หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 136

“ธันวาชอบเธอ เธอคงภูมิใจมากสินะ? ไม่นึกเลยว่าเขาจะชอบผู้หญิงที่มีสามีแล้ว”

“ชัชนันท์เธอคงดึงดูดความสนใจเขา คอยยั่วยวนเขาอยู่ทุกวัน เขาถึงได้ชอบเธอใช่ไหมล่ะ? หน้าด้านจริงๆ แต่งงานแล้วยังจะออกนอกลู่นอกทางอีก!”

“ถ้าเธอกล้าหย่าแล้วมาคบกับธันวา ฉันจะทำให้เธอเสียชื่อเสียง จะบอกให้คนทั้งโลกได้รู้ ว่าเธอเป็นชู้กับธันวา แล้วจะทำลายพวกเธอสองคนให้ย่อยยับไปด้วยกัน!”

“ถ้าไม่อยากทำลายธันวา เธอก็ออกไปห่างๆจากไอดอลของฉันหน่อย! ป้าที่แต่งงานแล้วอย่างเธอไม่เหมาะกับคนแสนบริสุทธิ์อย่างเขาหรอก!”

มารีญาที่โดนรปภ.ผลักด้วยความดุดันทำให้เธอเดินโซเซไปข้างหน้า แต่ก็ยังหันกลับมาส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายไม่หยุด

ชัชนันท์แค่มองเธอโวยวายอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ขี้เกียจจะตอบโต้เธอ

วินาทีนี้ เธอรู้สึกว่ามารีญานี่ก็คือคนเสียสติดีๆนี่เอง

จนกระทั่งเห็นรปภ.สองคนนั้นจับมารีญายัดเข้าไปในรถของบริษัทแล้ว ชัชนันท์ถึงได้หมุนตัวเตรียมจะเข้าไปในบริษัท

ตอนนี้ เธอเห็นคนมากมายกำลังพิงอยู่บนกระจกของประตูทางเข้ามองมาที่เธอ

ในสายตาของทุกคน ปะปนไปด้วยความชื่นชม

ตอนที่สายตาของเธอมองไปเห็นพวกเขา พวกเขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมาให้เธอทันที

จากนั้นจึงรีบสลายตัว ต่างคนต่างกลับไปในที่ของตนเอง

ชัชนันท์ยิ้ม จัดๆผมของตนเองเล็กน้อย พลางดูทวิตเตอร์ พลางเดินไปทางมาเซราติสีแดงที่จอดอยู่ไม่ไกลของตนเอง

เธอกดเข้าไปในหัวข้อ #ธันวาชอบชัชนันท์งั้นเหรอ# ทันที

แค่กดเข้าไปก็เจอกับความดุเดือดภายในนั้น

ในนั้นนอกจากแฟนคลับส่วนหนึ่งของธันวาที่ร้องไห้คร่ำคราญ แสดงความยินดีทั้งน้ำตารวมไปถึงแสดงความอิจฉาริษยาเธอสุดๆแล้ว ยังมีอีกกลุ่มใหญ่ที่กำลังถกเถียงกัน สรุปว่าเธอหย่าแล้ว หรือเธอกับสามีให้อิสระแก่กันจะทำอะไรก็ได้อย่างที่มารีญาบอกกันแน่

เธอดูเพียงคร่าวๆ สาเหตุที่ทุกคนคิดอย่างนี้ เป็นเพราะธันวาโพสต์ลงในทวิตเตอร์ว่าอยากจะหลอกล่อเธออะไรทำนองนั้นอย่างโจ่งแจ้ง

พวกเขาจึงพากันคิดว่า ไม่ว่าจะล้อเล่นหรือเป็นเรื่องจริง การที่ธันวากล้าโพสต์อย่างนี้ก็หมายความว่าเธอโสด ไม่งั้นต่อให้มอบความกล้าหาญให้ธันวาสักร้อยอัน ธันวาก็คงไม่กล้าพูดอย่างนี้กับผู้หญิงที่มีสามีแล้วหรอก จึงพากันมั่นใจว่าเธอหย่าแล้ว

สำหรับเรื่องที่บอกว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่ระหว่างสามีกลับให้อิสระแก่กัน ซึ่งมารีญาเป็นคนเปิดโปงออกมาก่อนหน้านี้ ทุกๆคนต่างแสดงออกมาว่าไม่เชื่อ เพราะคำพูดของคนอย่างมารีญา ไม่ควรค่าที่จะเอามาเป็นหลักฐานน่ะสิ

เห็นคำพูดพวกนี้แล้ว เธออดไม่ได้ที่จะขำออกมา

จินตนาการของเพื่อนๆชาวเน็ตล้ำเลิศจริงๆ โดยเฉลี่ยแล้วเป็นนักตรรกวิทยากันทั้งนั้น

หวนนึกถึงคำพูดพวกนั้นที่แฟนคลับของธันวาบอกกับเธอ ส่วนใหญ่จะหว่านล้อมเธอว่าถ้ารักกับไอดอลของพวกตนก็คบกันเถอะ

ที่แท้ ก่อนหน้านี้ที่แฟนคลับของธันวาส่งข่าวพวกนั้นมาให้เธอ สาเหตุที่ไม่มีใครสักคนสงสัยว่าทำไมไอดอลของตนเองถึงชอบผู้หญิงที่มีสามีแล้ว เป็นเพราะโดนคนในหัวข้อนี้ชักนำงั้นเหรอ?

ตอนนี้ทุกคนคิดว่าเธอหย่าแล้วกันหมดเลยเหรอ?

นั่งอยู่ในรถแล้ว เธอกลับไม่ได้รีบร้อนขับออกไป แต่แชร์ข้อความหนึ่งที่บอกว่าเธอหย่าแล้วในทวิตเตอร์ โพสต์ข้อความตอบกลับ “กับสามียังรักกันดี ไม่ได้หย่ากันค่ะ ธันวากับฉันเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ นั่นมันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นระหว่างเพื่อนสนิทเท่านั้นเอง”

จากนั้น เธอจึงโทรไปที่เบอร์ของนลิน ให้เธอล็อกอินเข้าไปในทวิตเตอร์ของธันวา แชร์ข้อความต่อและชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย

ด้วยความหมายของธันวา เขาคงไม่มาชี้แจงความจริงแน่ๆ ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงให้นลินจัดการแทนเขา

ในวงการบันเทิง บัญชีหลักของศิลปินนักแสดง ทั้งหมดจะอยู่ในความดูแลของพนักงานบริษัท ต่อให้จะเป็นนักแสดงตัวท็อปอย่างธันวา ก็ไม่มีข้อยกเว้น

ฝั่งนลินก็ดำเนินการกับทวิตเตอร์ของธันวาอย่างรวดเร็ว เธอเพิ่งแชร์โพสต์ชี้แจง บวกกับเพิ่มเติมไปว่า “เลิกเดากันได้แล้ว แค่เพื่อนกันจริงๆ”

เพียงฝั่งธันวาโพสต์ให้ความกระจ่างภายในประเด็นที่ว่า #ธันวาชอบชัชนันท์งั้นเหรอ# สถานการณ์จึงเปลี่ยนไปทันที

จู่ๆก็เปี่ยมล้นไปด้วยความดีอกดีใจ

แฟนคลับที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญ เหมือนได้พลังฟื้นคืนชีพขึ้นมา

“กรี๊ดดดดด......ที่แท้ก็แค่ล้อเล่น ฉันคิดมากไปเอง เย้ๆๆ ยังโชคดีนะเนี่ย ใจหายใจคว่ำหมด”

“ฉันอุตส่าห์ยอมรับทั้งน้ำตาไปแล้วนะ ถ้าสมมุติว่าไอดอลของฉันจะชอบผู้หญิงรวยๆที่หย่าสามีมาน่ะ งั้นไม่ใช่เรื่องจริงแล้วใช่ไหม? เยี่ยมเลย ไม่อกหักแล้ว!”

“ต้องเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆเลยสินะ? ไม่งั้นไอดอลฉันไม่มีทางล้อเล่นอย่างนี้แน่ๆ อิจฉาชัชนันท์ที่ได้เป็นเพื่อนสนิทไอดอลฉันจัง”

“ฉันจะบอกว่า ต่อให้เป็นแค่เพื่อนกันฉันก็ยังอิจฉามากๆอยู่ดีได้ไหม? อิจฉาคุณชัชนันท์ ที่ได้เจอคนที่ฉันเฝ้าฝันว่าอยากเจอบ่อยๆ”

เห็นความคิดเห็นในนั้น ชัชนันท์จึงออกมาจากในทวิตเตอร์ด้วยความพึงพอใจ ล็อกหน้าจอมือถือ จากนั้นจึงเหยียบคันเร่ง มุ่งหน้าไปสถานีตำรวจ

เธอตั้งใจไปสถานีตำรวจด้วยตนเอง เพื่อให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนคดีของมารีญา

ระหว่างทางรถค่อนข้างติดมาก เธอขับไปได้ไม่ไกล ก็หยุดลงอีกแล้ว จึงทำได้แค่รอ

ท่ามกลางความเงียบเชียบ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเริ่มครุ่นคิด ถ้าตนเองเจอกับธันวาแล้ว ควรจะปฏิเสธเขายังไงดี

ต้องทำยังไงถึงจะสามารถปฏิเสธโดยไม่เหลือเยื่อใย แต่ก็ยังไม่ทำร้ายเขา ไม่ทำให้เขาโกรธ

เขาเป็นคนที่มีความสำคัญต่อXเอนเตอร์เทนเมนท์มากทีเดียว ถ้าความสัมพันธ์ของพวกเขาทำให้เกิดสภาวะที่ยากจะแก้ไข ด้วยความไม่พอใจของเขา หากภายหลังหมดสัญญาแล้วเขาไม่ยอมต่อสัญญาขึ้นมา นั่นเป็นความเสียหายของบริษัทเชียวนะ

ตอนนี้ไม่ว่าจะคิดมากขนาดไหนเธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมเขาถึงมาชอบคนที่แต่งงานแล้วล่ะ?

ยิ่งไม่เข้าใจเลยว่าเขาคิดอะไรกันแน่ รู้ๆอยู่ว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่ยังจะสารภาพอีก

แต่ก่อนมองไม่ออกเลยว่าธันวาจะเป็นคนที่เปิดเผยขนาดนี้

หรือเชื่อคำพูดพวกนั้นที่บนโลกออนไลน์บอกว่า เธอกับสามีของเธอให้อิสระแก่กันและกันอยากทำอะไรก็ได้จริงๆงั้นเหรอ?

ไม่ว่ายังไง สถานการณ์ในตอนนี้ ก็ทำให้เธอปวดหัวจริงๆ

คิดไปคิดมา เธอรู้สึกว่ามีแค่วิธีเดียว ก็คือบอกเขาเองว่า ตนเองกับสามีรักกันดี เป็นการบอกเขาอย่างอ้อมค้อม พวกเขาเป็นไปไม่ได้ เธอให้เขาเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น......

ก็ตอนนี้เอง ที่รถข้างหน้าเริ่มขยับแล้ว

รถข้างหลังจึงบีบแตรใส่เธอบ้าคลั่ง “ปี๊นๆๆ......”

เธอจึงได้สติกลับมาทันที เหยียบคันเร่งขับออกไปอย่างมั่นคง

............

หลังจากให้ปากคำที่สถานีตำรวจเสร็จ เธอค่อยๆเดินออกมาจากสถานีตำรวจ เตรียมจะกลับไปเอาเอกสารที่บ้านของตนเอง

ยังไม่ทันได้ขึ้นรถ มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา

เบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์แปลก

เธอจึงกดรับในทันที “ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”

“นันท์ใช่ไหม?” นี่เป็นเสียงของภราดร

“ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ ลุงดร” ชัชนันท์ตอบกลับไปอย่างนอบน้อม

สำหรับจุดประสงค์ที่เขาโทรมา ในใจของเธอชัดเจนดี

“นันท์ อยู่ไหนเหรอ? มีเวลาออกมาดื่มชาด้วยกันไหม? ลุงอยู่ใกล้ๆบริษัทของเธอน่ะ” ภราดรถาม

“หนูยุ่งอยู่นิดหน่อยค่ะ ลุงมีอะไรพูดมาได้เลยนะคะ” ชัชนันท์ตอบกลับอย่างสุภาพ น้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเดิม

“นันท์ เรื่องของมารีลุงขอโทษนะ” ภราดรพูดขึ้น “ลุงต้องขอโทษเธอแทนลูกสาวลุงด้วย เธอพอจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลของพวกเรา ปล่อยมารีไปได้ไหม?”