการต่อสู้กับปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้

เขาไม่อาจต้านทานปรมาจารย์การต่อสู้ได้ด้วยพลังในปัจจุบันของเขา

“คุณกั๋วต้องเคยเห็นทรัพย์สมบัติมามากมาย ดังนั้นเขาคงจะไม่สนใจในแก่นมังกรหรอก”

จ้าวอู๋ฉีเริ่มประจบกั๋วเว่ย

“นายพลจ้าว คุณอย่าได้ชมผมมากเกินไป ผมก็ไม่ได้สนใจแก่นมังกรก็จริง แต่คุณไม่รู้หรอกว่าผมชอบอะไร และผมหวังว่า คุณจะไม่ลืมสัญญานะ”

กั๋วเว่ยไม่ได้ติดกับคำเยินยอจากจ้าวอู๋ฉี แต่เขากลับพูดตอบไปอย่างเย็นชา

จ้าวอู๋ฉีนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ผมรักษาสัญญาอยู่แล้ว แต่ทว่า เรื่องของคุณเฉิน…”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมจะแจ้งทุกสำนักในนามของสมาคมศิลปะการต่อสู้ ว่าห้ามใครทำร้ายเฉินผิงเด็ดขาด ก่อนที่จะมีการแข่งขันระดับนานาชาติ เพราะถึงอย่างไร เฉินผิงก็เป็นตัวแทนของอาณาจักรต้าซย่า!” กั๋วเว่ยให้คำมั่น

จ้าวอู๋ฉีดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น “ขอบพระคุณมากครับคุณกั๋ว”

ตราบใดที่สำนักใหญ่ๆ ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับเฉินผิงก่อนที่จะมีการแข่งขัน เขาก็จะสามารถส่งเฉินผิงออกไปจากเมืองหลวงได้อย่างลับๆ หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน และเฉินผิงก็จะไปซ่อนที่ไหนก็ได้

กั๋วเว่ยเหลือบมองเฉินผิงอีกครั้ง ก่อนที่จะยืนขึ้นและเดินจากไป ขณะที่เขากำลังจะออกไปนั้น กั๋วเว่ยก็ตวัดนิ้วและยิงลำแสงสีขาวใส่ร่างของเฉินผิง

เฉินผิงตกตะลึง เขารีบพยายามกำจัดลำแสงสีขาวนั้นออกจากร่างกาย แต่เขาก็หาลำแสงสีขาวในร่างเขาไม่พบ แม้เขาจะหมุนเวียนพลังชี่ในตัวแล้วก็ตาม

“คุณกั๋ว…”

จ้าวอู๋ฉีรู้สึกสับสนไปหมด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมกั๋วเว่ยถึงได้โจมตีเฉินผิงหลังจากที่ได้รับประกันความปลอดภัยให้กับเขาแล้ว

“คุณไม่ต้องตกใจไปหรอก ผมเพียงแค่ตีตราเขาไว้เท่านั้นเอง เขาจะไม่สามารถออกจากเมืองหลวงไปได้โดยไม่ได้รับอนุญาต จนกว่าผมจะได้ในสิ่งที่ผมต้องการ”

กั๋วเว่ยเดินจากไปทันทีที่เขาพูดจบ

เฉินผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพยายามค้นหาไปทั่วร่างของเขาแต่ก็ไม่พบตราที่ว่านั้นเลย

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นถึงปรมาจารย์การต่อสู้ เขานี่เยี่ยมไปเลยจริงๆ”

เฉินผิงได้แต่ยืนดูชายแก่คนนั้นตีตราเขาด้วยความสิ้นหวัง เขาห้ามมันไว้ไม่ได้ และแม้แต่หาร่องรอยของตรานั้นก็ยังไม่เจอ ช่องว่างระหว่างระดับพลังของพวกเขานั้นช่างห่างไกลกันเหลือเกิน

หลังจากส่งกั๋วเว่ยออกไปแล้ว จ้าวอู๋ฉีก็เดินกลับมาและพูดว่า “คุณเฉิน คุณไม่ต้องห่วงอีกต่อไปแล้วล่ะ ตอนนี้สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้จะเป็นผู้ประกาศเอง สำนักต่างๆ จะต้องไม่กล้ามาลองดีกับคุณในช่วงนี้อย่างแน่นอน…”

“นายพลจ้าว คุณไปสัญญาอะไรกับเขาไว้?”

เฉินผิงรู้ว่ากั๋วเว่ยช่วยเขาเพราะจ้าวอู๋ฉีตกลงทำตามคำขอของเขานั่นเอง

“ไม่มีอะไรหรอก คุณตั้งใจเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันก็พอ ผมจะจัดการที่เหลือเอง”

จ้าวอู๋ฉีตัดสินใจไม่บอกเขา

เฉินผิงไม่ได้ถามอะไรเขาเพิ่มอีก เขาไม่รู้ความซับซ้อนของเส้นสายความสัมพันธ์ในจิงตู จึงเป็นการไร้ประโยชน์เสียเปล่าๆ หากจะถามออกไป

วันต่อมา สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ก็โพสต์ข้อความลงในสภายุทธจักร

“เฉินผิงเข้าทำงานกับกระทรวงยุติธรรมแล้ว และจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันระดับนานาชาติในอีกสองสามวันนี้ ดังนั้นก่อนการแข่งขัน ห้ามสำนักทั้งหลายและบุคคลใดบุคคลหนึ่งสร้างปัญหาให้กับเฉินผิงเป็นอันขาด ไม่ว่าจะมีความแค้นส่วนตัว หรือเกลียดเขามากขนาดไหนก็ตาม…”

ข้อความนั้นแพร่ออกไปราวกับไฟลามทุ่ง เมื่อเฉินผิงได้ต่อสู้กับฉินเซียวหลินและฆ่าเขาตาย เขาก็กลายเป็นประเด็นร้อนอยู่ในสภายุทธจักรอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่ทว่าก็มีคนแค่บางส่วนที่รู้จักเขา และอาจารย์ศิลปะการต่อสู้หลายๆ คนก็ไม่ได้ใส่ใจเขาเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรเสีย การต่อสู้ในครั้งนั้นก็เป็นแค่การวัดพละกำลังของพวกที่ด้อยกว่า และพวกเขาไม่มีค่าพอให้ต้องสนใจเลยแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร