หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 982

ด้วยความกังวล จ้าวฉวางพูดกับเฉินผิงว่า “งั้นก็ระวังด้วย!”

ต่งเจียห่าวพูดขึ้นมาว่า “ดูจากความสามารถของคุณแล้ว นี่ไม่ใช่ว่าคุณกำลังรนหาที่ตายอย่างนั้นเหรอ? เฉินผิง เพราะขนาดประมาณการยุทธ์ระดับเจ็ดยังไปได้ไกลเพียงแค่ยี่สิบเมตรก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับวงแหวนอาคมนี่เลยนะ”

“ไหนๆ เราก็อยู่ตรงนี้แล้ว ทำไมไม่ลองดูก่อนล่ะ?”

เช่นนั้นแล้ว เฉินผิงก็ค่อยๆ รวบรวมออร่าที่แข็งแกร่งออกมาผ่านร่างกายเขา ไม่นานนักก็มีเกล็ดค่อยๆ งอกออกมาจากร่างกายเขาและปกคลุมไปทั่วจนกลายเป็นเกราะสีทอง

ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเฉินผิง รวมถึงหลงเซียวที่กำลังเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

เฉินผิงไม่สนใจผู้คนที่ตระหนกอยู่และเดินลึกเข้าไปในสุสาน

ตูม!

ไม่นานนัก เจตจำนงสังหารอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าใส่เฉินผิงเหมือนสัตว์ร้าย

แรงกระแทกที่เกิดจากการโจมตีนั้นคล้ายกับการถูกรถไฟความเร็วสูงชนกลับมา

มันส่งให้เฉินผิงลอยคว้างกระเด็นกลับมาข้างหลัง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าครั้งก่อน ต้องขอบคุณที่เขาเตรียมการไปอย่างเพียงพอ

จ้าวฉวางถามว่า “คุณบาดเจ็บไหม เฉินผิง?”

เฉินผิงส่ายหน้าก่อนจะตรงเข้าไปยังสุสานอีกครั้งหนึ่ง

เจตจำนงสังหารอีกระลอกพุ่งเข้าใส่เฉินผิงอีกครั้ง เมื่อเขาฝ่าฝืนเข้าไปในวงแหวนอาคม แต่คราวนี้ เฉินผิงชูกำปั้นขึ้นก่อนจะเรียกเอาโล่ออกมา

โครม!

ร่างของเฉินผิงสั่นสะท้านจากคลื่นกระแทกของเจตจำนงสังหารที่พุ่งเข้าใส่โล่ของเขา แม้ว่าแขนของเขาจะรู้สึกชา แต่ในครั้งนี้เขาก็ตรึงตัวเองไว้กับพื้นสำเร็จ ไม่กระเด็นถอยหลังไปเหมือนคราวก่อนๆ อีกแล้ว

เฉินผิงดีใจมากที่รู้ว่าวิธีของเขาได้ผล

เขาหายใจเข้าก่อนจะเดินลึกเข้าไปในสุสาน เจตจำนงสังหารที่แผ่ออกมาจากวงแหวนอาคมยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อเขาเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ

เฉินผิงรู้สึกราวกับว่าเขากำลังพยายามเคลื่อนย้ายภูเขาลูกมหึมา ในทุกชั่วขณะจิต เจตจำนงสังหารยังคงพุ่งเข้าใส่ร่างของเขาอยู่เป็นระยะๆ และมีแสงสีทองเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขาอีกด้วย

สีหน้าของเขาเคร่งเครียดยิ่งขึ้นขณะที่พึมพำออกมาว่า “มันมีบ้าอะไรอยู่ข้างในกันเนี่ย? ทำไมถึงได้มีคนสร้างวงแหวนอาคมที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไว้เพื่อซ่อนมันด้วย?”

จ้าวฉวางกำหมัดแน่นด้วยความกังวลขณะมองดูเฉินผิงเดินลึกเข้าไปในสุสานเรื่อยๆ

ต่อมาไม่นานนัก ก็มีลำแสงส่องเข้ามากระทบดวงตาของเฉินผิง เขามองเห็นสุสานที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างคลุมเครือ ส่วนลำแสงนั้นส่องผ่านเข้ามาทางประตูสุสาน แต่จะมีอะไรอยู่ข้างในสุสานนั้น เขาไม่รู้จนกว่าจะได้เดินเข้าไปดูด้วยตาตนเอง

เฉินผิงพยายามเเร่งฝีเท้าและตรงเข้าไปยังสุสาน แต่อนิจจา ขาของเขากลับหนักราวกับแท่นตะกั่ว น้ำหนักมหาศาลกดทับลงบนร่างของเขา ทำให้ทุกย่างก้าวนั้นยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม

เขากัดฟันแน่นด้วยความรู้สึกผิดหวังที่สุสานอยู่ตรงหน้าแล้วแต่เขากลับเอื้อมไม่ถึง ในที่สุด เขาก็เริ่มเดินตรงเข้าไปยังประตู ราวกับเป็นเด็กทารกที่พึ่งหัดเดินก้าวแรกด้วยความลังเลใจ

“คุณอยู่ไหน? เฉินผิง”

ทันใดนั้น เสียงของจ้าวฉวางก็ดังก้องอยู่ข้างหลังเฉินผิง เขาหันหลังไปและเห็นจ้าวฉวางยังคงยืนอยู่ที่เดิมตั้งแต่เมื่อเขาจากมา

ด้วยความสับสน เฉินผิงตะโกนกลับไปว่า “ผมอยู่ไม่ไกลจากคุณ คุณเห็นผมไหม?”

“ผมมองไม่เห็นคุณเลย คุณดูเหมือนจะหายไปในอากาศ” จ้าวฉวางตอบ

ทันใดนั้นเอง เฉินผิงก็ตระหนักได้ว่าวงแหวนอาคมสามารถแปรสภาพตัวเองให้กลายเป็นภาพลวงตาได้ ความจริงแล้ว พวกเขาอยู่ใกล้สุสานมาก แต่ไม่สามารถมองเห็นได้เลยจนกว่าจะฝ่าวงแหวนอาคมนั้นเข้ามาได้

เฉินผิงตัดสินใจทิ้งจ้าวฉวางเอาไว้ก่อนและเดินหน้าต่อไป

แกร๊ก!

เกล็ดสีทองบนร่างกายเฉินผิงเริ่มแตกออก และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็มีแรงกดดันอันมหาศาลเข้าห้องล้อมร่างกายเขา จนทำให้เขาทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้บนพื้น

ร่างของเขาเริ่มมีเลือดที่ไหลอยู่ภายใต้เกล็ดที่แตกออก เพราะพวกมันเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของผิวเขานั่นเอง

เฉินผิงร้องลั่น “อ้าก!”

แสงสีทองรอบกายเขายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และพลังชีพภายในจุดชีพจรตันเถียนก็ไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างไม่รู้จบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร