หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 160

แทนไททนการถูกถามมากมายไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงยืนขึ้นช้าๆ “ผมจะออกไปสูบบุหรี่ พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ”

เมื่อพูดจบ เขาก็พยักหน้าอย่างสุภาพให้ทุกคน แล้วเดินออกจากประตูไป เขาเอนตัวพิงเสาไฟตรงใต้บันได ค่อยๆจุดบุหรี่และเริ่มสูบบุหรี่

แสงอันอบอุ่นส่องลงมาจากเหนือศีรษะของเขา ปกคลุมเขาด้วยแสงระยิบระยับ

ห้องนั่งเล่นด้านหลังเขาสว่างไสว เสียงหัวเราะของทุกคนยังคงดำเนินต่อไป

ลมหยุดแล้ว ในคืนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว

“พี่เขย ฉันขอยืมบุหรี่ได้ไหม”

น้ำเสียงที่ไพเราะ ดึงดูดสายตาของเขา

เป็นลูกสาวคนที่สองของลุงของชลิตา ชื่ออะไรเขาจำไม่ได้แล้ว

ใบหน้ายิ้มแย้มของหญิงสาวตัวน้อยกำลังเบ่งบาน ดวงตาของเธอดูเป็นประกาย

แทนไทไม่ได้ตอบ เขาเพียงหยิบบุหรี่ออกจากกล่องบุหรี่เงียบๆ แล้วโยนให้เธอ จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกช้าๆ ขณะมองดูดวงดาวที่สว่างไสว

เขาไม่มองเธออีกเลย เขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยหางตา

ร่างกายเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกที่คนแปลกหน้าไม่ควรเข้าใกล้

ยิ่งเขาเย็นชาและหยิ่งทะนงมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีเสน่ห์ต่อผู้หญิงมากขึ้นเท่านั้น

เหตุผลที่คนชอบยกย่องความงามของดอกบัวหิมะเทียนซาน ไม่ใช่แค่เพราะมันสวยงาม แต่ยังเป็นเพราะมันเติบโตบนหน้าผาที่เหนือระดับน้ำทะเลหลายพันเมตร คนธรรมดาไม่สามารถสัมผัสได้โดยง่าย

ยิ่งหาได้ยาก ก็ยิ่งมีค่า

แทนไททำแบบนี้กับเธอ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่มีแฟนแล้ว แต่เธอก็ไม่สนใจ เธออยากจะนอนกับผู้ชายที่หล่อเหลาแบบนี้จริงๆ

“พี่เขย ฉันขอใช้ไฟแช็คด้วยได้ไหม?” เธอถาม

เขาขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด แล้วโยนไฟแช็คสีดำให้เธอโดยไม่ได้มองเธอเลยสักนิด

เธอรับไว้ได้ทันที

“พี่เขย ไออุ่นของคุณยังอยู่ที่ไฟแช็คอยู่เลยนะ…” เธอพูดขึ้นอีกครั้ง

แทนไทไม่ได้ตอบ

“พี่เขยฉันชื่อหทยาพี่คงจะจำฉันได้ใช่ไหม? ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของชลิตา” เธอถาม

พูดจบเธอก็จุดบุหรี่และขยับเข้าไปใกล้เขา จากนั้นก็ใส่ไฟแช็คลงในกระเป๋าเสื้อของเขา แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆเอนตัวพิงกับเสาไฟ “คืนนี้ดาวสวยมาก เหมือนกับพี่เขยเลย”

เขาขมวดคิ้วอย่างเย็นชาแล้วก้าวไปข้างหน้าให้ห่างจากเธอ ความรังเกียจล้นออกมาจากดวงตา

แต่เธอยังไม่ยอมแพ้ เธอเดินไปที่ด้านหน้าของแทนไท ตั้งใจสะดุดล้ม และทั้งตัวก็ล้มมาที่แทนไท

ชัชนันท์ที่ออกมาเห็นภาพนี้เข้าพอดี คิ้วสวยขมวดเล็กน้อย เธอก็รู้สึกหัวใจเธอราวกับว่าถูกเม็ดทรายลูบ และมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นอยู่ในใจ

เธอรู้หทยาเป็นน้องนู๋มานาน จะเห็นเธออ่อยผู้ชายคนนี้ก็ไม่แปลกอะไร เพราะเธอก็เคยพยายามติดต่อกับมาวินมาก่อน

แทนไทขมวดคิ้วแน่น ร่างกายมีความคล่องตัวในการหลบหลีก

วินาทีถัดมา เธอล้มลงกับพื้นอย่างแรง

“โอ๊ย...” เธออุทานขึ้น แล้วมองขึ้นไปที่ใบหน้าของแทนไท

แทนไทยังคงเย็นชาเช่นเคย เขาไม่มองเธอ หันหลังกลับและจากไป

ชัชนันท์ยืนอยู่บนขั้นบันได มองลงมาเห็นทั้งหมด มุมปากของเธอก็อดยกยิ้มไม่ได้

เธอไม่เคยเห็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้มาก่อน เธอคิดว่าตอนนี้หทยาคงจะโมโหแล้ว

แทนไทชายตาขึ้น แล้วเห็นรอยยิ้มบนมุมปากของเธอ

เธอยืนอยู่ในที่ที่มีแสงสลัว ร่างกายของเธอก็ดูเปล่งประกาย

คืนนี้ดวงดาวพร่างพราย แต่กลับสู้เธอไม่ได้เลย

มุมปากของเขายังมีรอยยิ้มส่วนโค้งดูเหมือนจะหายไป ความเฉยเมยในดวงตาของเขาค่อยๆ ละลายหายไป เขาเดินตรงไปหาเธอ

เมื่อหทยาเห็นชัชนันท์ เธอก็รู้สึกขายหน้าเป็นอย่างมาก

เธอจึงรีบลุกขึ้นมาและเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วโดยไม่เงยหน้าขึ้น เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตายเพราะความโกรธเข้าจริงๆ

“คุณห้า ที่คุณทำไปตะกี้ สุดยอดจริงๆ” ชัชนันท์พูดขึ้น

“งั้นเหรอ?” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง แล้วหันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและพ่นควันกลมบุหรี่ออกมา

ควันกลมบุหรี่สีขาวพ่นออกมาจากปากของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นก็สลายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

“ใช่ คุณใจร้ายชะ ปล่อยให้เธอล้มลงกับพื้นแบบนั้นได้ยังไง?” พูดแล้ว ชัชนันท์ก็อดหัวเราะไม่ได้

“เพราะรำคาญน่ะ” เขาพูด

“คุณมองออกเหรอว่าเธอจงใจ?”

“แค่นี้ยังมองไม่ออก เธอว่าฉันโง่รึไง?” เขาถามอย่างเฉยเมย ด้วยสีหน้าปกติของเขา

"ผู้ชายหลายคนมองไม่ออกหนิ" ชัชนันท์พูด

“…………” เขาไม่พูดอะไร ยังคงสูบบุหรี่ต่อไปอย่างเงียบๆ

“ทำไมเธอก็ออกมาด้วยล่ะ?” เขาถามหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง

“ออกมาเรียกคุณไปทานอาหารเย็นส่งท้ายปีเก่าด้วยกันนะสิ”ชัชนันท์พูด

แทนไทดับก้นบุหรี่ด้วยมือเปล่า แล้วเขี่ยก้นบุหรี่ลงถังขยะข้างๆเขา ท่าทางคล่องแคล่ว

หลังจากนั้น เขาก็วาดแขนไปทางชัชนันท์

ชัชนันท์รีบจับแขนของเขาทันที แสร้งทำเป็นสนิทสนมและเข้าไปในบ้านพร้อมกับเขา

ทั้งสองล้างมือและเข้าไปในห้องอาหาร

ในห้องอาหารได้เพิ่มโต๊ะให้ยาวขึ้นเป็นพิเศษ

ทั้งสองฝั่งโต๊ะเต็มไปด้วยผู้คน

เมื่อวันชัยเห็นพวกเขา เขาก็โบกมืออย่างมีความสุขทันที "นันท์ พ่อแทนมานั่งกับฉันเร็ว”

ชัชนันท์พาชายคนนั้นไปที่ด้านข้างของวันชัยในทันที ชัชนันท์นั่งทางด้านซ้ายของวันชัย ส่วนแทนไทนั่งทางด้านซ้ายของชัชนันท์

ถัดจากเขาคือหทยา

เหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้เธอรู้สึกโกรธมาก แต่หลังจากความโกรธหาย เธอก็รู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอมีเสน่ห์มากขึ้นอีก

เขากระตุ้นให้เธออยากจะครอบครองเขาได้ เธออดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าชายคนนี้ถูกเธอทำให้เชื่อฟังเธอบนเตียงด้วยตัวของเธอเอง

เมื่อคิดได้แบบนี้ เธอก็รู้สึกฮึกเหิม

เธอถอดรองเท้าแตะที่เท้าออกทันที แล้วสอดเท้าเข้าไปในขากางเกงของแทนไท แล้วลูบขึ้นลงซ้ำๆ

ไม่เคยมีผู้ชายคนไหน ไม่หลงกลลูกไม้นี้ของเธอ

การยั่วยวนลับๆใต้โต๊ะอาหารแบบนี้สามารถกระตุ้นความปรารถนาที่อยู่ก้นบึ้งของผู้ชายได้มากที่สุด

เธอเชื่อว่าคราวนี้เธอทำสำเร็จอย่างแน่นอน เธอไม่เชื่อว่าแทนไทจะเป็นพระอิฐพระปูนจริงๆ โดนแบบนี้เข้าไปจะไม่ใจสั่น

ในโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เธอไม่สามารถชักนำได้

แทนไทขมวดคิ้วอย่างเย็นชาและหันไปมองเธอ “ถ้าเกิดว่าคุณคันเท้า ฉันแนะนำให้คุณไปถูที่บันไดที่หน้าประตู ขาผมไม่ใช่เครื่องมือถูเท้าของคุณ”

ทันทีที่พูดแบบนี้ออกมา ทุกคนก็ตกใจ และวันชัยก็โกรธมากจนหน้าแดงก่ำ

สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เธอ

หทยารู้สึกละอายใจ รีบถอยเท้าของตัวเองออกมา

ให้ตายเถอะ เธอไม่คิดว่าแทนไทจะทำให้เธออับอายต่อหน้าผู้คนได้มากมายขนาดนี้

ตอนนี้เธออายจนอยากจะมุดดินหนีจริงๆ

ชัชนันท์เหลือบมองเธอด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เธอกินอาหารอย่างเงียบๆ ในใจอดด่าเธอว่าไร้ยางอายไม่ได้

ในตอนนี้ภาพลักษณ์ของแทนไทในใจเธอเพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ

“พี่เขย ฉันขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะเอาเท้าของฉันไปโดนคุณนะ” หทยาพูด

“หลายครั้งขนาดนี้ จะบอกว่าไม่ตั้งใจงั้นเหรอ?” น้ำเสียงของแทนไทเย็นชา สายตาของเขาก็เช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว