ชัชนันท์ไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ “อ่า ปล่อยคุณงั้นหรอ? ตอนนั้นคุณเคยคิดจะปล่อยพวกเราไหมล่ะ?”
เมื่อเห็นว่าเขายังมีเข็มฉีดยาอยู่ในกระเป๋า ชัชนันท์ก็ใช้มืออีกข้างหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมาและออกแรงแทงไปที่ต้นขาของเขา
จิ้มเอาไว้
จากนั้นก็ปล่อยให้ของเหลวที่เหลืออยู่ในนั้นไหลเข้าไป
สีของของเหลวกับในนั้นเหมือนกันกับที่ก่อนหน้าเขาฉีดให้กับเธอและนลินไม่มีผิดเพี้ยน เธอรู้ทันทีว่านี่ก็เป็นยาปลุกเซ็กส์เช่นกัน
หลังจากฉีดยาปริมาณมาก ไม่นาน พงศ์พรก็เริ่มกระหืดกระหอบและหน้าดำหน้าแดง
ขณะนั้น รถก็ได้ขับออกมาไกลมากๆ แล้ว
เมื่อมั่นใจว่าไม่มีคนตามมาด้านหลัง ชัชนันท์ก็มองนลินและออกคำสั่ง “หยุดรถเถอะ”
นลินหยุดรถในทันที
ชัชนันท์หยิบโทรศัพท์มือถือของพงศ์พรออกมาจากกระเป๋าเขาอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ผลักเขาออกไปที่ถนนนอกรถ
ถนนสายนี้ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาถึง
เมื่อมองออกไปรอบๆ ก็ไม่เห็นแม้แต่รถสักคัน
พงศ์พรขดตัวงออยู่ที่พื้นโดยที่ตัวยังคงไม่หยุดสั่น และปากก็ส่งเสียงที่ไม่น่าฟังออกมาไม่หยุด
เขามีความกระหายอยากจนถึงขีดสุดแต่กลับไม่พบหญิงสาวสักคน......
ชัชนันท์กลับไปที่รถด้วยความรวดเร็ว จากนั้นนลินก็เร่งความเร็วขับออกไป
ไหล่ของเธอที่ได้รับบาดเจ็บนั้นฉีกออกจากกันเพราะออกแรงมาก ทำให้ตอนนี้เธอเจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหว และเลือดก็ไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะนั้น ริมฝีปากของชัชนันท์ก็ซีดมากๆ แม้แต่แรงในร่างกายของเธอก็แทบจะไม่มีเหลือ
“เดี๋ยวฉันพาคุณไปส่งโรงพยาบาลก่อน” นลินร้อนใจเป็นอย่างมาก ความปรารถนาในตัวเธอยังคงหลงเหลืออยู่ แต่ก็ยังกัดฟันอดทนระงับตัวเองไว้ได้
“คุณเป็นยังไงบ้าง? ให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วหยุดเลือดให้คุณก่อนดีไหม?” นลินถาม
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ชัชนันท์พยักหน้า จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออกอย่างยากลำบากและดึงกระดาษทิชชู่ข้างตัวมากดตรงบริเวณที่ยิงกระสุนอย่างแรงเพื่อเป็นการห้ามเลือด
การกดเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บเหมือนถูกแทงที่หัวใจ
เธอกัดฟันอดทนเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรออกมา
นลินเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก เธออดไม่ได้ที่จะด่าพงศ์พรในใจไปสิบแปดชั่วโคตร
“ไม่ได้ ถ้าไปโรงพยาบาล ฉันกลัวว่าพงศ์พรจะให้คนมาสร้างปัญหาให้กับพวกเราอีก” นลินรู้สึกตัวขึ้นมา
“เขาน่าจะไม่มีแรงไปสักพัก ปริมาณยาที่เขาถูกฉีดเข้าไป เป็นสองเท่าของพวกเรา ถ้าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทำซ้ำๆ จนเขาหายอยากได้ในช่วงเวลาสั้นๆ หรอก...... เมื่อเขารู้สึกตัวกลับมา ตอนนั้นพวกเราก็มีคนมาช่วยเหลืออยู่ข้างๆ แล้วล่ะ”
เธอจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล
ถึงแม้ว่าเธอจะสามารถเอาลูกกระสุนออกได้ด้วยตัวเอง และแผลภายนอกของเธอกับนลิน เธอก็จัดการได้ วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าเธอก็ให้หมอประจำตระกูลมาฉีดให้ที่บ้านได้
แต่เธอไม่อยากรบกวนหมอประจำตระกูลของตระกูลรัตนากรกุล เธอกลัวว่าถ้าพ่อรู้เรื่องเข้าแล้วจะเป็นห่วง ตอนนี้แค่ต้องรับเรื่องของชลิตาคนเดียวก็มากพอสำหรับเขาแล้ว
“พวกเรารีบไปรีบกลับก็พอแล้ว ถึงตอนนั้นเดี๋ยวให้คุณห้าส่งลูกน้อง 2-3 คนมาคอยคุ้มกันพวกเรา เขาก็ไม่มีทางทำอะไรพวกเราได้แล้ว”
“นอกจากวิธีที่ใช้ในวันนี้แล้ว เขาไม่ใช้วิธีอื่นหรอก เขาไม่มีทางกล้าใช้กฎหมายหรอก”
“เพราะตอนนี้พวกเรามีโทรศัพท์มือถือเขาอยู่ในมือ และในนั้นก็มีหลักฐานการก่ออาชญากรรมของเขามากมายแน่นอน เพราะฉะนั้น เขาไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก”
ชัชนันท์พูดคำต่อคำ ใบหน้าไม่สะทกสะท้านอะไร
“สาเหตุที่เขาทำวันนี้ อย่างแรกก็เพื่อแก้แค้นพวกเรา อย่างที่สองก็เพื่อถ่ายคลิปวิดีโอสกปรกโสโครกของพวกเราทั้งสองคน ทำให้พวกเราทั้งสองคนไม่กล้าเอาเรื่องทั้งหมดนี้ไปป่าวประกาศเพราะเขาก็ไม่คลิปของพวกเราเหมือนกัน” ชัชนันท์กล่าวต่อ
“คุณพูดถูก” นลินเห็นด้วย
“ในใจคุณยังมีข้อสงสัยอะไรอยู่อีกใช่ไหม? อย่างเช่น ทำไมถึงปล่อยเขาไป แทนที่จะจับเขาส่งให้ตำรวจ?” ชัชนันท์ยิ่งพูดยิ่งอ่อนแรงลง
ในเวลานี้ เธอรู้สึกว่าโลกที่อยู่ตรงหน้าเริ่มหมุนแล้ว
“คุณทำอะไรไปก็ต้องมีเหตุผลของคุณอยู่แล้ว” นลินยิ้ม
“ตอนนี้คุณยังปล่อยให้เขาลอยนวลอยู่ข้างนอก แสดงว่าในใจคุณต้องมีแผนที่สมบูรณ์แบบไว้แล้วแน่ๆ และแผนนี้ก็สามารถทำให้เขาถูกจำคุกไปตลอดชีวิต......และกระทั่งพ่อกับลุงของเขา ก็ไม่กล้าออกมาปกป้อง”
“ถึงแม้ว่าเรื่องในวันนี้จะดูใหญ่โตแล้ว แต่เมื่อตัดสิน อย่างมากก็แค่ 2-3 ปี ดังนั้น คุณก็เลยอยากให้เขายังอยู่ด้านนอกและทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ต่อไป เพราะยิ่งก่อเรื่องใหญ่แค่ไหน ก็จะถูกจำคุกนานมากขึ้นเท่านั้น” นลินพูดความคิดในใจของตัวเองออกมาทั้งหมด
เธอรู้ความคิดทั้งหมดในใจของชัชนันท์ ไอเดียของเธอชัดเจนมาก เธอไม่อยากเปิดโปงวิธีการสกปรกเหล่านั้นของพงศ์พร ถ้าจะแก้แค้นให้เหยื่อ กวาดล้างขยะให้สังคม เธอก็จำเป็นต้องใช้วิธีการอื่น เห็นได้ชัดว่าเธอวางแผนเรียบร้อยแล้ว
“นลิน เธอสมแล้วที่เป็นเพื่อนสนิทฉัน” ชัชนันท์ยิ้มอย่างปลอบโยน “เธอเป็นยังไงบ้าง? แผลเธอรุนแรงไหม? ยานั้นส่งผลกระทบต่อเธอมากหรือเปล่า?”
“ฉันโอเค......นอกจากจะเจ็บปวดทางกายและไม่ค่อยมีแรงก็ไม่มีอะไรแล้ว ยานั้นยังส่งผลกระทบกับฉันอยู่แต่ว่าฉันทนได้” นลินตอบตามความจริง
“เดี๋ยวหาโทรศัพท์สาธารณะโทรหาคุณห้า ให้เขาพาลูกน้องมารอพวกเราที่หน้าโรงพยาบาลราษฎรแห่งที่หนึ่ง เพื่อจะได้ช่วยปกป้องพวกเราตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาล......” พูดจบชัชนันท์ก็บอกเบอร์โทรศัพท์ของชายหนุ่มคนนั้นออกมา
ขณะนั้น นลินก็เห็นตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ด้านนอกพอดี เธอรีบหยิบเหรียญ 2-3 เหรียญจากในกระเป๋าออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ลงจากรถ
ไม่นานก็โทรติด
หลังจากฝั่งตรงข้ามรับโทรศัพท์ นลินก็รีบเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ให้ชายหนุ่มในสายฟัง
หลังจากนั้นก็บอกสิ่งที่ชัชนันท์กำชับทั้งหมดกับเขา
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาใหม่ที่จะแทรกเข้ามา เธอจึงไม่รอคำตอบของฝั่งตรงข้ามและรีบวางสาย จากนั้นก็กลับมาที่รถและเร่งความเร็วไปต่อ
ชัชนันท์โอนภาพและคลิปทั้งหมดในโทรศัพท์มือถือของพงศ์พรไปยังโมรศัพท์มือถือของตัวเอง
………………
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ แทนไทกำลังนั่งเล่นไพ่นกกระจอกอยู่กับคมสัน กรรณ และจิตรินที่ห้องส่วนตัวสวนลอยฟ้าชั้นบนสุดของบาร์ไม่ลา
หลังจากรับสาย หน้าของเขาก็ดูเครียดขึ้นมา จากนั้นก็รีบทิ้งไพ่นกกระจอกในมือลง
เขากดก้นบุหรี่ในมือลงในที่เขี่ยบุหรี่คริสตัลด้านข้าง และลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เครียด “พงศ์พร รนหาที่ตายซะแล้ว!”
ปฏิกิริยาของแทนไททำให้ผู้คนโดยรอบตกใจมาก กลุ่มคนที่นั่งคุยเล่นหัวเราะสนุกสนานกันก็พร้อมใจกันส่งสายตามองไปยังใบหน้าของเขาทันที
แต่ไหนแต่ไรมา แทนไทก็เป็นคนที่ไม่ชอบแสดงความรู้สึกอะไรออกมาทางสีหน้าตลอด
พวกคมสันไม่กี่คนต่างก็รู้สึกว่า เขาเป็นคนที่สงบเสงี่ยม ไม่สนอะไรใดๆ ในโลก
“เกิดอะไรขึ้น ห้า? พงศ์พรทำไมหรอ?” คมสันเงยหน้ามามองแทนไท
“มันแตะต้องชัชนันท์” แทนไทกล่าว
พูดจบเขาก็หยิบเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำย้อนยุคที่แขวนอยู่บนราวแขวนเสื้อริมผนังมาสวมและเดินจากไปด้วยความรวดเร็ว
กระบวนการทั้งหมด ใช้เวลาไปยังไม่เกินสามวินาทีเลย
หลังจากคมสัน กรรณ และจิตรินมองหน้ากันแล้ว พวกเขาก็รีบสวมเสื้อของตัวเองและตามเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...