หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 175

“คุณสบายใจได้ เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะให้คนไปคุ้มครองคุณเอง ฉันจะไม่ให้คุณเสียเปรียบหรอกค่ะ” ชัชนันท์กล่าว

“คุณคิดว่าเขาเก่งจริงๆ” แทนไทยกริมฝีปากขึ้นด้วยท่าทางไม่แยแสต่อโลก

“เผื่อไว้ก่อนน่ะ......ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าคุณเก่ง แต่ก็ถ้าเกิด......?”

“ไม่มีถ้าเกิด ผมรู้ดีว่าจะทำยังไง เรื่องนี้ ต่อไปเธอไม่ต้องไปสนใจแล้ว”

“ไม่ได้ ฉันต้องสนใจ ฉันเป็นคนให้คุณไปทำ เพราะฉะนั้น ฉันก็จะรับผิดชอบคุณจนถึงที่สุด” ชัชนันท์ยืนหยัดกล่าว

“โอเค ให้เธอรับผิดชอบ”

“จำเป็นต้องต่างหากล่ะ”

เมื่อพูดจบเธอก็รู้สึกเหมือนกับว่า สิ่งที่เขาเพิ่งพูดไปมีบางอย่างไม่ค่อยถูกต้อง

หรือวันนี้เธอจะคิดมากไปจริงๆ นะ?

“เมื่อถึงตอนนั้น หลังจากที่คุณกับพงศ์พรไปถึงห้อง คุณก็......”

“ผมรู้ว่าต้องทำยังไง” เขาเปลี่ยนเรื่อง “เธอยอดเยี่ยมมากเลยที่หนีออกมาจากที่แบบนั้นได้” เขากล่าวชม

“น่าจะเป็นเพราะความจนตรอกที่กระตุ้นให้พลังที่ซ่อนอยู่ของคนเราแสดงออกมาล่ะมั้ง” เมื่อนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ในใจของเธอก็ยังคงหวาดผวา

เธอไม่กล้าคิดเลยว่าถ้าปืนของพงศ์พรไม่หล่นลงมา ตัวเองจะเป็นอย่างไร

คาดว่าน่าจะถูกหมาแมสทิฟทิเบตตัวนั้น......

“ตอนที่ยิงปืนนัดนั้นเจ็บมากไหม?” สายตาของเขามองมาที่ไหล่ซ้ายของเธอผ่านๆ

“อืม คิดว่าถ้าตัวเองเจ็บน่าจะมีสติ ไม่งั้นความรู้สึกแบบนั้นหายไปได้ยังไงกันล่ะ?”

เขาเพียงแค่มองเธออย่างลึกซึ้งและไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นจึงปรับเตียงผู้ป่วยลงและห่มผ้าให้เธอ “เธอพักสักแป๊บเถอะ เดี๋ยวผมไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงก่อน”

เมื่อพูดจบเขา เขาก็เดินไปที่ระเบียงช้าๆ และยืนอยู่ริมหน้าต่างจุดบุหรี่สูบ

ท่ามกลางควันบุหรี่ ใบหน้าที่เปรียบเสมือนรูปปั้นของเทพเจ้านั้นก็เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก——”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

แทนไทหันกลับมามอง

ในตอนนั้น ประตูก็เปิดออก และกรรณก็เข็นรถเข็นที่มีนลินนั่งอยู่เข้ามา

เธอเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้ลายสีฟ้าขาว และใบหน้าก็ยังคงขาวซีด

เมื่อเห็นเธอ ชัชนันท์ก็รีบถามด้วยความเป็นห่วง “เธอโอเคไหม นลิน?”

นลินพยักหน้า

กรรณเข็นเธอไปข้างๆ ชัชนันท์

“แล้วเธอล่ะ? เป็นยังไงบ้าง?” นลินถาม

“ฉันสบายดี ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” ชัชนันท์ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“จริงๆ หมอบอกว่าเธอต้องนอนพักอยู่ที่ห้องผู้ป่วย แต่เธอก็ไม่ยอมฟัง บอกว่าจะมาให้ได้ ผมเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่ยอม” กรรณมองชัชนันท์แล้วพูดพร้อมกุมขมับอย่างจนปัญญา

“ฉันจะอยู่ในห้องผู้ป่วยอย่างสบายใจได้ยังไงถ้ายังไม่เจอเธอ?” นลินหันหน้าไปมองกรรณแล้วพูด

“เธอน่ะ......รีบกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ฉันไม่เป็นไร ที่นี่มีคุณห้าคอยดูแลฉันอยู่” ชัชนันท์กล่าวพร้อมกับจับมือนลินเบาๆ

แทนไทไม่ได้ก้าวเข้ามาในห้อง เขายังคงยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง

หันหลังให้กับพวกเขาอยู่ตลอด

แสงอาทิตย์ส่องลงมายังร่างที่สูงสง่าและเหยียดตรงเหมือนทหารของเขา

“ได้ยินแล้วใช่ไหม? ไปได้แล้ว” กรรณเข็นนลินออกไป

นลินต่อต้านและพยายามยืนขึ้นอย่างยากลำบาก กรรณจึงกดตัวเธอลงไปที่รถเข็นและบังคับเข็นเธอออกไป......

เมื่อเห็นเธอแสดงท่าทีโกรธเขาออกมา เขาก็ยกมุมปากขึ้นยิ้ม

เมื่อออกมาจากห้องแล้ว นลินก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “คุณทำอะไรของคุณเนี่ย กรรณ? ฉันยังคุยกับนันท์ไม่จบเลยนะ”

“เธอเห็นคุณนันท์แล้ว เธอไม่ได้เป็นอะไร งั้นก็ไม่ต้องอยู่ต่อแล้ว เธอเองก็ต้องการการพักผ่อนเหมือนกันนะ”

“คุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับฉัน?”

“ผมก็แค่อยากดูแลเธอ”

“คุณ......” นลินโกรธเขาจนพูดไม่ออก

แต่เมื่อคิดดูแล้ว ที่เขาทำลงไปก็เพื่อให้เธอดีขึ้น สุดท้ายเธอจึงต้องยอมอดทน

“เธอรู้ไหมว่าไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับคุณชายห้ามาก่อน?” กรรณถาม

“ไม่รู้”

“เธอนี่มัน”

นลินหลับตาพักสมองและไม่สนใจเขา

หลังจากกรรณพาเธอกลับมาถึงห้องผู้ป่วยแล้วก็อุ้มเธอขึ้นเตียงและห่มผ้าห่มให้เธอ

นลินกระแอมไอด้วยความเขินอาย “ฉันบอกคุณตั้งกี่รอบแล้วว่าฉันขึ้น ลง เตียงเองได้ แม้แต่รถเข็นก็ไม่จำเป็นต้องใช้ คุณอย่ามาทำให้ฉันเหมือนคนพิการนะ”

“เฮ้ สาวน้อย จะกินอะไรหน่อยไหม?” กรรณยิ้ม “เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้เธอเอาไหม?”

“ไม่ต้อง ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณที่วันนี้คุณมาช่วยนะ” นลินกล่าว

“ใจร้ายจัง นี่จะไล่ผมไปแล้วหรอ?”

“ผู้ชายกับผู้หญิงไม่ควรอยู่ด้วยกันตามลำพัง......” นลินกล่าวต่อ

“......ก็จริง ดอกกุหลาบที่สวยงามล้วนมีหนามแหลมคม แต่ว่า ผมชื่นชมคุณจริงๆ” กรรณนั่งลงข้างเตียงด้วยความสนใจพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

แม้ว่าเธอจะรู้สึกขอบคุณที่วันนี้เขาอุ้มเธอเข้ามา และอยู่เป็นเพื่อนตอนเธอหาหมอและให้น้ำเกลือ

แต่เธอก็ยังคงไม่อยากอยู่กับคนๆ นี้นานจนเกินไป

เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเป้าหมายของเขาคืออะไร

ดูเหมือนว่าเขาอยากจะให้เธอเป็นเหยื่อ

วิธีการจีบสาวของเขา แค่มองดูก็รู้แล้วว่าช่ำชองแค่ไหน เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของความเจ้าชู้ก็ว่าได้

เธอไม่ชอบคนแบบนี้

“คุณไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันก็มีธุระของฉันที่ต้องทำเหมือนกัน ขอบคุณคุณอีกครั้งนะคะ” นลินพูดเบาๆ

“ใจร้ายจังเลย” กรรณบ่น “ใช้งานผมเสร็จก็จะไล่ผมไปแล้วหรอ?”

“แล้วไม่งั้นจะทำยังไงล่ะ? ถ้าฉันให้คุณอยู่ต่อ คุณจะมานั่งเล่นไพ่นกกระจอกที่นี่หรอ?” นลินมองกรรณพร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย

กรรณอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขาใช้มือซ้ายลูบคางของตัวเองเบาๆ “น่าสนใจแฮะ”

“ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด......” ในตอนนั้น โทรศัพท์ของกรรณก็สั่นขึ้น

เมื่อเห็นว่าเป็นโทรศัพท์จากที่บ้าน กรรณก็รีบกดรับสายทันที

ทางนั้น พ่อของกรรณบอกกับเขาว่า ที่บ้านมีแขกสำคัญที่คบกันมาหลายชั่วคน และสั่งเขาว่าจำเป็นต้องกลับไป

เขากดวางสายในทันทีและมองนลินพริ้ม “สาวน้อย......เดี๋ยวผมกลับไปที่บ้านก่อนนะ แล้วตอนเย็นจะมาหาเธอใหม่”

“ไม่ต้อง ฉันดูแลตัวเองได้” นลินกล่าว

“เป็นเด็กดีสิ......รอผมไปก่อนนะ” กรรณลูบหัวเธอเบาๆ จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างเอื่อยเฉื่อย

ทันทีที่ประตูปิดลง นลินก็ลูบหัวตรงที่ถูกเขาลูบอย่างรังเกียจพร้อมบ่น “ไร้สาระ”

เธอนอนอยู่จนถึงช่วงหัวค่ำก็รู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจะสั่งอาหารก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เชิญค่ะ......”

จากนั้น ประตูห้องคนไข้ก็ถูกเปิดออกช้าๆ ชายชุดดำคนหนึ่งถือถุงใบใหญ่สองใบที่เต็มไปด้วยของต่างๆ เดินเข้ามาตรงหน้าเธอ “คุณนลิน คุณกรรณให้ผมเอาของพวกนี้มาให้ครับ เขาบอกว่ามีธุระสำคัญชั่วคราว และไม่ได้มาที่นี่แล้วครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ในใจของนลินก็คิดว่า ตอนนี้ พวกอันธพาลเหล่านี้หายหยาบคายแล้วหรอ? พวกเขาเรียกเขาว่าคุณกรรณเลยนะ

เมื่อพูดจบ ชายชุดดำก็วางของลง แล้วหันหลังเดินจากไป

นลินไม่คิดมากและหยิบของในถุงออกมา

มีอาหารทั้งหมดหกอย่าง ซึ่งทั้งหมดล้วนช่วยบำรุงร่างกาย

“ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด......” ในตอนที่เธอกำลังจะกิน โทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้น

ในไลน์มีการแจ้งเตือนมาว่ามีคนเพิ่มเธอเป็นเพื่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว