ในขณะเดียวกัน จู้จื่อซาน กั๋วเว่ยกับพวกระดับสูงคนอื่นๆ ของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้มารวมตัวกัน การประลองจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาจำต้องตรวจดูทุกรายละเอียดให้ถ้วนถี่ในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมดูแลองค์กรผู้ฝึกยุทธ์ ถ้ามีข้อผิดพลาดใดๆ พวกเขาย่อมต้องรับผิดชอบ
“ท่านประธานจู้ สถานที่จัดงานในครั้งนี้คือสุสานจักรพรรดิใต้ดินที่มีอายุกว่าพันปี อาจจะมีของวิเศษล้ำค่าจำนวนมากอยู่ในนั้น ควรให้สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ส่งคนจำนวนหนึ่งแอบเข้าไปเอาออกมาดีไหมครับ?” กั๋วเว่ยถามจู้จื่อซานด้วยความรอบคอบ
จู้จื่อซานส่ายหน้า “คุณชี่จะเข้าไปดูแลสถานที่ด้วยตัวเอง เราอาจจะโดนจับได้ถ้าแอบส่งคนเข้าไป”
“งั้นเราจะเอาแต่นั่งดูของวิเศษโดนสำนักกับตระกูลอื่นฉกเอาไปเหรอครับ?”
กั๋วเว่ยไม่พอใจและคิดว่าแบบนั้นมันช่างเสียเปล่า
“อย่ากังวล ฉันคุยกับหลงจิ้งกั๋วแล้ว นายจะต้องนำทางคนที่เข้าร่วมการประลอง แต่นายต้องดูแลตระกูลหลงเป็นพิเศษ เมื่อถึงเวลา พวกเขาจะแบ่งของวิเศษกับสมบัติที่ได้มาให้เรา ห้าสิบ-ห้าสิบ”
จู้จื่อซานเตรียมแผนไว้ในหัวแล้ว
“เข้าใจแล้วครับ” กั๋วเว่ยพยักหน้า
วันต่อมา การประลองได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เฉินผิงกับจ้าวอู๋ฉีรีบเร่งไปสถานที่จัดงาน เมื่อไปถึงก็พบกับคนจำนวนมหาศาลอยู่ที่นั่น สำนักและตระกูลหลายแห่งไปถึงก่อนแล้ว
เนินดินที่เฉินผิงไปพบเข้าตอนนี้ถูกไถจนราบเรียบ มีรั้วสูงล้อมรอบเหลือไว้แต่เพียงทางให้เข้า มีปรมาจารย์ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเจ็ดสองคนยืนอยู่ตรงนั้น คอยเฝ้าทางเข้าไม่ให้ใครแอบเข้าไป
“กรุณาแสดงบัตรเชิญด้วย ถ้าไม่มีบัตรเราจะไม่ให้เข้าไป”
เมื่อเฉินผิงกับจ้าวอู๋ฉีไปถึงทางเข้า คนคุ้มกันทั้งสองยื่นมือเข้ามาขวางทางเอาไว้
เฉินผิงเอาบัตรเชิญออกมาให้ดูและเข้าไปพร้อมกับจ้าวอู๋ฉี
เขาเห็นหลุมลึกทันทีที่เข้าไป ที่ด้านในหลุมมีประตูหินขนาดใหญ่กั้นทางเข้าเอาไว้ ผลักประตูให้เปิดออกก็จะเข้าไปด้านในสุสานจักรพรรดิได้
พอมองดูขนาดของสุสานจักรพรรดิ เฉินผิงก็แน่ใจว่าด้านในจะต้องมีของวิเศษและกับดักอยู่นับไม่ถ้วน
“เฉินผิง!”
เฉินผิงที่กำลังเพ่งพินิจสุสานจักรพรรดิโดนขัดขึ้นเมื่อได้ยินใครสักคนเรียกเขา
พอมองไปที่คนเรียก เขาก็เห็นจ้าวฉวางกับปรมาจารย์ผู้ฝึกยุทธ์สองคนเดินตามเขา
“จ้าวฉวาง มาทำอะไรที่นี่ครับ?” เฉินผิงถามอย่างฉงน
จ้าวฉวางคงโดนหัวเราะเยาะ ถ้าเขาร่วมลงแข่งการประลองด้วยระดับฝีมือที่มีอยู่ตอนนี้
“แหงอยู่แล้ว! ผมมาที่นี่เพื่อลงแข่งการประลองครับ” จ้าวฉวางเอ่ยอย่างตื่นเต้น
เฉินผิงพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินที่เขาตอบ เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าจ้าวฉวางจะเข้าร่วมด้วย
“นี่คุณจะฆ่าตัวตายเหรอที่เข้าร่วมการประลองด้วยฝีมือเท่านี้? คุณรู้ไหมว่าในสุสานจักรพรรดิที่ถูกปิดตายมาเป็นพันปีจะอันตรายขนาดไหน?”
เฉินผิงไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวลี่กั๋วถึงปล่อยให้จ้าวฉวางเข้าร่วมการประลอง
“ผมไม่กลัวหรอก พ่อบอกผมว่าคุณเองก็เข้าร่วมการประลองด้วย ก็เลยบอกให้ผมตามคุณไป อีกอย่างผมยังพายอดฝีมือมาด้วยสองคน”
จ้าวฉวางใช้นิ้วโป้งชี้ไปที่ชายสองคนด้านหลัง
“คุณเฉิน” ชายทั้งสองทักทายเฉินผิงด้วยความเคารพตามลำดับ
เฉินผิงพยักหน้าตอบรับเบาๆ ปรมาจารย์ผู้ฝึกยุทธ์ระดับสามสองคน พวกเขาไม่ได้อ่อนแอเลย แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเช่นกัน ถ้าเทียบกับพวกนักสู้ที่สำนักกับตระกูลอื่นส่งมา
“ตามผมมา และอย่าคลาดกันกับผม มีอันตรายที่เราไม่รู้อยู่มากในสุสานจักรพรรดิ ผมเองยังไม่แน่ใจเลยว่าจะรับมือไหวหรือเปล่า” เฉินผิงบอกจ้าวฉวาง
“ไม่ต้องห่วงเฉินผิง ผมจะฟังที่คุณบอกทุกคำ พ่อบอกให้เราปกป้องคุณด้วยชีวิตถ้าคุณตกที่นั่งลำบาก” จ้าวฉวางกล่าวพร้อมยิ้มกว้าง
เฉินผิงตบไหล่จ้าวฉวางสองสามที “เราจะไม่เป็นอะไร ถ้าเราระวังตัว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร