มารีญาแน่ใจว่าชัชนันท์ไม่มีทางมีตั๋วเลยด้วยซ้ำ
เพื่อตั๋วใบนี้ เธอจะต้องใช้พละกำลังอย่างมาก ไม่รู้ว่าคนในครอบครัวจะต้องใช้เส้นสายกว่าเท่าไหร่แล้ว
พลังอำนาจของตระกูลรัตนากรกุลสู้ตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์ของพวกเขาไม่ได้ ตระกูลรัตนากรกุลจะเอาตั๋วมาได้อย่างไรกัน?
มือทั้งสองข้างของมารีญากอดอก ท่าทางมั่นใจ พูดอีกว่า “แกจะมายั่วยวนคนรวยมีอำนาจสินะ?ให้ฉันเดาสักหน่อยว่า แกอยากจะยั่วยวนใครกัน? หืม…… คงไม่ใช่ประธานาธิบดีหรอกนะ ?เพราะว่าแกรู้ว่าประธานาธิบดีก็มาเช่นกัน เพราะงั้นจึงมาสินะ?”
มองดูพฤติกรรมที่น่าเอือมระอานี้ของเธอ ชัชนันท์ทั้งรู้สึกโมโหและขำ
กลับว่าเป็นตัวเธอเองที่เปิดเผย ข่าวที่ประธานาธิบดีจะมาที่นี่ ทำให้ชัชนันท์ค่อนข้างตกใจ
มิน่าล่ะงานประมูลครั้งนี้ถึงได้เข้ายากเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นเพราะเขานี่เอง
ชัชนันท์เลิกคิ้วที่เขียนสีดำขึ้นครู่หนึ่ง มองไปที่หน้าของเธอ “แกคิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนกับแกเหรอ?”
“แก……แกหมายความว่าอะไร?”มารีญาขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง
“ความหมายตามตัวอักษร”ชัชนันท์พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ มองดูแล้วอ่อนโยน แต่มีออร่าที่น่ายำเกรงอย่างมาก
“แกไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องพูดเลยนะ ฉันถามแก แกคิดจะยืนอยู่ที่นี่ รอยั่วยวนประธานาธิบดี?ฉันคิดก่อนนะ……ชัชนันท์ของเราคิดจะใช้วิธีการแบบไหนนะ?แสร้งเป็นไม่ระวัง แล้วก็ชนในอ้อมแขนของประธานาธิบดี?หรือแกล้งเป็นลม ประธานาธิบดีพาตัวไป?”
“แกรู้อีกแล้ว?”ความโมโหในก้นลึกของหัวใจชัชนันท์ ค่อยๆเริ่มเพิ่มสูงขึ้น นอกจากชลิตา ผู้หญิงที่วอนโดนตีนที่สุด ก็คือผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แล้ว
“ไม่มีตั๋ว ยังอยากจะมาที่นี่ ก็เพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่เหรอ?ฉันละปวดใจแทนสามีสุดหล่อคนนั้นของแกจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะหาผู้หญิงต่ำช้าที่ชอบประจบผู้มีอิทธิพลอย่างแกมาเป็นภรรยา”มารีญาพูดต่อ ในใจของเธอตัดสินใจแล้วว่าความคิดของตัวเองนั้นเป็นเรื่องจริงโดยสิ้นเชิง
ไม่เช่นนั้น ทำไมชัชนันท์ต้องมาที่นี่ด้วย?แถมมีผู้หญิงบางส่วนเพื่อที่จะยั่วยวนคนรวยมีอำนาจ ไม่ว่าเรื่องไหนก็สามารถทำออกมาได้ทั้งนั้นเลยจริงๆ
อย่าว่าแต่มารอคนที่หน้าประตูของสถานที่แบบนี้เลย เรื่องที่โอเวอร์มากกว่าหน่อยคนเหล่านี้ก็ทำได้
ถึงอย่างไรมีใครที่ไม่อยากไต่ขึ้นบนกิ่งไม้ที่สูงยิ่งขึ้น เดินขึ้นสูงกว่านี้ไกลกว่านี้บ้างละ?คนที่ไม่มีเงินปรารถนาที่จะกลายเป็นคนรวย คนรวยปรารถนาที่จะกลายเป็นคนที่มีอำนาจ
แต่ละคำแต่ละประโยคดังเข้ามาในรูหูชัชนันท์ แสบแก้วหูมาก
และในเวลานี้ รถหรูกว่าหลายคัน จอดในที่จอดรถเวลาเดียวกันแล้ว
พวกผู้หญิงสูงศักดิ์กลุ่มหนึ่งเดินลงมาจากรถ เดินไปในสถาบันประมูลกันมากมาย……
เห็นเช่นนี้ มารีญาเพิ่มโทนเสียงสูงขึ้นมาทันที เหล่ตามองหน้าของชัชนันท์อย่างเยือกเย็นต่อไป “ชัชนันท์ไม่ใช่ว่าฉันว่าแกนะ……แกคิดได้ยังไงว่าจะมายั่วยวนคนรวยที่มีอำนาจที่นี่ละ?อายุยังน้อยก็หน้าไม่อายขนาดนี้แล้วเหรอ?แกช่วยมีคุณธรรมหน่อยได้ไหมล่ะ?”
เธออยากให้ชัชนันท์อับอาย ทำให้เธอไม่มีหน้า อยู่ที่นี่ต่อไป
ชัชนันท์ไม่สบายใจ ก็คือความสุขของมารีญา
“แกอยู่ที่นี่ไม่มีทางได้ผลลัพธ์ อยากจะได้ผลลัพธ์ อย่างน้อยแกก็ต้องได้ตั๋วเข้าไปในสถาบันประมูล……ยิ่งคนที่มีอำนาจมาก ตอนออกมาก็จะมีบอดี้การ์ดตามมามากยิ่งขึ้น……แกไม่มีทางเข้าใกล้ตัวของคนเขาได้เลยด้วยซ้ำ” มารีญาเพิ่มโทนเสียงสูงขึ้นอีกครั้งแล้ว
สายตาของพวกผู้หญิงสูงศักดิ์ แทบจะตกมาที่พวกเธอทั้งสองคนในเวลาเดียวกันแล้ว ทุกคนต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกันแวบหนึ่งทันที หลังจากนั้นเดินมาที่ข้างกายของพวกเธอแล้ว
ในสายตาของพวกเธอเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและเจตนาฆ่า เหมือนว่าในสายตาจะเขียนว่า “นังคนชั้นต่ำ ตายซะเถอะ”
ถ้าหากสายตาฆ่าคนได้ ชัชนันท์คิดว่าตอนนี้ตัวเองน่าจะตายไปหลายหมื่นครั้งแล้วนะ
เวลานี้ เธอไม่สบายใจ แทบจะเพิ่มขึ้นถึงขีดสุดแล้ว
สำหรับความเกลียดของมารีญา ก็ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
“อย่างที่ว่าตอนนี้เด็กผู้หญิงมากมาย……ก็หน้าไม่อายซะจริงๆ แม้ว่าจะแต่งงานแล้ว ก็ไม่สงบนิ่ง วันๆคิดแต่จะยั่วยวนผู้ชายที่มีความสามารถ”
“ใช่ไง?ตอนนี้เด็กผู้หญิงมากมาย ต่างก็อาศัยรูปโฉมที่ค่อนข้างสวยงามของตัวเอง วางอำนาจบาตรใหญ่ แย่งชิงสามีของคนอื่น”
“กฎหมายไม่เข้มงวดพอ พวกผู้หญิงที่ชอบยั่วยวนสามีของคนอื่นเหล่านี้ น่าจะตัดสินโทษประหารชีวิตเลย ดูว่ายังมีนังผู้หญิงชั้นต่ำกล้าทำอีกไหม”
กลุ่มผู้หญิงสูงศักดิ์อย่างพวกเธอ ต่างก็พูดคุยแสดงข้อคิดเห็นกันขึ้นมา ไม่ได้คิดที่จะเดินออกไป
น้ำเสียงในการพูดของแต่ละคน ต่างก็พูดจาบาดลึกเสียดแทงอย่างไม่แยแสต่างๆนาๆ
ชัชนันท์รู้ว่าหัวข้อนี้ที่มารีญาเอ่ยขึ้นมา ถือว่าจี้จุดอ่อนในใจของพวกผู้หญิงเหล่านี้พอดีเลย
ดังนั้น การตอบสนองของพวกเธอถึงได้มากมายเช่นนี้
ผู้หญิงอย่างพวกเธอนี้ สิ่งที่เกลียดที่สุดคืออะไร?ก็คือสามีของตัวเองไปหาเด็กสาวที่อายุน้อยและสวยกว่าตัวเองนอกบ้าน
พวกเธอกลัวอะไรก็มักจะมาอย่างนั้น พวกผู้ชายที่มีความสามารถเหล่านั้น แทบจะไม่มีใครเป็นคนโง่ พวกเธอจะยุ่งก็เข้าไปยุ่งไม่ได้ ทำได้เพียงอดกลั้นความโมโหไว้
ตอนนี้มารีญาเปิดช่องทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธในใจให้กับพวกเธอพอดี อารมณ์ที่บีบอัดอยู่เก่าที่พรั่งพรูออกมาเหล่านั้น ทะลักเข้ามายังชัชนันท์ทั้งหมดไปโดยปริยาย
แม้ว่าเข้าใจพวกเธอ แต่ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ของพวกเธอ ทำให้เธอโมโห
เธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งที่เดินอยู่บนถนน ถูกคนปลุกระดมให้คนที่ไม่รู้ความจริงคล้อยตาม อย่างกับถูกกลุ่มคนที่มุงดูทุบตีโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ยังไงอย่างนั้นอีก
ในเวลานี้ รถเข้าจอดมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
และก็มีผู้หญิงสูงศักดิ์เข้ามาใกล้ตำแหน่งของพวกเธอมากยิ่งขึ้น
คนจำนวนมากมายเกิดความอยากรู้ ล้วนแต่ถามกันขึ้นมา และคนที่มุ่งดูเริ่มแรกเหล่านั้น ก็จะอธิบายให้ทุกคนฟัง
ดูเหมือนว่าเธอจะกลายเป็นโสเภณีที่ใช้อุบายไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลเพื่อยั่วยวนสามีคนอื่น ในสายตาของทุกคนแล้ว
คำพูดที่ร้ายกาจต่างๆนาๆ เริ่มบีบอัดเข้ามาในรูหูของเธอ
แม้ว่าโมโห แต่เธอไม่ได้โต้กลับ เพียงแค่มองมารีญาเสแสร้งอย่างสงบนิ่ง……
มารีญาเห็นว่าวิธีการของตัวเองค่อนข้างได้ผล เหล่มองไปยังชัชนันท์อย่างเยือกเย็นอีกครั้งทันที ราวกับว่ายืนอยู่บนศีลธรรมอันสูงสุดยังไงอย่างนั้น ประณามเธอต่อว่า “ฟังฉันแนะนำสักประโยคนะ รีบออกไปเถอะ……สามีของคนอื่นไม่ได้แย่งกันง่ายๆขนาดนั้น แกก็ไม่มีตั๋ว ยืนอยู่ที่นี่ก็เหมือนคนโง่ ”
“เป็นผู้หญิงที่หน้าตาก็ค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว น่าเสียดายที่ชอบอ่อยผู้ชายเป็นหญิงร่าน……จุ๊ๆๆๆ……”
“ใช่ ไม่มีตั๋วยังจะวิ่งเร่มาที่นี่อีก ที่เธอมาในครั้งนี้ก็เพราะว่ามีเป้าหมาย มีกลอุบายจริงๆ”
“ประเพณีนิยมของสังคมยิ่งเสื่อมลงเรื่อยๆจริงๆ ผู้หญิงที่มีความคิดแบบนี้ล้วนแต่สมควรตาย”
พวกผู้หญิงสูงศักดิ์ที่อยู่รอบๆ ต่างก็แสดงความคิดเห็นต่อ คำพูดคำจาของแต่ละคนต่างก็รุนแรงกันเรื่อยๆ
เธอรู้สึกเหมือนว่าหูของตัวเองถูกของมีคมเคาะตีอย่างไม่หยุดหย่อน รู้สึกแย่มากแล้ว
มารีญาเห็นชัชนันท์จนถึงตอนนี้ก็ไม่โต้กลับ ก็ยิ่งมั่นใจในคำพูดของตัวเองอย่างมาก
เธอหันหน้ามองพวกผู้หญิงรอบๆพร้อมพูดว่า “นี่มันเป็นเรื่องอะไรกันละ?เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย เธอไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล……เอาตั๋วมาไม่ได้ ก็มารอคนที่หน้าประตู คนที่รู้ก็พูดว่าเธอเป็นคุณนันท์ของตระกูลรัตนากรกุล……คนที่ไม่รู้ ยังคิดว่าเธอเป็นสาวยืนถนนนะ”
“ตระกูลรัตนากรกุล?งั้นเธอคือชัชนันท์?ฉันก็ว่าทำไมฉันถึงได้คุ้นหน้าคุ้นตาผู้หญิงคนนี้ขนาดนั้น ทำให้รัตนากรกุลกรุ๊ปของพวกเธอขายขี้หน้าจริงๆ”
“รุ่นต่อไปของตระกูลรัตนากรกุล ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดสั้นๆได้จริงๆ จุ๊ๆๆๆ……ไม่มีอะไรดีสักอย่าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว