หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 117

เห็นว่าสถานการณ์แย่แล้ว หทัยก็ล้มตึงทันที คุกเข่าลงกับพื้นกุมหัวใจหายใจกระหืดกระหอบ แสดงสีหน้าเจ็บปวดอย่างยิ่ง

วันชัยได้ยินเสียง ก็หันศีรษะกลับมาฉับพลัน

เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า เขาก็ก้าวเท้ายาวกลับมาตรงหน้าเธอทันที ประคองเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้วพูดเป็นห่วง “เธอเป็นยังไงบ้าง?”

หทัยกุมตำแหน่งหัวใจตัวเองขณะส่ายหน้า “ไม่……ไม่โอเค แผลฉันเจ็บอีกแล้ว อาจจะเป็นเพราะเมื่อกี้สะเทือนอารมณ์เกินไป”

วันชัยใจอ่อนแล้ว “งั้นฉันจะพยุงเธอกลับไปพักผ่อน”

หทัยส่ายหน้า ร้องไห้ขณะพูด “ฉันไม่อยากกลับไปพักผ่อน ฉันคิดว่าฉันตายไปซะดีกว่า ตาเป็นแบบนี้แล้ว ฉันอยู่ไปจะมีความหมายอะไรอีก?”

“ที่รัก ตอนนี้ฉันเข้าใจหลายเรื่องแล้วจริงๆ ในมุมมองฉัน มุมหนึ่งฉันก็เกลียดเธอมากจริงๆ ทำไมเธอถึงน่าผิดหวังแบบนี้นะ? ทั้งๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าจะไม่เล่นงานนันท์อีก ทำไมเธอต้องทำเกินไปแบบนี้ด้วย? ฉันคิดว่าเธอควรรับโทษทางกฎหมาย”

“แต่อีกมุมหนึ่ง ฉันก็รู้สึกแย่มาก ไม่อยากเลย ยังไงเธอก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขฉัน ออกมาจากร่างกายฉัน……ฉันจะปล่อยไปโดยที่ไม่สนใจไม่ได้”

“ฉันรู้สึกแย่มากเลย สู้ตายไปเลยซะดีกว่า จริงๆ ฉันคิดว่าฉันน่าจะตายไปซะตั้งแต่วันนั้นที่ขวางมีดให้คุณ ตายแล้วจะได้ไม่มีปัญหามากมาย”

หทัยเอ่ยปากเน้นย้ำสะอึกสะอื้น

ได้ยินคำว่าขวางมีดสองคำ วันชัยก็ปวดใจขึ้นมา น้ำเสียงก็อ่อนโยนตาม “แต่เรื่องนี้เธอทำเกินไปแล้ว ฉันต้องสั่งสอนเธอหน่อย ไม่งั้นต่อไปเธอก็จะรนหาที่ตายอีก”

“งั้นหาวิธีให้ตำรวจลดโทษเธอสักหน่อย ตอนนี้ฉันไม่ขอร้องขอให้พาเธอออกมาหรอก แค่ให้เธออยู่ในนั้นน้อยลงก็ยังดี คุณว่าแบบนี้โอเคไหม?” หทัยพูดอีกครั้ง

ในเมื่อเขาไม่ยอม งั้นก็ถอยออกมาหนึ่งก้าว เธอมั่นใจว่าคำพูดหลั่งน้ำตาของตัวเองจะต้องทำให้วันชัยใจอ่อนได้แน่นอน

ยังไงตอนนี้ในใจเขาก็รู้สึกผิดกับเรื่องที่เธอขวางมีดอยู่ตลอด

“ฉันจะลองคิดดูแล้วกัน” วันชัยขมวดคิ้วอย่างหมดหนทาง

“จริงเหรอ? ที่รัก?” หทัยรีบกอดวันชัยทันที แล้วถามอย่างตื่นเต้น

สิ้นคำพูด เธอก็พิงร่างวันชัยอย่างไร้เรี่ยวแรงขณะหายใจหอบ “ที่รัก ฉันไม่มีแรงแล้วจริงๆ คุณพยุงฉันกลับห้องได้ไหม?”

วันชัยพยักหน้า ประคองหทัยเดินไปข้างนอกอย่างระมัดระวัง

หทัยขาอ่อนทันที มือข้างหนึ่งกุมหน้าผาก “โอ๊ย ไม่ได้ ฉันเดินไม่ได้ ข้างหน้าตาลายไปหมด อาจจะเพราะแผลยังไม่หายดี วันนี้ขยับเยอะเกินไปอีก”

วันชัยอุ้มเธอขึ้นมาเดี๋ยวนั้นในท่าเจ้าสาว สีหน้าอ่อนโยนมากขึ้น “ฉันอุ้มเธอเอง”

หทัยยิ้มอ้อนและไร้เรี่ยวแรง อิงแอบแนบชิดเขาไปทั้งร่าง “ขอบคุณค่ะที่รัก คุณไม่ได้อุ้มฉันแบบนี้นานมากแล้ว มีความสุขมากเลย”

วันชัยยิ้ม จากนั้นก็อุ้มหทัยออกไปจากห้องทำงาน

หทัยก็ยิ้มเช่นกัน มุมปากวาดโค้งร่าเริงและภูมิใจ

เมื่อชัชนันท์และแทนไทขึ้นมาข้างบน ก็เห็นภาพสามีภรรยาเฒ่ารักใคร่กัน

เห็นท่าทางออดอ้อนของหทัย ในใจชัชนันท์ก็แค่นยิ้ม

เธอตีหน้าตายควงผู้ชายข้างกายเดินไปตรงหน้าพวกเขาทันที แล้วทักทายอย่างมีมารยาท “พ่อคะ คุณป้าคะ”

เดิมทีแล้วเพราะเธอยังเป็นห่วงคุณพ่อตัวเอง เลยอยากกลับมาดูสักหน่อย

เห็นเขาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว

ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องเป็นห่วง ควรจะเป็นทางสถานีตำรวจ

เกรงว่าหทัยคงโน้มน้าวคุณพ่อให้ช่วยชลิตาแล้ว

เสียเปรียบไปตั้งมากมาย เห็นได้ชัดว่าหทัยฉลาดขึ้น

ในใจก็เข้าใจทุกอย่างไปหมด แต่เธอสงบเยือกเย็น ทำหน้าสุขุมเหมือนเคย

เพราะเธอจะไม่ให้หทัยสมหวัง

“อืม……นันท์ พ่อแทน ป้าเธอไม่สบาย ฉันต้องอยู่กับหล่อน ถ้าพวกเธอไม่มีอะไรแล้ว ก็ไปเที่ยวกันเถอะ ไม่ต้องห่วงเรา” วันชัยพูด

“ได้ค่ะพ่อ พ่อกับคุณป้าดูแลสุขภาพด้วยนะคะ” ชัชนันท์พูด

สิ้นคำพูด เธอก็หันหลังพาผู้ชายข้างๆ เดินจากไป

กลับมาในรถ โทรศัพท์ชัชนันท์สั่นขึ้นมา คนที่โทรมาคือนลิน เธอสวมหูฟังแล้วกดรับสายทันที จากนั้นก็สตาร์ทรถ

กลับหัวรถขณะพูดขึ้น “นลิน มีอะไร?”

“คุณนันท์ ด้านมาวินขอชลิตาหย่าแล้ว มีท่าทีแน่วแน่มาก” ทางด้านนลินพูดขึ้น

ชัชนันท์ยิ้ม “หย่า?”

“ใช่……เมื่อกี้ฉันไปทำธุระที่สถานีตำรวจนิดหน่อย ได้ยินคนที่นี่พูด” ทางด้านนลินพูดอีกครั้ง

ถึงจะเป็นสิ่งที่คาดคิดไว้ แต่เธอฟังแล้วก็ยังรู้สึกอารมณ์ดี

“รู้แล้ว” ชัชนันท์พูด

จากนั้นเธอก็วางสาย เหยียบคันเร่งขับมาเซราติออกไป

แทนไทสูบบุหรี่อย่างเงียบเชียบอยู่ข้างๆ ตลอด ถึงจะไม่เปล่งเสียง แต่ร่างกายก็ให้ความรู้สึกยากที่จะเพิกเฉย

…………

กลับมาถึงบ้าน ชัชนันท์ถอดรองเท้าส้นสูงที่เท้าออกอย่างเหนื่อยล้า แล้วนั่งบนโซฟาทันที

ใครจะไปรู้ ตั้งแต่งานเลี้ยงกลับบ้านของชลิตาจนถึงตอนนี้ ชัชนันท์เหนื่อยมากแค่ไหน

“กริ๊งๆๆ ——”

แทนไทเพิ่งกำลังจะนั่ง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา คนที่โทรมาคือกชนิภ

เขาเหลือบมองชัชนันท์นิดหน่อย จากนั้นก็หันหลังเดินไปหน้าต่างบานใหญ่ “มีอะไรครับ?”

“ลูกกลับมาหน่อย มีเรื่องด่วนจะคุยกับลูก”

“ครับ”

สิ้นคำพูด เขาก็วางสาย หันหลังมองไปที่ชัชนันท์ “ฉันมีธุระ ออกไปแป๊บนะ”

“นายไปเถอะ……” ชัชนันท์พยักหน้า เงยหน้าขึ้นมาก็สบตาเย็นชาไม่แยแสของเขา

พระอาทิตย์ส่องจากทางด้านหลังเขา เขายืนย้อนแสงแบบนี้ มันระยิบระยับสะดุดตา

เขาไม่พูดอะไร หันหลังเดินจากไป

หลังจากแทนไทออกไปแล้ว ชัชนันท์ก็โทรหาวารี ขอร้องให้อีกฝ่ายช่วยแทรกแซงเรื่องชลิตา ไม่ว่าใครมาขอความเมตตา ก็ไม่ต้องลดโทษ

ทางด้านวารีตกปากรับคำทันที

ชัชนันท์ทักทายเธอสั้นๆ ไม่กี่ประโยค จากนั้นก็วางสาย

ต่อมาวารีก็ส่งไลน์มา “นันท์ อีกสามวันจะมีแฟชั่นโชว์ที่เมืองสินธุ ไปดูกับฉันเปล่า? พวกเพื่อนฉันไม่ว่างพอดี สามีฉันก็ด้วย ฉันไม่อยากไปคนเดียว……”

“ได้ค่ะ” ชัชนันท์ยิ้ม

“ดีจัง งั้นเราตกลงกันแล้วนะ เธอไม่ต้องห่วง เรื่องชลิตาฉันจะคุยกับสามีฉันให้ ให้เขาลงโทษแรงๆ ใครเอ่ยปากขอความเมตตาก็ไม่ได้” วารีพูด

สามีที่เป็นอัยการสูงสุดของเธอ เบื้องหลังทรงอิทธิพลมาก ถ้าเขาเข้ามายุ่ง อย่าว่าแต่ตระกูลรัตนากรกุล แม้แต่ตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์ออกหน้าต้องการช่วยเธอออกมาก็เป็นไปไม่ได้

“ได้ค่ะ คุณป้า” ชัชนันท์ยิ้ม “ขอบคุณนะคะคุณป้า”

“เธอช่วยชีวิตฉัน เธอมาขอบคุณฉันทำไม?” ทางนั้นยิ้มชอบใจตอบกลับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว