หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 983

เฉินผิงใช้พลังจิตตวิสุทธิอย่างเต็มที่เพื่อสู้กลับ แต่จิตวิญญาณอมตะและแก่นมังกรภายในร่างของเขากลับแตกออกอย่างน่าประหลาดใจด้วยแรงกดดันอันมหาศาลนี้

เมื่อเป็นแบบนี้ ชีวิตของเฉินผิงก็จะต้องถึงคราวอวสานหากจิตวิญญาณอมตะของเขาถูกทำลายไป แม้ว่าเขาจะรอดมาได้อย่างปาฏิหารย์ เขาก็จะพิการอย่างถาวรเป็นแน่

แกร๊ก!

เสียงแตกดังสนั่นออกมาอีกครั้ง และเกร็ดบนร่างของเฉินผิงก็หักออกมากขึ้น โดยมีเลือดไหลซึมออกมาจากผิวของเขา

เกล็ดสีทองบนร่างของเฉินผิงค่อยๆ แตกออกราวกับยอมจำนน เผยให้เห็นบาดแผลสดที่มีเลือดออกอยู่ข้างใต้เกล็ดเหล่านั้น

ดวงตาของเฉินผิงแดงก่ำจากความพยายามจะต้านทานแรงกดดันมหาศาลเอาไว้ ซึ่งมันคุกคามเขาจนแทบจะทำให้เขาแบนติดไปกับพื้น

แม้จะต้องดิ้นรนต่อสู้เพียงใด เขาก็ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างช้าๆ เขาอยากขอบคุณสวรรค์ที่ได้เข้าใกล้สุสานไปอีกหลายเซ็นติเมตร เพราะการหันหลังกลับไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไปแล้ว หากจำเป็นต้องคลานเพื่อเข้าไปยังสุสาน เขาก็จะทำ

ภายในชั่วพริบตา แรงกดดันที่ท่วมท้นก็ทำให้เฉินผิงลงไปนอนเหยียดแขนขาอยู่กับพื้น พื้นนั้นเป็นพื้นหินอัคนีที่แข็งแกร่งแต่มันก็ยังแตกเป็นเสี่ยงๆ

เขาใช้ความแข็งแกร่งทุกหยาดหยดในแขนขาของเขาคลานตรงไปยังสุสาน

เขากัดฟันแน่นจนฟันแทบจะแตกออกมา

ลำแสงสีทองที่โอบล้อมรอบกายเขาเริ่มค่อยๆ สลัวลงเรื่อยๆ

ในเวลาเดียวกันนั้น เกล็ดที่ปกคลุมร่างกายของเขาอยู่ก็ค่อยๆ จางหายไป เผยร่างของเฉินผิงให้ปะทะกับเจตจำนงสังหารโดยตรง

ทุกระลอกคลื่นให้ความรู้สึกราวกับดาบคมกริบฟาดไปทั่วร่างของเฉินผิงโดยทิ้งบาดแผลที่เต็มไปด้วยเลือดไว้เบื้องหลัง

เฉินผิงกัดฟันขยับไปข้างหน้า ทิ้งรอยเลือดไหลเป็นทางไว้ข้างหลังเขา

เขาเกือบจะถึงประตูอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะพิชิตระยะทางนี้ไม่ได้เสียที

เฉินผิงเอื้อมมือออกไป เขารู้สึกราวกับว่าได้สัมผัสประตูและขอบของวงแหวนอาคม เมื่อเขาข้ามเส้นนั้นไปเขาก็จะอยู่ภายในสุสานได้แล้ว

ด้วยอาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้า เฉินผิงไม่สามารถก้าวต่อไปได้อีกแล้วแม้แต่ก้าวเดียว เขามุ่งความสนใจไปยังการเลื่อนนิ้วผ่านขอบของวงแหวนอาคมแทน

แรงกดดันที่ทำให้เขาแทบหายไปไม่ออกพลันหายไปทันทีเมื่อนิ้วของเฉินผิงข้ามเส้นขอบวงแหวนอาคมไป เจตจำนงสังหารก็หายไปเช่นเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงของแรงกดดันอย่างกระทันหันทำให้เฉินผิงกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

ตอนนี้เขาเห็นสุสานอย่างชัดเจนแล้ว ส่วนในอีกด้านหนึ่ง จ้าวฉวางและตระกูลอื่นก็เห็นร่างของเฉินผิงแล้วเช่นกัน

เฉินผิงนอนจมกองเลือดบนพื้นห่างจากพวกเขาอยู่หลายสิบเมตร มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองและน่ากลัวเป็นอันมาก

จ้าวฉวางร้องออกมาว่า “เฉินผิง!”

เขาพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเหล่าผู้ติดตามของเขา ระยะทางนั้นไม่ไกลมากนักที่จะเดินเข้าไปถึง แต่เมื่อครู่นี้เฉินผิงเกือบจะต้องเสียชีวิตจากการเดินทางมาในระยะแค่นี้

จ้าวฉวางรีบช่วยเฉินผิงที่กำลังสะบักสะบอมให้ลุกขึ้นยืน

ต่งเจียห่าวก็เข้ามาหาพวกเขาเช่นกันก่อนจะถามว่า “บาดเจ็บสาหัสมากไหม เฉินผิง?” เขาประทับใจเฉินผิงอย่างเห็นได้ชัด

เฉินผิงอ่อนแอลงมากจากการต่อสู้ดิ้นรนเมื่อครู่นี้ แต่ไม่ได้เป็นอันตรายจนถึงชีวิต เขารวบรวมรอยยิ้มก่อนจะส่ายหัวเพื่อเป็นการตอบคำถามของต่งเจียห่าว

และในขณะนั้น หลงเซียวก็นำคนของเขาพุ่งตรงเข้าไปภายในสุสานทันที ในนั้นมีภาพวาดแขวนอยู่บนผนังห้อง เป็นภาพภูเขาที่ล้อมรอบแม่น้ำซึ่งมีคนเลี้ยงแกะยืนอยู่บนทางลาดตรงเนินเขา ภาพวาดนั้นสมจริงมากจนร่างที่ยืนนั้นดูราวกับเป็นมนุษย์จริงๆ

ทางด้านซ้ายของภาพวาดมีคำอยู่ไม่กี่คำเขียนเอาไว้ว่า ห่างออกไปหลายพันไมล์ และนอกเหนือจากภาพวาดนี้ ภายในสุสานก็ไม่มีอะไรอีกเลย

“นี่คือของวิเศษอย่างงั้นเหรอ?”

หลงเซียวเอื้อมมือจะไปคว้าภาพวาด แต่ก็ถูกหลงซิงซูห้ามไว้และเตือนเขาว่า “ระวังด้วยครับ คุณหลงเซียว! มันอาจเป็นกับดักอีกก็ได้!”

คำเตือนของเขาทำให้หลงเซียวชักมือกลับมาทันที เมื่อได้เผชิญกับกับดักในสุสานโบราณมาก่อนหน้านี้แล้ว เขาจึงเลือกที่จะระมัดระวังและไม่ทำผิดพลาดอีก

ในขณะนั้น จ้าวฉวางก็พยุงเฉินผิงเข้าไปในสุสาน เฉินผิงตกตะลึงไปเมื่อเขาเบนสายตาไปเห็นคำว่าห่างออกไปหลายพันไมล์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร