หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 170

พงศ์พรยังคงกัดฟันตอบ จากนั้นก็เดินมาด้านหน้าเธอและใช้มือข้างหนึ่งบีบคางเธอเอาไว้ “ผมต่างหากที่ต้องเป็นคนถามคุณชัชนันท์ ว่าเธอคิดจะทำอะไรกันแน่ เมื่อวานโทรศัพท์ผมถูกแฮ็ค และผมก็หาเจอว่าคนที่แฮ็ค คือเธอ……”

ประโยคนี้ ทำให้ชัชนันท์เต็มไปด้วยความตะลึงงัน

เธอไม่เคยคิดเลยว่า การที่ตัวเองแฮ็คเข้าโทรศัพท์เขาจะถูกเขาจับได้

แม้สังเกตเห็นก็มากพอแล้ว แต่นี่ยังจะรู้อีกว่าเธอเป็นคนทำ

เธอมีความสามรถในการแฮ็คโทรศัพท์อยู่ในระดับสูงมาก คนทั่วๆไปไม่มีทางจับได้แน่ๆ

ถึงแม้จะจับได้ ก็ไม่มีทางหาตัวจริงของเธอเจอ! เพราะเธออำพราง ip ไว้หลายชั้นมากๆ ยากมากที่จะแก้จนเจอ

“จากนั้นผมก็เลยลองหาข้อมูลของเธอดูแล้วพบว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทกับนลิน ทำไม? เธออยากร่วมมือกับเพื่อนสนิทกำจัดผมใช่ไหมล่ะ?”พงศ์พรสีหน้าเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ สายตาค่อยๆโหดเหี้นมอำมหิตและไม่มีความอบอุ่น

เมื่อพูดจบเขาก็บีบคางของชัชนันท์อย่างแรงและกัดฟันด้วยความเคียดแค้น “ถ้าผมไม่ให้บทเรียนอะไรพวกเธอสักหน่อย พวกเธอจะไม่รู้ความร้ายกาจของผม พวกเธอแส่หาเรื่องกัน ไม่กลัวตายเลยหรือไง? ในเมื่อไม่กลัว งั้นก็เชิญพวกเธอเพลิดเพลินกับสิ่งที่จะได้รับต่อจากนี้เถอะ”

“คิดจะเอาจุดอ่อนของผมมาจัดการกับผมงั้นหรอ? ผมไม่มีทางให้คุณได้ประสบความสำเร็จหรอก......” พูดจบพงศ์พรก็รีบหยิบเข็มฉีดยาออกมาจากกระเป๋าและฉีดของในนั้นเข้าไปที่แขนขวาของเธอ

เขาหยาบคายมาก ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงนี้ ทำให้เธอตัวแข็งทื่อและหวาดกลัวมาก

เขาฉีดของในนั้นมาเพียงครึ่งเดียว

จากนั้น เขาก็ดึงเข็มออกอย่างรวดเร็ว และไปแทงเข้าที่แขนขวาของนลินต่อ

ความเจ็บปวดนี้ทำให้นลินรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เธอลืมตาขึ้นและมองไปที่พงศ์พรในทันที “คุณ......คุณจะทำอะไร?”

จริงๆ แล้วเช้าวันนี้ เธอกำลังนอนหลับสบายอยู่ที่บ้าน แต่อยู่ๆ ก็มีผู้ชายสองคนบุกเข้ามาในห้องและตีเธอจนสลบ

เมื่อลืมตาขึ้นก็มาอยู่ที่นี่แล้ว

ขณะนั้น เธอก็สงสัยว่าผู้ชายสองคนนั้น คือคนของพงศ์พร จริงๆ แล้วก็คือคนของพงศ์พรจริงๆ

“โดยธรรมชาติแล้ว ผมก็ต้องจัดการกับจุดอ่อนเหมือนกันกับพวกคุณ ตอนนี้ผมจับมาอยู่ในมือแล้ว......อย่าโทษผมเลย พวกเธอรนหาที่ตายเอง”

“ผมอยากจะเห็นว่าพวกคนเลวทั้งสองคนอย่างพวกเธอ เมื่อถูกกำจัดจุดอ่อนแล้วยังจะกล้าเปิดโปงเรื่องของผมอยู่อีกไหม”

“ผมก็แค่เล่นกับเด็กๆ และหนุ่มหล่อวัยละอ่อนแค่ไม่กี่คนไม่ใช่หรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเธอด้วย พวกเธอสนใจเรื่องไร้สาระขนาดนี้เลยหรอ?”

“ผมมีเงิน มีความสามารถ ผมจะเล่นอะไรก็เป็นเรื่องของผม ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเธอเลย พวกเธอเป็นใครกันถึงมาเสือกเรื่องของผม?”

“ชัชนันท์ เธอคิดว่ารัตนากรกุลกรุ๊ปของเธอยอดเยี่ยมมากนักหรอ? ในสายตาของตระกูลผม เธอไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด ถ้าพ่อเธอมาอยู่ต่อหน้าผมยังต้องคุกเข่าเรียกผมว่าพ่อเลย”

พงศ์พรพูดอย่างเย็นชาในทุกๆ คำพร้อมแสดงท่าทางกำเริบเสิบสานจนถึงขีดสุด “วันนี้ผมจะทำให้พวกเธอรู้ว่ามาขัดใจคนอย่างผมแล้วจะเป็นยังไง หึ”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ชัชนันท์ทั้งหวาดกลัวและโกรธ

ไม่นาน เธอก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอร้อนมาก

เธอรู้ว่าพงศ์พรฉีดอะไรเข้าไปในตัวเธอ และยิ่งรู้อีกว่าต่อไปตัวเองจะเจอกับอะไร

เมื่อพูดจบ เขาก็เอาเข็มฉีดยาในมือแทงเข้าไปที่ต้นขาของชัชนันท์อย่างแรง

ครั้งนี้พงศ์พรออกแรงสุดตัว

ทันทีที่เข็มถูกแทงเข้ามาชัชนันท์ก็กรีดร้องสุดเสียง “โอ้ย......พงศ์พร ไอ้สัตว์!ปล่อยฉันนะ!”

“พงศ์พร!คุณมีอะไรก็มาลงที่ฉัน อย่าไปรังแกเธอ วันนี้คุณจะฆ่าจะฟันก็ตามใจเลยแต่ต้องปล่อยเธอไป” นลินตะโกนเสียงดังจนเห็นเส้นเลือดที่คอ “ฉันทำคนเดียวก็ต้องรับคนเดียว เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชัชนันท์เลย”

“และคนที่แฮ็คโทรศัพท์คุณก็ไม่ใช่ชัชนันท์ แต่เป็นฉัน ชัชนันท์ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันแค่ไปที่บ้านชัชนันท์และยืมใช้คอมพิวเตอร์ของเธอแค่นั้น”

เสียงของนลินดังกึกก้องในทุกๆ คำ และสายตาก็เต็มไปด้วยความแค้นเคือง

ชัชนันท์ได้ยินคำพูดเหล่านี้ผ่านเข้าหูมาและซาบซึ้งอยู่ในส่วนลึกของใจเป็นอย่างมาก

อะไรคือเพื่อนในยามยากคือเพื่อนแท้?

ก็นี่ไง

“ไม่ใช่ ฉันต่างหากที่เป็นคนแฮ็คโทรศัพท์มือถือคุณ จริงๆ แล้ว นลินกะจะแค่พอหอมปากหอมคอ แต่ฉันไม่ยอมพงศ์พร คุณปล่อยนลินไปเถอะ ฉันจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเอง” ชัชนันท์พูดอย่างแน่วแน่

“เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า? เธอรู้ตัวไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่?” นลินร้อนใจ

“ฮาฮา......ช่างเป็นความรักพี่น้องที่ทำให้คนซาบซึ้งจริงๆ แต่ผมไม่สนเรื่องพวกนี้หรอกนะ ผมบอกว่าพวกคุณร่วมมือกันทำ ก็คือร่วมมือกันทำ ผมยอมฆ่าคนผิดตัวเป็นพันๆ คนเพื่อไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแม้แต่คนเดียว......” พูดจบพงศ์พรก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมายกขึ้นหันไปทางหน้าของทั้งคู่

ขณะนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าทั่วทั้งร่างกายร้อนมากๆ

ใบหน้าของทั้งคู่ล้วนเป็นสีชมพู

ชัชนันท์รู้สึกว่าตัวเองแทบจะไม่ไหวแล้ว

นลินที่อยู่ข้างๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ทุกๆ อย่างในเวลานี้ทำให้เธอรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่งจนกัดริมฝีปากตัวเองแน่น

ชัชนันท์ก็กัดเนื้อด้านในริมฝีปากล่างแน่น พยายามใช้ความเจ็บปวดในการครองสติของตัวเองเอาไว้

แต่ก็ยังไม่พอ

ดูเหมือนว่าสติสัมปชัญญะของเธอจะค่อยๆ ลดลงทีละนิด

ความแรงของยาในครั้งนี้ไม่มากเท่าครั้งก่อน

ดูเหมือนว่าตอนนี้ เธอจะยังอดทนได้ชั่วคราว

“ชัชนันท์ นลิน ต่อจากนี้ก็เพลิดเพลินกันให้เต็มที่นะ หืม?”

“มีแต่พวกเธอเท่านั้นแหละ ที่อยากจัดการผม? พวกเธอนี่ไม่เจียมตัวเลยจริงๆ ถ้าผมจัดการได้ง่ายขนาดนั้น ผมจะอยู่มาได้ถึงตอนนี้ได้ยังไง?”

“จนถึงตอนนี้ ทุกคนที่พยายามทำร้ายผมก็จะถูกผมทรมานอย่างน่าอนาถ และพวกเธอก็ไม่มีข้อยกเว้น”

“วันนี้พวกคเธอจะโดนทรมานอย่างน่าอนาถมากกว่าพวกคนก่อนหน้านั้น ผมต้องการให้พวกเธอลองรับรู้รสชาติของการตกที่นั่งลำบากดู ฮาฮา......”

“ชัชนันท์ ผมจะทำให้รัตนากรกุลกรุ๊ปต้องปิดตัวลงเพราะเธอ ส่วนนลิน ผมก็จะทำให้Xเอนเตอร์เทนเมนท์ต้องปิดตัวลงเพราะเธอเช่นกัน! ก่อนหน้าที่คุณจะแส่มาหาเรื่องผม เธอควรจะคิดถึงผลที่ตามมาพวกนี้ก่อนนะ!”

พงศ์พรพูดเหมือนคนบ้า เขายิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น และเมื่อพูดจนจบก็หัวเราะดังลั่นขึ้นมา

เมื่อมองดูพวกเธอทั้งสองคนถูกทรมาน เขาก็ตื่นเต้นมาก

ชัชนันท์ดิ้นรนอย่างสุดชีวิตแต่ก็ไร้ประโยชน์ ร่างกายของเธอถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถขยับได้

เธออยากจะด่าเขาแต่ก็ไม่กล้าเปิดปากออกมา

เพราะเธอกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้วจะสูญเสียการปลุกเสกของความเจ็บปวด แล้วสติของเธอก็จะหมดไปเร็วขึ้น

เธอจึงทำได้เพียงแค่กัดด้านในริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างสุดชีวิต กัดจนฟันฝังลงไปและมีกลิ่นคาวเลือกออกมาแต่เธอก็ยังไม่กล้าปล่อย

ความปรารถนาที่จะครอบครองสติสัมปชัญญะ ยังเป็นสัญชาตญาณที่เกิดขึ้นมาอย่างรุนแรง

เธอรู้ดีว่าอีกไม่นานตัวเองก็ต้องจบเห่แล้ว

เธอทอดสายตามองไปยังบรรยากาศอึมครึมรอบๆ แล้วรู้สึกว่า ไม่มีใครที่จะสามารถช่วยชีวิตพวกเธอได้เลย

เธอรู้สึกว่าตัวเองกับนลินเหมือนกับอยู่ในทะเลที่กว้างใหญ่และเวิ้งว้าง พร้อมทั้งจมน้ำจากคลื่นยักษ์ที่ซัดมาไม่หยุด นอกจากจะลอยคอไปตามคลื่นแล้วรอวันตายก็ไม่มีทางอื่นให้พวกเธอแล้ว

ในขณะนี้ เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงครั้งที่แล้ว ในตอนที่ตัวเองถูกมาวินเอาตัวไป และคุณห้าก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยชีวิตเธอจากภัยพิบัติ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว