หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 153

สีหน้าของแทนไทเคร่งขรึม "แล้วไง?"

“ยังจะทำต่อเหรอ? ถ้ายังลงมือต่อ ฉันกลัวว่าคงเอาชีวิตไม่รอดแน่”

“สองวันสองคืน หนึ่งนาทีก็ห้ามขาด” น้ำเสียงของแทนไทไม่มีทีท่าจะปฏิเสธง่ายๆ

เมื่อพูดจบ เขาก็วางสายแล้วกลับเข้าไปในห้อง

ในตอนนี้ กรรณกำลังดูวิดีโอการแข่งขันเกมของทีมของเขาอย่างจริงจัง คมสันโอบขจีแล้วเล่าเรื่องตลกให้ชัชนันท์ฟัง

จิตรินนั่งเงียบๆอยู่ด้านข้าง เขาเพียงแค่กินอาหารและมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา

แทนไทเดินไปที่ชัชนันท์และนั่งลง

เสียงของกรรณดังขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาดูการแข่งขันเกม ชัชนันท์อดไม่ได้ที่จะมองเขาหลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง "นายกำลังดูการแข่งเกมของทีมIMเหรอ?"

เมื่อได้ยินแบบนี้ กรรณก็เงยหน้าขึ้นทันที "อื้อ เธอรู้จักทีมIMเหรอ?"

ชัชนันท์ยิ้ม"อื้อ ทีมเดียวที่ฉันชอบก็คือทีมIM ฉันชอบสไตล์ของพวกเขา พวกเขามีความกระตือรือร้นและเลือดนักสู้ หลังเกมไม่ว่าจะเป็นในการต่อสู้หรือระหว่างทางไปการต่อสู้"

เมื่อทีมของเขาได้รับการชื่นชมกรรณก็อารมณ์ดีมาก"ใช่แล้ว อันที่จริงฉันคิดว่าทีมIM ยังขาด ADC ระดับบน ถึงแม้ว่าตอนนี้ ADC จะดี แต่ก็ไม่นับว่ายอดเยี่ยม"

“อื้อ ใช่แล้ว”

“เจ้าของทีมIM เขาถูกใจอันดับหนึ่งของSevenระดับประเทศ คนที่ชื่อSevenนั่นแหละ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจเขาเลย ไม่รู้ว่านายนั่นบ้าไปแล้วรึไง” กรรณพูด

ถูกคนด่าว่าเป็นบ้า แถมยังเป็นคนรู้จักด้วย ตอนนี้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนยังไงชอบกล แต่เธอก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไป เพียงแค่ยิ้มเบาๆ “บางทีคนนั้นอาจจะไม่ได้อยากทะเยอทะยานเรื่องการเป็นมืออาชีพก็ได้”

แทนไทหยิบบุหรี่ขึ้นมาแล้วโยนให้กรรณ สายตาแฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย "เพ้อเจ้อตรงไหน?"

กรรณไม่รู้ว่าความโกรธของเขามาจากไหน ใบหน้าดูงงงวย “ไม่สิ นายเป็นอะไร?นายโกรธอะไร?”

ชัชนันท์จับต้นขาของชายข้างๆเบาๆ เพื่อบอกเขาเป็นนัยๆว่าไม่ต้องพูด

แทนไทเหลือบมองกรรณอย่างเฉยเมยแล้วเงียบไป

กรรณเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรอีก เขามองตรงไปที่ชัชนันท์และเปลี่ยนเรื่อง "เธอชอบใครมากที่สุดในทีมIM?"

ชัชนันท์พูดโดยไม่ลังเล "ฉันชอบมินเนี่ยนส์ที่สุด ชื่ออเล็กซ์"

กรรณสูดควันบุหรี่เข้าลึกๆแล้วค่อยๆหายใจออก เขายิ้มตลอดเวลา "ตาแหลมมาก นั่นคือมินเนี่ยนส์อันดับหนึ่งของโลก เธอนี่ดูเหมือนผู้เล่นลีกออฟเลเจ็นดส์ที่มีประสบการณ์เยอะนะ?"

ชัชนันท์ก็ยิ้ม "อื้อ ฉันเล่นเกมนี้มานานแล้ว การแข่งขันก็ดูมานานแล้ว"

“อันที่จริงฉันอยากทำทีมมาก ฉันมีคนที่รู้จัก แต่เขาไม่อยากทำทีมแล้ว และเขาก็มีแผนจะโอนให้ฉัน นอกจากมินเนี่ยนส์ในทีมแล้วผู้เล่นคนอื่นๆในทีมค่อนข้างดี ถ้าอเล็กซ์มาเข้าร่วมได้ ก็จะสมบูรณ์แบบมาก" ชัชนันท์พูด

กรรณเริ่มจริงจังขึ้นในทันที “อเล็กซ์จะไปได้ยังไง เขาคือคนหลักของทีมIM”

ชัชนันท์พยักหน้า “อื้ม นั่นสิ ฉันก็แค่พูดไปอย่างงั้นแหละ”

แทนไทถามเบาๆ “ทำไมถึงคิดจะจัดทีมล่ะ?”

ชัชนันท์พูด "ในใจฉันอยากจะทำมาตลอด ตอนนี้อุตสาหกรรมe-sportsของประเทศเรากำลังเฟื่องฟู ทำแบบนี้ค่อนข้างกำไรดี ถ้าไม่มีอะไรทำมีไว้เป็นธุรกิจเสริมก็ไม่เลว"

"ยิ่งไปกว่านั้น หากทีมได้รับการตั้งชื่อตามรัตนากรกุลกรุ๊ปก็จะช่วยส่งเสริมรัตนากรกุลกรุ๊ปได้เป็นอย่างดี" ชัชนันท์พูดเสริม

กรุ๊ปต่างๆในประเทศล้วนชอบใช้วิธีนี้ในการประชาสัมพันธ์ และอีกทั้งยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

กรรณยกขาขึ้นไขว่ห้าง “เธอพูดถูก แต่เรื่องอเล็กซ์อย่าคิดอีกเลย”

แทนไทเหลือบมองกรรณอย่างเย็นชา เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่จุดบุหรี่อย่างเงียบ ๆ

คมสันทานอาหารจะเสร็จแล้ว ดังนั้นเขาจึงโอบขจีอย่างเกียจคร้านและลุกขึ้นช้าๆ "ฉันกินเสร็จแล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ฉันต้องรีบไป พวกนายกินกันต่อเถอะ..."

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็หยิบเสื้อโค้ทนวมสีขาวของขจีออกมาจากเก้าอี้ด้านหลังเธอแล้วพาดเสื้อไว้บนไหล่ของเธอ

ทั้งสองออกไปทันที

จิตรินเองก็ยืนขึ้นและจัดชุดสูทของเขาให้เข้าที่ "ฉันเองก็ต้องขอตัวก่อน ฉันก็มีบางอย่างที่ต้องไปทำ"

หลังจากที่ทั้งสามจากไป ก็เหลือแค่ชัชนันท์ แทนไทและกรรณในห้องส่วนตัว

“อืด อืด อืด...”

ในเวลานั้นเอง โทรศัพท์มือถือของชัชนันท์ก็ดังขึ้น และเมื่อเธอเห็นว่าเป็นนลินที่โทรเข้ามา เธอจึงลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูแล้วกดรับสาย

นลินโทรมาหาเธอเรื่องงานของXเอนเตอร์เทนเมนท์ และเธอก็ได้พูดคุยกันอย่างจริงจัง

กรรณไม่ได้คิดจะกลับ เขาเพียงแค่สูบบุหรี่อยู่คนเดียว

“กรรณ…” แทนไทค่อยๆเงยศีรษะขึ้นและจ้องไปที่ใบหน้าของกรรณอย่างเย็นชา

“หืม?”

“อเล็กซ์…”

ก่อนที่แทนไทจะพูดจบ สีหน้ากรรณก็เคร่งขรึม "เป็นไปไม่ได้แน่นอน... คนๆนี้ได้รับการฝึกฝนจากฉันด้วยความยากลำบากตั้งแต่แรก ถ้าให้เธอไป แล้วทีมของฉันทำยังไงล่ะ?"

“ที่ดินกลางเมืองนั่น นายอยากซื้อไปทำบาร์มาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ?” แทนไทเคาะเขม่าบุหรี่อย่างสง่างาม น้ำเสียงสงบและเป็นกันเอง

เมื่อกรรณได้ยิน ดวงตาเขาก็เป็นประกาย “พูดจริงเหรอ? นายยอมยกที่ตรงนั้นให้ฉันนแล้วเหรอ?”

“งั้น…อเล็กซ์?”

“ไม่สิ เธอก็แค่พูดเล่นๆ แต่นายคิดจริงเหรอ?” กรรณสีหน้าดูหมดหนทาง

“งั้นฉันก็จะเก็บไว้เองแบบนี้แหละ” แทนไทพูด เปรยตามองออกไปจากกรรณ

กรรณได้ยิน ก็รีบอ่อนลงทันที ที่ดินตรงนั้นที่อยู่ดีมาก ถ้าลงทุนทำบาร์สักร้าน ต้องได้กำไรดีแน่ๆ

เขาอยากทำมานาน และเขาก็ขอร้องแทนไทมานานมาก แต่อีกฝ่ายไม่เคยปล่อยให้เขาเลย

ตอนนี้ในที่สุดโอกาสก็มาถึง เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร?

ถึงแม้ว่าทีมเกมนี้จะเป็นทีมที่เขารัก แต่ที่ดินผืนนี้ก็เช่นกัน

ถึงมินเนี่ยนส์ของทีมจะหายไปเขาก็สามารถหาใหม่ได้ แต่ที่ดินผืนนั้นหมดแล้วก็คือหมดเลย

“ได้ ฉันยกให้ พอใจรึยัง?” กรรณแสดงท่าทีประนีประนอม

“งั้นที่ดินผืนนั้น ฉันให้นายถูกหน่อยแล้วกัน” แทนไทพูด

แทนไทเข้าใจทันที

ความหมายของเขาก็คือ แทนไทหวังว่าเขาก็จะให้มินเนี่ยนส์ของทีมกับชัชนันท์ในราคาที่ถูกเช่นกัน

โถ่เอ้ย

กรรณพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “เอาเถอะๆ ฉันรู้แล้ว ถ้าเธอเข้าไปจัดการทีมจริงๆฉันก็จะส่งอเล็กซ์ไป”

หลังจากที่คมสันและขจีขึ้นรถ เขาก็ไม่ได้สตาร์ทรถทันที แต่หันไปมองขจีแล้วพูดว่า “เธอขึ้นแท็กซี่กลับไปเอง คืนนี้ฉันจะไม่ไปกับเธอแล้ว”

ขจีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

เธอไม่ได้ถามอะไรอีก

ในฐานะที่เป็นเด็กเสี่ย เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอ เธอยังมีสติสัมปชัญญะดีอยู่

ผู้ชายที่เจ้าชู้และหล่อเหลาอย่างคมสัน ยังเก็บเธอไว้ข้างตัวได้นานขนาดนี้ นอกจากหน้าตาที่สวยงามของเธอ เหตุผลหลักก็คือเธอไม่สร้างปัญหา และไม่ตามหึงหวงเขาเป็นบ้าเป็นหลัง

แต่แม้ว่าเธอจะไม่ถาม แต่เธอก็รู้ว่าคืนนี้คมสันจะไปหาใคร เมื่อสักครู่ตอนที่กินข้าวกันอยู่มีผู้หญิงคนหนึ่งส่งข้อความไลน์มาเชิญชวนเขา

แต่เธอไม่สนใจ ข้อตกลงระหว่างพวกเขามีแค่เรื่องเงิน ตราบใดที่เขาเต็มใจให้เงิน เธอไม่จำเป็นต้องสนใจว่าตอนกลางคืนเขาจะไปนอนที่ไหน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว