พวกผู้หญิงสูงศักดิ์เริ่มแสดงความคิดเห็นอีกระลอก ความเกลียดชังนัยน์ตาของแต่ละคน แทบจะล้นออกมาแล้ว
เห็นท่าทางเช่นนี้ของมารีญา ชัชนันท์แทบอยากจะตบให้เธอล้มลงกับพื้นสักฉาดหนึ่ง ตบให้แหลกละเอียดแบบนั้น
แต่ว่าชัชนันท์ก็ฝืนทนไว้ เพียงแค่มองมารีญาอย่างนิ่งๆแวบหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นหยิบการ์ดเชิญออกมาจากในกระเป๋า
ในเวลานี้ มารีญาตกตะลึงแล้ว
คนอื่นๆก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน……
ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่า จู่ๆชัชนันท์จะมาการ์ดเชิญ
มารีญารู้สึกว่าหน้าของตัวเองถูกตบดังเปรี๊ยะๆๆ ชัชนันท์มีการ์ดเชิญได้ยังไงกันละ?
ของที่ส้ำค่าหายากเช่นนี้ กว่าที่เธอจะได้มามันไม่ง่ายเลย ทำไมชัชนันท์ถึงมีได้ละ?
งั้นพฤติกรรมเมื่อสักครู่ของเธอถือว่าเป็นอะไรกันละ?เธอโง่เหรอ?
“บอกว่าเธอไม่มีการ์ดเชิญไม่ใช่เหรอ?เธอมีได้ยังไงละ?”
“ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ปล่อยข่าวลือเช่นนี้ละ?งั้นคำพูดที่เธอพูดเริ่มแรกเหล่านั้นก็เชื่อไม่ได้สินะ?”
“นี่เห็นว่าเธอไม่ดีก็เลยใส่ร้ายป้ายสีเธอ? ฉันได้เปิดประสบการณ์แล้วจริงๆ……”
ทันทีทันใด สิ่งที่พูดแต่แรกกับสิ่งที่เห็นผกผันกันหมด
เป้าหมายของเสียงวิพากษ์วิจารณ์ย้ายไปที่มารีญาแล้ว
ช่วงเวลานี้ มารีญาแทบอยากมุดดินหนีเข้าไปจริงๆเลย
เธอกัดฟันแล้ว มองชัชนันท์อย่างรุนแรง “นี่เป็นเรื่องเท็จสินะ?แม้ว่าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าเป้าหมายที่แกมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่ออ่อยคนรวยและมีอำนาจ แกเข้าใจเรื่องโบราณวัตถุเหรอ?คนไม่ชำนาญอย่างแกมาในโอกาสแบบนี้ ไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้ แล้วจะเป็นเรื่องอะไรได้?”
จากที่เธอทราบมา ชัชนันท์ไม่รู้เรื่องวัตถุโบราณเลยด้วยซ้ำ
ชัชนันท์ขมวดคิ้วอย่างเฉื่อยชา เงยหน้าขึ้นสีหน้าเรียบเฉย มุมปากโค้งงอขึ้นอย่างอ่อนโยน “ขอโทษนะ ฉันเข้าใจจริงๆ งั้นแกละ?แกเข้าใจไหม?”
เพียงประโยคเดียว ทำให้มารีญาพูดไม่ออกเลยทันที
เธอ……
อันนี้ เธอไม่เข้าใจจริงๆ เธอค่อนข้างเสียใจภายหลังที่ตัวเองถามคำถามนี้กับชัชนันท์
แต่ว่า เธอจะพูดว่าตัวเองไม่เข้าใจไม่ได้……
“ฉันเข้าใจอยู่แล้ว……”มารีญาจำต้องกัดฟัน ทำหน้าตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ กำมือทั้งสองข้างที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวแน่นแล้ว
“อ๋อ……งั้นเหรอ?ฉันมีเรื่องหนึ่งลืมไปแล้ว ตอนที่ถังป๋อหู่วาดภาพ ชอบระบุปีหรือเปล่า?”ชัชนันท์ถาม
เธอรู้เรื่องมารีญาเป็นอย่างดี เธอเป็นพวกที่หน้าตาสวยแต่ไร้สมอง ไม่มีความรู้ไม่มีทักษะใดๆ ไม่รู้เรื่องอะไรทางด้านนี้เลย
“ชอบอยู่แล้ว จะมีจิตรกรท่านไหนที่วาดรูปแล้วไม่ชอบระบุปีบ้างละ?”มารีญาตอบกลับไปด้วยความมั่นใจอย่างมาก
เพิ่งจะพูดจบ คนที่มุงดูรอบๆอดไม่ได้หัวเราะขึ้นมาแล้วทันที
มุมปากของชัชนันท์ก็โค้งงอขึ้นอย่างสวยงามอีกครั้งแล้ว ภายใต้การส่องสว่างของไฟรายทาง ท่าทางที่แสดงออกมาของเธออบอุ่นกว่าลมในฤดูใบไม้ผลิ
ยืนอยู่กับมารีญาที่มีความโหดเหี้ยมคละคลุ้งทั้งตัว นิสัยและระดับความรู้ความสามารถของทั้งสองใครสูงกว่ากันสามารถตัดสินได้เลย
เสียงหัวเราะเหล่านี้ ทำให้มารีญาร้อนตัวอย่างมาก “พวกแก……พวกแกหัวเราะอะไรกัน?”
“ถังป๋อหู่คนๆนี้น่ะ น้อยมากที่จะระบุปีที่ภาพวาด แม้แต่เรื่องนี้แกก็ยังไม่ทราบแกยังมีหน้ามาพูดว่าตัวเองเข้าใจเรื่องวัตถุโบราณ?งั้นแกบอกฉันอีกครั้งซิว่า ผลงานตัวแทนของถังป๋อหู่คืออะไร?พูดจบ ชัชนันท์อดไม่ได้หัวเราะครู่หนึ่งแล้ว”
“……”มารีญาตอบกลับไม่ได้แล้ว
“ให้ฉันบอกแกนะ คือ《รูปตะวันยอแสงและห่านป่าที่แสนโดดเดี่ยว》《รูปดอกแอปริคอทและกระท่อมหลังน้อย》《รูปวิวทิวทัศน์ระหว่างภูเขาในฤดูใบไม้ผลิ》《รูปสายลมแห่งฤดูใบหม้ร่วงและพัดกลมที่ทำด้วยแพร》《บทกวีที่ประพันธ์โดยถังป๋อหู่》เป็นต้น”นัยน์ตาของชัชนันท์สงบนิ่ง น้ำเสียงนิ่งๆ
“เธอไม่รู้เรื่องวัตถุโบราณณอะไรทั้งนั้น……”
“ได้ฟังชัชนันท์พูดแต่ละหัวข้อล้วนมีเหตุผลฟังดูดี ดูเหมือนว่าชัชนันท์จะรู้เรื่องจริงๆ เพราะงั้นเด็กผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่มาอ่อยผู้ชายสินะ?ดูเหมือนว่าชัชนันท์จะไม่เหมือน……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...