ไม่ต้องพูดถึงในวงการบันเทิงเลย แม้แต่สามัญชนคนธรรมดา ถ้ามาเจอกับเรื่องแบบนี้ หลายคนก็เลือกที่จะเก็บเงียบเอาไว้
และก็เพราะความเงียบเหล่านั้น ที่ช่วยส่งเสริมให้เหล่าคนโรคจิตวางมาดใหญ่โต
แต่เธอก็เข้าใจได้ถึงความเงียบของพวกเขา
เพราะโลกนี้มีคนจำนวนมากที่มีความคิดที่ไม่ปกติ ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ต่อว่านักโทษเหล่านั้น อีกทั้งยังถือโอกาสนี้ไปเลือกปฏิบัติกับเหยื่ออีกด้วย
“นลิน ฉันต้องการให้ไอ้คนนี้ติดคุก” ชัชนันท์ค่อยๆ พูดทีละคำ เธอพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้
ถ้าไอ้คนสารเลวคนนี้ใช้ชีวิตอยู่นอกคุกหนึ่งวัน ก็จะมีคนที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
ดังนั้น เธอจึงต้องการให้เขาติดคุกแบบที่ไม่มีวันได้ออกมาอีกเลยตลอดชีวิต
“แต่ว่า......เขามีแบ็คหลังใหญ่มากเลยนะ......พ่อและลุงของเขาใหญ่แค่ไหนคุณก็รู้อยู่ คนธรรมดาไม่มีทางจัดการได้หรอก แบ็คใหญ่ขนาดนี้ บรรดาเหยื่อเองก็คงไม่กล้าออกมาพูดแน่ๆ” สายตาของนลินเผยความกังวลออกมา
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณดี แต่ถ้าคุณทำอะไรบุ่มบ่ามกับคนๆ นี้ ฉันกลัวว่าพวกเราอาจจะทำอะไรเขาไม่ได้อีกเลย แล้วก็ยังจะส่งผลร้ายต่อXเอนเตอร์เทนเมนท์อีกด้วย แม้กระทั่งตระกูลรัตนากรกุลเอง ก็อาจจะโดนลูกหลงไปด้วยนะ” นลินกล่าว
“ดังนั้น ฉันจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามแน่ๆ ฉันจะหาวิธีที่สมบูรณ์เพียบพร้อม” พูดแล้วชัชนันท์ก็เคาะคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว และคัดลอกทุกสิ่งทุกอย่างในอัลบั้มของเขาลงในคอมพิวเตอร์ของตัวเอง
“คุณคิดว่าจะทำยังไง?”
“ฉันจะหาวิธีที่จะทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังของเขาอดทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำในตอนที่เรามุ่งไปยังเขา” สายตาของชัชนันท์เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและแน่วแน่
“แต่นั่นมันพูดง่ายแต่ทำยากนะ?” นลินมีท่าทีสงสัย
“ฉันมีวิธีของฉัน” ชัชนันท์พูดอย่างมีแผนอยู่ในใจ
“แล้วคุณคิดจะเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้ไหม? ถ้าเปิดเผยก็เหมือนทำให้เหยื่อได้รับบาดเจ็บขึ้นอีกครั้ง คงมีหลายคนที่ไม่ยอมให้เปิดเผยเรื่องนี้หรอก เพราะนอกจากจะทำให้พวกเขาต้องอับอายคนอื่นแล้ว ยังเป็นการเปิดเผยคนที่อยู่เบื้องหลังของพงศ์พรอีกด้วย พวกเขาคงจะไม่กล้าแน่ๆ” นลินถาม
“ฉันก็ไม่ได้คิดจะเปิดเผยเรื่องพวกนี้ และฉันเองก็คงไม่ไปติดต่อคนพวกนั้นให้มาเป็นพยานด้วย เพราะถ้าเกิดมีคนที่เดินออกมาจากเรื่องนี้ได้อย่างยากลำบากแล้ว แต่ฉันกลับเอาเรื่องเดิมมาพูดขึ้นอีกครั้ง แล้วทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในความสิ้นหวังอีก แบบนั้นไม่เท่ากับว่าฉันเป็นคนบาปหรอ?”
“ฉันจะเริ่มลงมือจากที่อื่นก่อน อย่างแรก ฉันต้องจัดการกับคนใหญ่คนโตที่อยู่เบื้องหลังก่อน” ชัชนันท์กล่าว
“ถ้าคุณมั่นใจ งั้นฉันก็สนับสนุนคุณ แต่ว่าเธอห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด เข้าใจไหมนันท์?” นลินจับมือชัชนันท์เบาๆ และกำชับอย่างจริงจัง
ชัชนันท์พยักหน้าเล็กน้อย “วางใจเถอะ”
ทันใดนั้น ความคิดมากมายนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
นลินอยู่ที่นี่จนถึงช่วงเย็นแล้วค่อยจากไป
หลังจากส่งนลินแล้วชัชนันท์ก็กลับมาที่โซฟา เธอหยิบคอมพิวเตอร์ขึ้นและเริ่มใส่รหัสล็อคข้อมูลที่คัดลอกมา จากนั้นก็แบ่งบันทึกไว้ในหลายๆ ที่
ประมาณหกโมงเย็น แทนไทก็เดินลงมา
ชัชนันท์จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพอดี
เธอวางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คลงข้างๆ อย่างไม่รีบร้อน จากนั้นก็เอนหลังพิงโซฟา สองมือยกขึ้นกอดอก หลับตาลงและขมวดคิ้วด้วยความโกรธ
ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังคงไม่สามารถดึงสติตัวเองออกมาจากภาพและคลิปวีดีโอเหล่านั้นได้
การกระทำที่ชั่วร้ายเหล่านั้นของพงศ์พร ทำให้เธอโกรธจัดจนแทบอยากจะตัดเขาออกเป็นชิ้นๆ ในทันที
............
เช้าวันรุ่งขึ้น ชัชนันท์ก็เข้าไลน์แต่เช้าเพื่อนัดเจอกับกชนิภ
เธอคิดจะเอาเครื่องประดับที่ก่อนหน้านี้เธอซื้อให้กชนิภมอบให้กับเธอ
กชนิภนัดเธอ 10.00 น.
ดังนั้น เธอจึงรีบลุกจากเตียงและเริ่มจัดการตัวเอง
เวลายังเหลืออีกมาก เธอจึงลงไปแช่น้ำนมในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่และมาส์กหน้า
จากนั้นก็แต่งหน้าบางๆ อย่างประณีต มัดผมหางม้าสูง และสวมสูทผ้าวูลสีม่วงอ่อน
ด้านบนคือเสื้อโค้ทสั้น คอเสื้อรวมถึงชายเสื้อด้านนอกมีขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวราวหิมะประดับอยู่
ด้านล่างเป็นกระโปรงพลีท
การแต่งกายเช่นนี้ ทำให้ขาของเธอดูเรียวยาวเป็นพิเศษ มองดูทั้งตัวแล้วเหมือนกับเด็กสาววัยมัธยม
เธอเห็นว่าใกล้เวลาแล้วจึงสวมรองเท้าบูทเหนือเข่าและหยิบกระเป๋า Hermes สีขาวจากชั้นวางกระเป๋า จากนั้นจึงหยิบเครื่องประดับที่เธอซื้อให้กชนิภรวมถึงโทรศัพท์มือถือใส่ลงไปในนั้น เตรียมตัวออกจากบ้าน
และในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากในห้อง
เธอเหลือบมองทางเข้าห้องแต่งตัวอย่างไม่รีบร้อน จากนั้นก็มองกระจกทองฝังเพชรและหยิบต่างหูเพชรของ Chanel มาสวมอย่างระมัดระวัง
“ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามาล่ะ ห้า? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” เธอถาม
แต่อย่างไรก็ตาม ด้านนอกกลับไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา
เธอรีบสวมต่างหูอีกข้างด้วยความรวดเร็วแล้วเงยหน้ามองไปยังทางเข้า
ในเวลานี้ ผู้หญิงแปลกหน้าที่สวมชุดรัดรูปสีดำสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอ
คนแปลกหน้าที่อยู่ๆ ก็บุกเข้ามา ทำให้เธอตกใจจนตัวสั่น
เธอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัวและเต็มไปด้วยความระแวดระวัง “พวกคุณคือใคร? แล้วบุกเข้ามาได้ยังไง?”
วิลล่าแห่งนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงมาก ถ้าไม่มีรหัสผ่านและกุญแจจะเปิดประตูทุกๆ บานได้ยากมากๆ
ถ้าหากงัดประตูเข้ามา ระบบเตือนภัยอัจฉริยะภายในบ้านก็จะต้องส่งเสียงเตือนขึ้นมา
และที่กำแพงก็ติดตั้งระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ถ้าคนธรรมดาคิดจะปีนเข้ามา ไม่มีทางเลยที่จะไม่สังเกตเห็น
ดังนั้น เธอจึงลงมติว่า สองคนนี้ที่บุกเข้ามาได้ง่ายๆ โดยไม่ถูกสังเกตเห็นได้นั้น จะต้องไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญธรรมดาแน่ๆ
“ห้า......ห้า......” เธอร้องตะโกนเรียกเสียงดังและรีบยื่นมือไปหาโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งตำรวจ
เธอกลัวว่าตัวเองจะรับมือกับทั้งสองคนนี้ไม่ได้
ใจเธอเต้นเร็วขึนเรื่อยๆ
พวกเธอทั้งสองมองหน้ากันแล้วส่งเสียงให้สัญญาณเล็กน้อย จากนั้นก็เข้ามาโจมตีเธอพร้อมๆ กัน
ชัชนันท์โต้กลับอย่างสุดกำลังแต่สุดท้ายแล้วก็ยังสู้พวกเธอไม่ได้และยังถูกพวกเธอทั้งสองคนกดลงกับพื้นไว้แน่น
“ห้า......ช่วยด้วย......” เธอร้องตะโกน
“พวกเราดูมาแล้วว่าที่บ้านเธอไม่มีใคร พวกเราถึงได้เข้ามา” ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดหนังพูดอย่างเย็นชา
วินาทีถัดมา เขาก็ยกมือขึ้นและสับลงไปที่ท้ายทอยของชัชนันท์
ชัชนันท์เห็นแต่ความมืดและไม่รับรู้อะไร
............
ในตอนที่ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นอีกครั้ง เธอก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องเล็กๆ ที่ดูมืดครึ้มมาก
กำแพง เพดาน พื้น ทั้งหมดล้วนทำจากปูนซีเมนต์ พื้นที่แคบมากๆ จนแทบจะมองไม่เห็นประตู
ดูแล้วเหมือนเป็นห้องลับ
ไฟเป็นหลอดไฟแบบธรรมดาที่มีกำลังวัตต์ต่ำมาก ทั่วทั้งพื้นที่เห็นเพียงแสงสลัวๆ
เธอถูกมัดไว้กับเก้าอี้สีขาวราวหิมะตัวหนึ่ง และข้างๆ เธอก็ยังมีนลินอีกด้วย
นลินและเธอถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้เหมือนกัน แต่อีกฝ่ายยังอยู่ในอาการไม่ได้สติและความดันหัวก็ต่ำมาก
มีคนยืนอยู่หลายคนรอบๆ ตัวเธอ ทุกคนล้วนสวมชุดสูทสีดำ เสื้อเชิร์ตสีดำ รองเท้าหนังสีดำ และตัดผมทรงสกินเฮดสีดำ
สัญชาตญาณบอกเธอว่า คนที่เป็นคนจัดการเธอและนลินในวันนี้ คือพงศ์พร
“พวกคุณคือคนของพงศ์พร?” ชัชนันท์ถามเรียบๆ
ในตอนนั้นเอง ประตูหินก็ค่อยๆ เปิดออก
พงศ์พรคาบไม้จิ้มฟันอยู่ในปากและเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ “เธอฉลาดจังเลย คุณชัชนันท์......”
เมื่อเห็นสิ่งที่เขาทำเหล่านั้น ชัชนันท์เห็นหน้าเขาแล้วก็เกลียดเข้ากระดูก
“คุณคิดจะทำอะไรพงศ์พร?” ชัชนันท์ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...