หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 181

“ตอนออกไปซื้ออาหารเช้า เขาเห็นฉันพอดี แล้วก็บีบแตรทักทายฉัน” เขาพูด

“ตอนนั้นในกระเป๋าฉัน มียาที่เธอเตรียมให้ฉันเมื่อวานพอดี แล้วฉันก็ขึ้นรถไปโรงแรมกับเขา”

“จากนั้นฉันก็เติมยานั่นใส่ในแก้วเขา พอเขาดื่มก็เกิดปฏิกิริยา เริ่มถอนยาด้วยตัวเอง”

“พอเขาถอนยาเสร็จ ฉันก็แจ้งตำรวจ บอกว่าเขา……อืม……” สองคำนั้น เขาพูดไม่ค่อยออก

ชะงักไปสักพัก เขาก็บรรยายให้เธออย่างตั้งใจต่อ “จากนั้นตำรวจก็มาเก็บหลักฐาน หลังจากเก็บตัวอย่างของเหลวที่เขาทิ้งไว้เสร็จ ตำรวจก็พาเราไปที่สถานีตำรวจท้องที่ด้วยกัน”

“หลังจากนั้นฉันก็อธิบายทุกอย่างกับตำรวจ และนำวิดีโอที่เธอกับนลินถูกมันจับตัวไปทรมานในห้องมืดมอบให้ จากนั้นมันก็ถูกคุมขัง ทุกอย่างราบรื่นมาก” แทนไทพูดอีกครั้ง

ภาพเหล่านั้นที่หวนคิดถึง เขารู้สึกขยะแขยงสุดขีด

“คุณห้า สถานีตำรวจท้องที่ถึงจะคุมขังชั่วคราว แต่ถ้าพ่อกับอาพงศ์พรออกหน้ามาช่วยก็จะถูกปล่อย ในแผนฉันมีขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญมาก ยังไม่ได้บอกนาย……ตอนนี้ฉันจะบอกนาย”

“ถ้าอยากให้พ่อกับอาพงศ์พรไม่ยุ่งเรื่องนี้ เราต้องใช้วิดีโอพงศ์พรที่เราควบคุมไว้ไปขู่พวกเขา ระหว่างทุกอย่างถูกทำให้เป็นเรื่องใหญ่และเปิดเผยกับมองดูพงศ์พรจำคุกตลอดชีวิต พวกเขาต้องเลือกอย่างหลังแน่ ยังไงแล้วถ้าอย่างแรกมันเป็นเรื่องใหญ่ พงศ์พรจะไม่ใช่แค่โดนจำคุกตลอดชีวิตง่ายดายแบบนั้น แต่จะได้รับโทษประหารชีวิต” ชัชนันท์พูดอีกครั้ง

“ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว” แทนไทพูดอีกครั้ง

“จริงหรือหลอก?” ชัชนันท์ยิ่งไม่อยากจะเชื่อ

“อืม……ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เธอไม่ต้องห่วง” นัยน์ตาแทนไทไม่มีความปั่นป่วน

“นายไปเจรจากับพ่อแล้วก็อาพงศ์พรมาแล้วเหรอ? ในระยะเวลาสั้นๆ นายทำได้ยังไง? แล้ววิดีโอนั้นฉันยังไม่ได้ให้นายเลยนะ?” ชัชนันท์ถาม

“สรุปคือทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เธอแค่รอดูสำนวนคำตัดสินของพงศ์พรอย่างสบายใจก็พอ” แทนไทยกยิ้ม

“พอฉันหลับ นายก็ก๊อบปี้วิดีโอในโทรศัพท์พงศ์พรไปเหรอ? แล้ววันนี้จัดการเรียบร้อย ก็เอามันไปเจรจากับอาและพ่อเขา? แล้วก็เจรจาสำเร็จ? นายกล้าขนาดนี้เลยเหรอ?” ชัชนันท์คิดไปคิดมา มีแค่ความเป็นไปได้นี้เท่านั้น

ไม่ว่ายังไงก็ตาม เรื่องพงศ์พร ทำตามที่เธอต้องการได้ เธอรู้สึกดีใจมาก และระบายความโกรธได้มากจริงๆ

ผู้ชายตรงหน้า ดีขึ้นมาหลายขั้นในหัวใจเธอ

บางคนใช้ชีวิตบนถนนที่สกปรกที่สุด แต่สามารถทำสิ่งที่กล้าหาญชอบธรรมได้

“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว” ขณะที่พูดแทนไทก็หยิบแอปเปิลที่ปอกเสร็จแล้วในมือกรรณส่งให้ชัชนันท์ “เธอกินข้าวเช้าหรือยัง?”

“เอาเวลาไหนไปกินข้าวล่ะ? ฉันเอาแต่ห่วงนาย ไม่อยากอาหารเลย” ชัชนันท์พูด

“ดูเหมือนเธอจะแคร์ฉันมากจริงๆ” มุมปากแทนไทวาดโค้งยกยิ้มจางๆ อีกครั้ง

ชัชนันท์หัวใจตึงเครียด สีหน้าแดงเล็กน้อย “ใครแคร์นาย? ฉันเป็นห่วงเพื่อนตัวเองปกติ มีอะไรไม่ถูกเหรอ?”

“ถูก เธอพูดถูกหมด” มุมปากแทนไทยิ้มกว้างขึ้น

“คนสวย เธอมีเกียรติมากนะ คนอื่นไม่มีทางสั่งให้ห้าของเราทำเรื่องแบบนี้ตามใจชอบ” กรรณไขว่ห้างแล้วพูดขึ้น

ชัชนันท์ยิ้ม ขณะมองหน้าชายหนุ่ม “คุณห้า ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ลำบากคุณเลย”

“ไม่ลำบาก เดี๋ยวฉันลงไปซื้ออาหารเช้าให้เธอ”

“นายยังไม่ปรึกษารายละเอียดยิบย่อยกับฉันเลยนะ”

“ค่อยว่ากันทีหลัง……”

พูดจบ แทนไทก็ยืนขึ้นลูบผมเธเบาๆอ จากนั้นก็หันหลังก้าวเท้าเดินออกไป

ชัชนันท์มองคมสันแล้วถามขึ้น “ตอนเขาไปเจรจา นายไปด้วยไหม?”

คมสันส่ายหน้า

จากนั้นเธอก็มองกรรณอีก

กรรณก็ส่ายหน้าเช่นกัน หยิบส้มจี๊ดหนึ่งลูกออกมาจากจานผลไม้ข้างๆ ปอกเปลือกแล้วยัดทั้งลูกเข้าปาก

เขากินไปด้วยพูดไปด้วย “อย่าถามเยอะเลย เธอรู้แค่ว่าผลมันออกมาดีก็พอแล้ว……ห้าจัดการปัญหาได้อย่างราบรื่น ไม่มีช่องโหว่เลยสักนิด”

“นอกจากนี้เธอก็ไม่ต้องเป็นห่วง ตระกูลอัครกุลจะตรวจสอบทุกอย่าง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอ ห้าเตรียมการเรียบร้อยหมดแล้ว เรื่องทุกอย่างจะจบลงตรงนี้” กรรณพูดอีกครั้ง

“ฟังความหมายนายแล้ว ฉันรู้สึกว่านายรู้รายละเอียดเรื่องการเจรจาเลย?” ความขี้สงสัยของชัชนันท์ถูกปลุกเร้าขึ้นมาโดยกรรณ

กรรณยักไหล่ตามอารมณ์ เอนพนักพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน บ้วนเมล็ดส้มใส่มือแล้วโยนทิ้งถังขยะ “เรื่องนี้ไม่รู้จริงๆ ฉันแค่ได้ยินห้าเผลอพูดออกมา รายละเอียดเธอก็อย่าถามเลย มันเกี่ยวข้องกับความลับบางอย่าง”

ได้ยินคำพูดนี้ ชัชนันท์ก็ไม่ซักถามต่อแล้ว

เธอคิดว่าไหนๆ พวกเขาก็พูดปัดขนาดนี้แล้ว คงมีอะไรบางอย่างที่บอกเธอไม่ได้ล่ะมั้ง

เช่นพวกเขาเป็นมาเฟีย คนที่อยู่ในเส้นทางนี้ได้นาน ใช้ชีวิตได้สบาย ก็คงมีเส้นสายกับเบื้องบนอยู่แล้ว

เธอเดาว่าคงเป็นเบื้องบนของพวกเขาแหละ ที่สามารถถ่วงดุลกับตระกูลอัครกุลได้ คุณห้าถึงเตรียมการทุกอย่างได้น่าเชื่อถือ กรรณถึงกล้าบอกเธออย่างมั่นใจว่าทุกอย่างจะจบลงตรงนี้ ตระกูลอัครกุลจะไม่ก่อเรื่องอีกแล้ว

บางทีทุกอย่างนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับความลับบางอย่างในเส้นทางของพวกเขา ดังนั้นเธอเลยไม่อยากถามอีก

“คนสวย เธอคิดอะไรอยู่?” คมสันถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่มีอะไร” ชัชนันท์ยิ้ม

ในเวลานี้ชายชุดดำคนหนึ่งถือที่ชาร์จแบตเดินเข้าประตูมา เขาพยักหน้าให้คมสันและกรรณอย่างเคารพ ก่อนจะเดินเร็วไปตรงหน้าชัชนันท์ สองมือมอบให้ “คุณชัชนันท์ นี่ของทีเธอต้องการ”

“ขอบคุณ” ชัชนันท์พูด

“เอาล่ะ เดี๋ยวฉันไปที่ที่หนึ่ง คมสัน นายอยู่เป็นเพื่อนคนสวยนะ” กรรณลุกขึ้นตบบ่าคมสันเบาๆ

“ทำไม จะไปทำให้ตัวเองอับอายเหรอ?” คมสันถาม

“พูดอะไรซี้ซั้ว? ฉันจะไปแสวงหาความสุข”

“โดนเมินทำให้นายมีความสุขเหรอ? นายมันประหลาดจริง” คมสันกลอกตาใส่เขา

กรรณกลอกตาใส่เขากลับ จากนั้นก็มองชัชนันท์ด้วยสีหน้าจริงจังแล้วพูดขึ้น “ฉันออกไปแป๊บหนึ่ง ไม่นานก็กลับ”

ไม่รอให้ชัชนันท์พูด กรรณก็ก้าวเท้ายาวเดินออกไป

“เขาจะไปทำอะไร?” ชัชนันท์สงสัยมาก

“ไม่ต้องสนใจเขา คงเป็นลมบ้าหมูนั่นแหละ บางคนนะ……กินอาหารถูกปากเยอะเกินไป เริ่มชอบอาหารที่มีหนาม” คมสันพูดอีกครั้ง “คนสวย เธอกินส้มไหม?”

ชัชนันท์ส่ายหน้า

หลังจากกรรณออกไป ก็เดินสง่างามไปที่ประตูห้องผู้ป่วยนลินห้องข้างๆ

ขณะนี้นลินกำลังนั่งบนเตียงถือโน้ตบุ๊กเล่นเกมส์อุ่นสุราใต้หล้าอยู่

เธอกำลังทำเควสประจำวัน

ได้ยินเสียงเคาะประตู เธอทำเควสอย่างตั้งใจพร้อมตอบไปด้วย “เข้ามา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว