หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 187

เวลาสองทุ่ม

ชัชนันท์พาชายคนนั้นเดินเข้าสถานที่จัดงานคืนสู่เหย้าตรงเวลา ห้องส่วนตัวหมายเลข 99 โรงแรมนานาชาติฮิลล์

ภายในห้องส่วนตัวมีโต๊ะกลมใหญ่วางทั้งหมดสี่ตัว ทุกโต๊ะนั่งเต็มหมดแล้ว

เมื่อมองไป ทุกคนเป็นคนที่เธอคุ้นเคย

วันเวลาผ่านไป บางคนก็อ้วน บางคนก็ผอม และบางคนก็ยังเหมือนเดิม

บางคนสวมชุดแบรนด์เนมทั้งตัว บางคนก็สวมเสื้อผ้าธรรมดาที่สุด

ขณะที่เห็นพวกเขา ช่วงเวลาวัยเยาว์สมัยมัธยมหก ก็เริ่มฉายอีกครั้งตรงหน้าเธอไม่หยุด ทำให้ในใจเธอเกิดความรู้สึกหลากหลายปนเปกัน

คนกลุ่มนี้เคยเป็นพยานช่วงเวลาอันมืดมนที่สุดในชีวิตเธอ

ตอนนั้นคนในชั้นเรียนมีเพียงคนเดียวที่หัวเราะเยาะเธอ คนอื่นๆ ไม่เคยหัวเราะเยาะเธอ ช่วยเธอออกหน้าด้วยซ้ำไป

ในความทรงจำเธอช่วงเวลาสมัยมัธยมหกมันอบอุ่นมาก

สายตาเธอกวาดมองทุกคนทีละคนแล้ว ก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมดำขนจิ้งจอก แต่งหน้าหนาเตอะดึงดูดสายตา

นั่นมันตมิศา คนเดียวในชั้นเรียนที่หัวเราะเยาะเธอสมัยมัธยมหก

ตอนแรกตมิศาอาศัยที่ตระกูลตัวเองเหนือกว่าตระกูลรัตนากรกุล เมื่อยืนต่อหน้าเธอ ดวงตาก็อยู่เหนือศีรษะ

ตอนนี้ตมิศากำลังพิงไหล่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมสูทดำราคาแพง ยกมือขึ้นโอ้อวดแหวนเพชรเม็ดโตหลายวงที่มือตัวเองให้กับเพื่อนร่วมชั้นในโต๊ะเดียวกัน เพลิดเพลินความรู้สึกเลิศล้ำเหมือนดาวล้อมเดือน

เธอที่สวมเครื่องประดับมากมาย ดึงดูดสายตาทุกคนที่นั่น ช่างงดงาม

ชัชนันท์มองออกว่าตอนนี้ตมิศามีชีวิตที่ดีมาก

คคนานต์เห็นชัชนันท์และแทนไทอย่างรวดเร็ว เธอรีบเดินไปจับมือสองข้างชัชนันท์ไว้ทันที สายตาสองข้างเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

เธอจ้องมองชัชนันท์สักพัก จากนั้นก็เริ่มจ้องมองแทนไท

หลังจากมองซ้ายทีขวาที เธอก็จับมือชัชนันท์อย่างตื่นเต้น แล้วพูดขึ้น “นันท์ ถึงฉันจะเห็นเธอที่สวยขึ้นผ่านทวิตเตอร์แล้ว แต่ฉันยังรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นลมเพราะความสวยของเธออยู่เลย เธอแตกต่างจากเมื่อก่อนมากจริงๆ นะ”

ถึงจะไม่เจอนานมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคคนานต์ ชัชนันท์กลับไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนเลยสักนิด ความรู้สึกที่คคนานต์มีต่อเธอ มันไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย

รูปร่างคคนานต์เปลี่ยนไปบ้าง เธอผอมลง หน้าเธอเล็กกว่าเมื่อก่อนเท่าตัว หลังจากทำตาสองชั้น ทั้งตัวก็ดูสวยขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายขั้นเลย

ชัชนันท์ยิ้มพร้อมจับมือคคนานต์แล้วพูดขึ้น “เทียบกับเมื่อก่อน เธอก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเลยเหมือนกัน”

คคนานต์ลูบผมอย่างเขินอาย “อืม ฉันทำศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัด โอเคใช่เปล่า? ถือว่าสำเร็จไหม?”

“อืม สวยสุดๆ” ชัชนันท์พูด

“ขอบคุณนะนันท์” คคนานต์ยิ้ม แล้วสายตามองไปที่หน้าแทนไท “คุณคือสามีนันท์ของเราใช่ไหม? สวัสดีค่ะ ฉันชื่อคคนานต์ เป็นเพื่อนสนิทร่วมโต๊ะของนันท์”

“สวัสดีครับ ผมแทนไท” แทนไทพูดเรียบๆ

ในตอนนี้ หลายคนสังเกตเห็นชัชนันท์และแทนไทแล้ว

ทุกคนเดินเข้ามาหา ล้อมรอบพวกเขาไว้ทันที

หลายๆ คน เริ่มคุยเล่นกับชัชนันท์และแทนไท คุยเรื่องที่เธอเปลี่ยนไป ชมใบหน้าหล่อของแทนไท พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคนไปชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อเห็นฉากนี้ ตมิศาก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมา

เดิมทีแล้วจุดสนใจในห้องนี้คือเธอ แต่พอชัชนันท์มามันก็เปลี่ยนไป เธอหงุดหงิดมากจริงๆ

เมื่อเห็นหน้าชัชนันท์ เธอก็ยิ่งหงุดหงิด ทำไมหล่อนถึงสวยขึ้นขนาดนี้? ในฐานะผู้หญิงเหมือนกัน เธอรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า

เธอควงชายหนุ่มชุดสูทรองเท้าหนังข้างกายตัวเองทันที แล้วเดินไปตรงหน้าชัชนันท์และแทนไท

เมื่อชายคนนั้นเห็นแทนไท ก็ตกตะลึงทันที อ้าปากพูดขึ้น “ประ……”

แทนไทมองเขาอย่างเย็นชา ส่ายหน้าให้เขาช้าๆ บ่งบอกให้เขาเงียบปาก

เขาเงียบปากอย่างรวดเร็ว รีบก้มศีรษะลง

ตอนนี้ทุกคนมัวแต่พูดคุยหัวเราะกันอยู่ รายละเอียดยิบย่อยพวกนี้ไม่มีใครสังเกตเห็น

ตมิศาสองมือกอดอกอย่างหยิ่งผยอง เหลือบมองชัชนันท์แล้วพูดขึ้น “ชัชนันท์ ตอนนี้สวยมากเลยนะ”

สิ้นคำพูด สายตาตมิศาก็มองไปที่ร่างแทนไท มองสำรวจแทนไทสักพัก จากนั้นก็มองชัชนันท์อย่างเหยียดหยามแล้วพูดขึ้น “นันท์ ฉันได้ยินพ่อฉันบอกว่า สามีเธอเป็นแพทย์แผนจีนใช่ไหม?”

“ใช่” ชัชนันท์พูดเรียบๆ

“สำหรับฉันนะ นันท์ ฉันนับถือเธอมากจริงๆ ที่กล้าแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่มีพื้นฐานด้านอาชีพ” ตมิศาว่าเธอจบ สายตาก็หันไปมองหน้าแทนไท “นายต้องรักและทะนุถนอมนันท์ของเราให้มากๆ ยุคสมัยนี้ ผู้หญิงโง่ๆ แบบนี้มันมีไม่เยอะ”

“อุ๊ยตาย ดูฉันสิ มัวแต่คุยกับพวกเธอเพลิน ฉันลืมแนะนำสามีของฉัน นี่ภควรสามีฉัน เป็นรองประธานสำนักงานใหญ่เซ็นเทอรี่ลองกรุ๊ปภายในประเทศ เป็นหนึ่งในคนที่ทายาทเซ็นเทอรี่ลองกรุ๊ปไว้ใจมากที่สุด……เขาน่ะนอกจากทำงานในเซ็นเทอรี่ลองกรุ๊ปแล้ว ปกติก็จะใช้เงินตัวเองทำการลงทุนอื่นๆ ด้วย ไม่ต้องบอกเลยว่าหาเงินเก่งจริงๆ”

ตมิศาควงแขนสามีข้างกายตัวเองอย่างโอ้อวด ทำหน้าภูมิใจในตัวเอง “เขาน่ะเงินที่หามาได้จากการลงทุนหนึ่งเดือน มากกว่ากำไรหนึ่งปีของธุรกิจขนาดเล็กบางที่ด้วย”

ทำไมชัชนันท์จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่ตมิศาทำแบบนี้?

เจ้าตัวประหลาดตรงหน้าพูดมากขนาดนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าการอยากเทียบผู้ชายข้างกายเธอที่ไม่มีอาชีพของตัวเอง

คำพูดเหล่านั้นข้างหลัง หนึ่งคือเพื่ออวดสามีตัวเอง สองคือเพื่อเอาสามีตัวเองมากดสามีเธอ

ไม่เจอกันตั้งหลายปี ไม่คิดว่าตมิศายังสมองพิการเหมือนสมัยมัธยมปลาย ชอบหัวเราะเยาะคนอื่น ชอบกดคนอื่นไปทั่ว ชอบเป็นจุดสนใจของทุกคนทุกที่ทุกเวลา

ได้ยินคำพูดเธอ เห็นหน้าเธอ ในใจชัชนันท์ก็ไม่พอใจสุดขีด

ภควรรีบเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากอย่างรวดเร็ว ใช้ศอกสะกิดตมิศา แล้วเอ่ยเตือนเสียงทุ้ม “เธอหุบปากได้ไหม ถ่อมตัวหน่อย……”

แต่ตมิศาไม่สนใจเขาเลย สายตาเลื่อนไปที่หน้าแทนไทอีกครั้ง “จริงๆ แล้วฉันก็รู้สึกนะว่าแพทย์แผนจีนมันไม่มีอนาคตอะไร นายไปเป็นผู้บริหารสักบริษัทดีกว่านะ บริหารบริษัททั่วไป เอาเงินเดือนสูงๆ มาทำการลงทุน มันไม่ดีกว่าเหรอ?”

“อ่อ? งั้นเหรอ?” แทนไทยกสายตาขึ้นมองภควรอย่างเย็นยะเยือก

ภควรตัวสั่นทันที “ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ครับ”

ตมิศาแค่นเสียงเฮอะเดี๋ยวนั้น “ที่รัก นายอยู่ต่อหน้าคนของตัวเอง นายจะถ่อมตัวไปทำไมฮะ? เดี๋ยวนายไปคุยกับสามีชัชนันท์นะ สอนเขาหน่อยว่าหาเงินก้อนโตเหมือนนายยังไง ไม่งั้นจะเลี้ยงดูคุณหนูนันท์อย่างชัชนันท์ไหวได้ไง?”

“สามีฉันจะทำอะไรเธอไม่ต้องกังวลหรอกนะ เทียบกับการไปทำงานเป็นลูกน้องคนอื่น สามีฉันชอบเปิดโรงพยาบาลของตัวเองมากกว่า” ชัชนันท์จับมือชายหนุ่มข้างกายแน่น แล้วโต้กลับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว