หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 131

สำหรับคอมเมนต์ที่เปลี่ยนไปเหมือนลมของเธอ แค่ระยะเวลาสั้น ๆ สิบกว่าชั่วโมง กลับยังเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อีก

ในบรรดาคนพวกนั้นมีคนเป็นหน้าม้าทางโซเชียลมากแค่ไหน มีเป็นคนผ่านไปมามากแค่ไหน ทำให้คนไม่อาจรู้ได้เลย

แต่สิ่งที่เธอสามารถมั่นใจได้ก็คือ ในกลุ่มคนพวกนั้นไม่มีทางเป็นหน้าม้าทางโซเชียลหมดแน่

จะต้องมีคนที่ถูกคนอื่นชักจูง หรือว่าคนผ่านไปมาที่มีอคติในตัวอยู่แล้ว และแฟนคลับส่วนหนึ่งของธันวาปะปนอยู่ด้วยแน่

คนจากทุกทิศทุกทางรวมอยู่ด้วยกัน คำวิพากษ์วิจารณ์ที่โหดร้ายต่าง ๆ นานามารวมอยู่ด้วยกัน ทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียน

บนโลกใบนี้มักจะมีคนอยู่พวกหนึ่ง ที่ชอบเอาความสุขของตัวเอง ไปขึ้นอยู่กับการใช้คีย์บอร์ดไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างโหดร้ายกับคนที่เก่งกาจกว่าคนอื่น

คีย์บอร์ดกลายเป็นอาวุธที่อยู่ในมือพวกเขา พวกเขาชอบใช้กระบวนการชุดหนึ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา มาปลดปล่อยอารมณ์ด้านลบแบบต่าง ๆ ที่ตัวเองเก็บกดไว้ในชีวิตจริง

ชัชนันท์มองผ่าน ๆ ไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ถอยออกมาจากแฮชแท็กนี้

สายตามองไปที่เทรนฮิตอันดับสอง #ชัชนันท์ยัยรถสาธารณะ#......

ไม่ต้องเข้าไปดู เธอก็รู้แล้วว่าในนั้นจะต้องสกปรกและน่าสะอิดสะเอียนแค่ไหน

นิ้วมือไม่ทันระวังรูดหน้าจอไปทีหนึ่ง หน้าชาร์ตเทรนฮิตก็อัปเดตขึ้นมาใหม่โดยอัตโนมัติ

และในเวลานี้เอง เทรนฮิตอันดับสามก็ปรากฏแฮชแท็กใหม่เอี่ยมขึ้นมาใหม่อันหนึ่ง #ชัชนันท์ตบมารีญา#

เธอรู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องนี้ต้องติด คิดไม่ถึงเลยว่าทางมารีญาจะกระทำรวดเร็วขนาดนี้ ยิ้มขมขื่นขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วเธอก็กดเข้าไปดูเล็กน้อย

อย่างแรกที่เข้ามาสู่สายตาก็คือทวิตเตอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในแฮชแท็ก ที่แอคปล่อยข่าวใหญ่แอคหนึ่งโพสต์ออกมา “เมื่อกี้มีคนมาเปิดเผยข้อมูลกับฉัน บอกว่าได้เห็นมาเองกับตาว่าชัชนันท์ตบหน้ามารีญาไปฉาดหนึ่งที่หน้าร้านอาหารตะวันตกระดับสูงร้านหนึ่ง และบอกมาว่าที่มารีญาโดนตบ ก็แค่เพราะช่วยพูดแทนธันวาไปไม่กี่ประโยค”

“เพื่อนชาวเน็ตรายนี้ยังบอกอีกว่า ชัชนันท์เป็นคนเลวมาก พูดจาโอหังเป็นอย่างมาก รังแกมารีญาจนไม่มีแรงโต้ตอบคืน มารีญาน่าสงสารมากจริง ๆ ขอสงสารมารีญาสักหนึ่งวินาที”

ด้านล่างทวิตเตอร์ ยังแนบรูปที่เธอตบมารีญาไปฉาดหนึ่งอยู่ด้วย

จากนั้น เธอก็กดเปิดพื้นที่คอมเมนต์ออก ด้านล่างมีแต่คำโหดร้ายที่ทิ่มแทงสายตาอย่างเช่น“ผู้หญิงชั่วร้าย ยัยชาเขียว ไอ้หมู รถชนตาย เป็นศพแล้วก็ยังขอให้ถูกเฆี่ยนตี”เป็นต้น วนซ้ำไปเรื่อย ๆ

ศัพท์คำสุดท้าย แหลมคมราวกับเป็นมีด

เพียงแต่ว่าของพวกนี้ ยังคงทำร้ายเธอได้แค่ระดับทั่วไปเท่านั้น ไม่นานเธอก็เลือกที่จะละเลยไป สายตาก็เลื่อนไปทางอื่นต่อไป

ต่อจากนั้น ด้านล่างก็เป็นไอดีตัวจริงที่ได้การยืนยันแล้วของมารีญา“มารีญา....” เพิ่งจะโพสต์ทวิตเตอร์ออกมาโพสต์หนึ่ง “คุณจำเป็นต้องให้อภัยกับทุกสรรพสิ่งตลอดไป ไม่ว่าหล่อนจะเลวร้ายแค่ไหน”

ด้านล่างทวิตเตอร์ยังแนบรูปถ่ายเซลฟี่ของเธอไว้ใบหนึ่งด้วย ในรูปถ่าย เธอปิดใบหน้าด้านขวาของตัวเองไว้ และมีรอยยิ้มอยู่เต็มไปหมด

มือของเธอปิดได้ไม่มิดนัก ถึงแม้ว่าจะวางอยู่บนใบหน้า แต่ก็ยังปิดความบวมแดงของเธอไว้ไม่อยู่

พวกคำพูดโหดร้ายเมื่อกี้ ไม่สามารถทำให้อารมณ์ของเธอเกิดความเปลี่ยนแปลงได้มากนัก แต่ทวิตเตอร์ที่ตอแหลของมารีญานี้กลับสามารถทำได้

สายตาเลื่อนลงไปอีก เธอกดพื้นที่คอมเมนต์ด้านล่างทวิตเตอร์ของหล่อนออกมา :

“มารีญา ช่างเป็นคนที่จิตใจดีจริง ๆ มีอะไรให้ต้องปิดบังด้วย? เปิดออกมาให้ทุกคนดูหน่อยดีไหม?”

“สงสารมารีญา ชัชนันท์คือยัยหน้าโง่จริง ๆ มารีญาของเรา คือนางฟ้าชัด ๆ ไม่มีใครจิตใจดีไปกว่าเธอแล้ว”

“ไม่เพียงแค่หน้าตาสะสวยเท่านั้น ที่สำคัญยังเป็นคนจิตใจดีด้วย พี่สาว ฉันตัดสินใจที่จะเป็นแฟนคลับของคุณแล้ว คุณกับชัชนันท์นี่มันเป็นคนละชั้นจริง ๆ”

คำพูดพวกนี้ เธอดูแล้วก็รู้สึกอยากจะขำมาก

แต่ว่าผู้คนจอมเสือกพวกนี้ ไม่รู้ความจริง แล้วมารีญาก็สร้างเรื่องทุกอย่างให้มันสมจริงขนาดนี้ ก็ไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะเชื่อกัน

เธอรีบแคปรูปทวิตเตอร์ของมารีญา รวมทั้งพวกคำพูดที่ด่าตัวเองในเทรนฮิตเอาไว้อย่างรวดเร็ว

“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง……” แล้วในเวลานี้เอง เบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ อันหนึ่งก็โทรเข้ามา

เธอกดรับสายขึ้นทันที

ไม่รอให้เธอเปิดปากพูด น้ำเสียงที่คุ้นเคยก็ลอยเข้าสู่หูมาทันที “ได้ดูเทรนทวิตเตอร์หรืองยัง?”

นี่เป็นน้ำเสียงของมารีญา

ในน้ำเสียง แฝงความเยาะเย้ยอย่างได้ใจจนถึงที่สุดเอาไว้ พอได้ยินก็ทำให้คนรู้สึกโมโหไปหมดทันที

“เธออยากทำอะไร?” ชัชนันท์ถามขึ้นมา

“ฉันไม่ได้อยากทำอะไร แค่อยากมาถามความรู้สึกเธอสักหน่อย ชัชนันท์ ความรู้สึกที่ใคร ๆ ก็อยากรุมกระทืบนั้นเป็นยังไงบ้าง? ฮ่า ฮ่า ฮ่า......” พูดไปพูดมาทางโน้นก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง

“ยินดีกับเธอด้วยนะ ยินดีกับยัยรถสาธารณะ นังผู้หญิงร่าน ผู้หญิงชั่วช้า แม่เลี้ยงของสโนว์ไวท์ ยัยแม่มดเฒ่า และคำเรียกอื่น ๆ อีกมากมาย” ทางนั้นพูดขึ้นมาอีก น้ำเสียงยิ่งหยิ่งผยองมากขึ้น ยังคงแฝงเสียงวุ่นวายเบา ๆ อยู่เหมือนเดิม

ชัชนันท์ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเย็นชา “ไม่เคยมีใครบอกเธอเหรอ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามอย่าเพิ่งดีใจให้มันเร็วมากนัก?”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันคิดว่าไม่เร็วนะ……เธอว่าเธอนี่ก็จริง ๆ เลยนะ อยู่เฉย ๆ ทำไมถึงได้ชอบไปหว่านเสน่ห์ใส่เด็กเอ๊าะ ๆ นะ? ครั้งนี้กลับยังมาคิดถึงธันวาของคนอื่นอีก จึ๊ก จึ๊ก จึ๊ก......แล้วผลปรากฏว่า พอไม่ทันระวังก็ถูกคนอื่นที่เขาใจดีถ่ายรูปมาแฉจนหมด นี่มันเท่ากับว่าคนที่เดินอยู่ริมน้ำบ่อย ๆ รองเท้าจะไม่เปียกได้ยังไงใช่ไหม?”

“ตอนนี้เห็นเธอถูกคนรุมด่า ฉันก็ไม่เพียงแต่จะดีใจเองคนเดียว แต่ฉันยังดีใจแทนพี่ชายฉันด้วย แล้วก็ยังรู้สึกดีใจแทนชลิตาด้วย เมื่อก่อนพวกเขาถูกเธอทำร้ายจนย่ำแย่ซะแค่ไหน?”

“เธอคงอยากจะเถียงฉันว่า ตัวเธอเองก็ถูกพวกเขาทำร้ายจนย่ำแย่มากด้วยใช่ไหม? หรือจะบอกว่าเธอไม่เคยทำร้ายพวกเขามาก่อนด้วยซ้ำ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันอยากบอกว่าที่เธอถูกพี่ชายฉันทิ้งในตอนนั้น มันสมควรแล้ว สมน้ำหน้าที่โดนทิ้ง”

“สภาพซังกะตายของเธอในตอนนั้น ถ้าพี่ชายฉันแต่งเธอเข้าบ้านซิถึงจะมีผี เธอคงไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นคนบ้านเรารังเกียจเธอแค่ไหน จึ๊ก จึ๊ก จึ๊ก”

คำพูดของมารีญาในทางโน้น ประโยคหนึ่งโหดเหี้ยมกว่าประโยคหนึ่ง

แถมยังทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่า เธอก็คือชลิตาอย่างงั้น

นี่มันช่างเป็นการกระจุกตัวรวมกันจริง ๆ

บนตัวพวกเธอสองคนมีสิ่งที่คล้ายคลึงมากเกินไปแล้ว อย่างเช่นทัศนคติที่บิดเบี้ยว นิสัยที่โหดร้ายจนถึงขีดสุด

นอกจากมารีญาจะโง่กว่าชลิตาหน่อยหนึ่งแล้ว อย่างอื่นนี่ช่างเหมือนกันอย่างกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันเลย

เธอยังไม่ทันได้เปิดปาก มารีญาทางโน้นก็กดวางสายโทรศัพท์ไปเลย

ความอดกลั้นที่อยู่ในใจ ไม่ได้ปลดปล่อยออกมา จะให้เก็บกดแค่ไหม ก็เก็บกดมากแค่นั้นเลย

เธอขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง แล้วก็กดโทรออกไปที่เบอร์นลิน “นลิน ตอนนี้พร้อมที่จะเคลื่อนไหวแล้วนะ……เดี๋ยวฉันจะส่งไลน์ชื่อเมล็ดกาแฟ ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มแฟนคลับของธันวาที่มารีญาอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย และเบอร์โทรศัพท์ของแอ็กเกอร์คนนั้นที่เป็นเพื่อนมารีญาไปให้ก่อนนะ”

“เธอไปติดต่อพวกเขา แล้วก็คิดหาวิธีทำให้พวกเขาเปิดเผยทุกอย่างลงในทวิตเตอร์ แล้วก็ขอโทษฉันด้วย”

จากนั้น เธอก็เอาทวิตเตอร์ของหัวหน้ากลุ่มแฟนคลับกลุ่ม“แฟนคลับภรรยาของธันวา”ที่มารีญาอยู่ในนั้นด้วย รวมทั้งเบอร์มือถือของเพื่อนแฮ็กเกอร์คนนั้นของมารีญา ส่งไปให้กับนลิน

จากนั้นก็วางสายไปเลย

อีกด้านหนึ่ง พอมารีญาวางสายไปแล้ว ก็สูดลมหายใจเข้ายาว ๆ อย่างสบายใจไปทีหนึ่ง แล้วก็โยนโทรศัพท์ลงไปบนเตียงอ่อนนุ่มสีชมพูกว้างของเด็กสาวไป

จากนั้นเธอก็นอนลงไปอย่างมีความสุข แล้วก็เข้าไปในไลน์กลุ่มสี่คน แล้วแบ่งปันชัยชนะของตัวเอง ให้กับพี่น้องทั้งสามคนที่ไปดูงานแฟชั่นโชว์เมื่อคราวที่แล้วด้วยกัน

“พี่น้องทั้งหลาย ชัชนันท์ใกล้จะถูกฉันทำให้โมโหตายแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เมื่อกี้ฉันเพิ่งโทรศัพท์ไปด่าหล่อน พอด่าจบแล้วก็วางสายไปเลย แถมยังไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้โต้เถียงด้วยซ้ำ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”

พอเธอพูดจบ คนอื่น ๆ ในกลุ่มก็เริ่มพุ่งตัวเข้ามา

“สุดยอด”

“มารีญา เพื่อนเธอคนนี้เชื่อถือได้หรือเปล่า? จะไม่ถูกตรวจสอบเจอจริง ๆ นะ?”

“ใช่ ใช่ ฉันเป็นกังวลอยู่เหมือนกัน”

พอมารีญาเห็นเป็นแบบนี้ ก็ส่งข้อความเสียงกลับไปทันที “วางใจเถอะนะ ครั้งนี้ไม่ว่าชัชนันท์จะตรวจสอบยังไงก็ตรวจมาไม่ถึงตัวฉันหรอก ร่องรอยที่ควรจะลบทิ้ง ฉันลบไปตั้งนานแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว