หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 212

ชัชนันท์รีบดึงสติกลับมา “ไม่มีอะไร แค่คิดว่าผู้หญิงของนายนี่โชคดีจัง”

แทนไทมองเธออย่างลึกซึ้ง “อืม......เธอโชคดีจริงๆ แหละ”

ได้ยินดังนั้น หัวใจของชัชนันท์ก็เต้นผิดจังหวะ สีหน้าบนใบหน้าก็ชะงักไปเล็กน้อย

แต่แค่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ “ฉันไปรอกินข้าวที่ห้องอาหารนะ”

“เธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เหรอ?” แทนไทพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“จริงๆ ......ที่ฉันสีหน้าไม่ค่อยดี คงเป็นเพราะว่าเมื่อคืนอยู่ทำงานจนดึก” ชัชนันท์หันหลังและเดินเข้าห้องอาหารไป

เขาขมวดคิ้วอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามย้ำ จากนั้นก็ใช้ตะเกียบพลิกด้านเบคอนในกระทะอย่างระมัดระวัง

……

งานเลี้ยงวันเกิดของหทัย จัดอย่างยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ

ด้านนอกด้านในบ้านตระกูลรัตนากรกุล ล้วนแต่จอดโดยรถหรู

ห้องโถงในบ้าน ถูกจัดแต่งให้เป็นห้องโถงหลักของงานเลี้ยง

ลูกโป่งหลากสีที่งดงาม ดอกกุหลาบขาวที่ดูใสสะอาด และหอแก้วแชมเปญที่สูงตระหง่าน เค้กเลิศรสสีขาวสูงสิบชั้น บรรเลงเพลงวอลทซ์ไพเราะ และด้านในห้องโถงประดับเครื่องตกแต่งราวกับความฝัน

คนดังในเมืองสินธุสวมชุดแบรนด์เนมมารวมตัวกัน บ้างก็รวมตัวกันเพื่อพบปะพูดคุย บ้างก็จับคู่กันเป็นคู่ๆ เต้นรำตามเสียงเพลงบนฟลอร์เต้นรำ

โลกอันกว้างใหญ่ ครึกครื้นเป็นพิเศษ

หทัยสวมชุดกี่เพ้าสีไวน์แดงยิ้มอย่างแจ่มใส สวมเครื่องเพชรพลอยประดับมูลค่ามากกว่าล้าน ใบหน้ามีราศียืนอยู่ข้างกายวันชัย ดื่มทักทาย เข้าสังคม

วินาทีนี้ หล่อนเป็นที่ดึงดูดสายตา ของคนทั้งงานมากที่สุด

ขณะที่ชัชนันท์ควงแทนไทเดินเข้าประตู แว๊บแรกก็มองเห็นใบหน้าอันน่าทึ่งของหทัย ภาพนั้นมาปรากฏต่อหน้าทำให้บาดตาเล็กน้อย

เธอก็ตั้งใจแต่งตัวมากเหมือนกัน บนร่างสวมชุดราตรีพู่เกาะอกสีเงินยาว และสวมชุดเครื่องประดับไพลินที่กชมนมอบให้เธอ ผมลอนราวกับสาหร่าย ทิ้งยาวปล่อยอยู่ข้างหลังอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับนางฟ้าตกสวรรค์

ชายพู่สีเงินแต่ละชั้นบนร่าง แกว่งไปมา ตามฝีเท้าการเดิน ดูเป็นประกาย

ส่วนแทนไทก็สวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ไม่ได้สวมเนกไท กระดุมคอเสื้อสองเม็ดบนปลดออกอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่ดูเรียบหรูก็ยังมีความรู้สึกสบายๆ เล็กน้อย

พวกเขาทั้งสองเข้ามาในงาน ก็ดึงดูดสายตาของทุกคน ทุกคนต่างก็เบนความสนใจ จากหทัยย้ายไปที่ตัวพวกเขา

วินาทีนี้พวกเขาคือคนที่น่าดึงดูดที่สุดในงาน

ขณะนั้น คำประจบข้างหูของวันชัย ก็เพิ่มขึ้นมาก

“คุณวันชัย......ลูกสาวคนโตคนนี้กับลูกเขยของลูกสาวคนโตต่างเหมือนดั่งเทพเลย......ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ”

“นันท์ยิ่งโตยิ่งสวย......ราวกับนางฟ้าชัดๆ”

“นันท์ไม่ใช่แค่สวยนะ แถมยังมีความสามารถด้วย ฉันได้ยินมาว่าหลังจากที่เธอเข้าไปในรัตนากรกุลกรุ๊ปแล้ว ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ของรัตนากรกุลกรุ๊ป เพิ่มขึ้นจากเดิม 30% แหนะ......”

“งั้นเหรอ? หน้าตาดีก็ได้แล้ว นี่ยังมีความสามารถอีก......ท่านวันชัยนี่เชื้อดีจริงๆ”

คำพูดพวกนี้ สำหรับวันชัยแล้ว ก็คือลูกอมแสนหวาน วินาทีนี้ เขารู้สึกภาคภูมิใจสุดๆ สายตาที่มองชัชนันท์ยิ่งมองยิ่งรักยิ่งเอ็นดู

หทัยที่อยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนี้กลับแสลงหูจะตาย ริษยาอยู่ในใจ เธออยากจะฉีกชัชนันท์ยัยตัวดีนั่นเป็นชิ้นๆ แทบไม่ไหวแล้ว

ท่ามกลางเสียงชม ชัชนันท์ควงแขนแทนไท เดินไปยังด้านหน้าของหทัยกับวันชัย

ชัชนันท์หยิบกล่องผ้ากำมะหยี่สีดำทองงานละเอียด ออกมาจากกระเป๋าคลัชสีเงิน “คุณป้า สุขสันต์วันเกิดนะคะ นี่คือของขวัญที่หนูกับสามีได้เตรียมมาให้คุณป้าค่ะ......”

หทัยยิ้มขึ้นทันทีและรับกล่องเครื่องประดับมา จากนั้นก็เปิดออก

ด้านใน มีกำไลหยกขาวงานละเอียดวางอยู่ แค่ดูก็รู้ว่าเป็นของดี

หทัยยิ้ม “ขอบใจนะนันท์......ขอบใจนะพ่อแทน”

ขณะนั้น ภราดร ก็พามารีญา กับดวงพรเดินเข้ามา......

ในสามคนมารีญาสะดุดตาที่สุด หล่อนสวมชุดเกาะอกสั้นสีแดง มัดผมหางม้าสูง ดวงตาและหางคิ้วเย่อหยิ่ง

วินาทีที่เห็นชัชนันท์ สีหน้าของมารีญาก็เย็นชาลงทันที

พวกเขาทั้งครอบครัวเดินไปยังด้านข้างของหทัย

คู่สามีภรรยาตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์เริ่มพูดแสดงความนับถือหทัยกับวันชัย และพูดสุขสันต์วันเกิด พูดพวกนี้จบก็เริ่มเยินยอกันไปมา

ชัชนันท์สังเกต ไปที่จี้เพชรผีเสื้อบนคอของมารีญาอยู่ตลอด ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

มารีญาพูดแทรกขึ้นมาไม่ได้เลย หล่อนจึงโฟกัสไปที่ตัวชัชนันท์

เมื่อเห็นสร้อยบนคอของชัชนันท์ มารีญาก็หึใส่อย่างดูถูก พลางพูด “นันท์......บนคอของเธอนั่นคือสร้อยสายใยรักสีฟ้าใช่มั้ย?”

ชัชนันท์พูดขึ้น “ทำไม?”

มารีญาหึอย่างเย็นชา “ฉันจำได้ว่าสร้อยเส้นนี้ ทั้งโลกมีเพียงเส้นเดียวไม่ใช่เหรอ? สร้อยเส้นเดียวนั้นหลายวันก่อนถูกภรรยาของท่านรองประธานาธิบดีซื้อไป ทำไมถึงโผล่มาอยู่ที่เธออีกเส้นได้ล่ะ?”

ท่านรองประธานาธิบดีไม่ได้ให้เธอหรอกนะ? สร้อยราคาหลายล้าน จะบอกว่าให้คนอื่นก็ให้อย่างนี้ได้เหรอ?” มารีญาจงใจเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น

หล่อนจงใจ อยากให้คนอื่นรู้ ว่าชัชนันท์ใช้ของแพงแต่ปลอม หล่อนอยากให้ชัชนันท์ขายหน้า

“แล้วเธอรู้ได้ยังไง ว่าท่านไม่ได้ให้ฉัน?” ชัชนันท์ถาม

พวกผู้หญิงรอบข้างที่ได้ยินดังนี้ ก็ค่อยๆ อดไม่ได้ที่จะจ้องไปที่สร้อยบนคอของชัชนันท์ และเริ่มพูดกระซิบกัน มุมปากโค้งอย่างดูถูก

“ใช้ของปลอมอะไรไม่พูดถึง แต่จะมาโอ้อวดแบบนี้ไม่ดีมั้ง?”

“ไม่มั้ง......สร้อยราคาหลายล้าน ใครคิดจะยกให้ก็ยกให้เลยงั้นเหรอ?”

“ฮ่าๆๆ ถึงแม้จะสนิทกันแค่ไหน ก็ไม่มีทางหรอก”

ได้ยินเสียงของทุกคน มารีญาก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจทันที และมองไปที่ชัชนันท์อย่างเย็นชา “เธอดูสิใครยินดีจะเชื่อเธอ? คนฐานะอย่างพวกเราใช้ของแพงปลอมๆ น่าขายหน้าจริงๆ เลย”

ดวงพรยกยิ้มอย่างเย็นชา และไม่ได้ห้ามปรามมารีญา

แทนไทสีหน้าเย็นชา พลางมองมารีญา “ถ้าหากเป็นของแท้ล่ะ?”

มารีญายกยิ้มขึ้นทันที “งั้นวันนี้ฉันจะเต้นเปลื้องผ้าที่นี่”

หทัยดึงแขนมารีญาอย่างเบาๆ แสร้งทำเป็นอ่อนโยน พลางมองไปที่สร้อยคอทองคำขาวประดับเพชรรูปผีเสื้อบนคอของมารีญา ช่วยเปลี่ยนเรื่อง “มารีญา......สร้อยบนคอหนูสวยดีนะ......หนูซื้อมาจากไหนเหรอ?”

มารีญาลูบสร้อยคอเพชรของตนเบาๆ อย่างพอใจ และพูด “นี่เป็นงานออกแบบของนักออกแบบเครื่องประดับชื่อดังระดับนานาชาติ Sunny และ Tiffany ร่วมมือกันออกแบบเป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นของโลก......”

สิ้นเสียง หล่อนก็เขย่าจี้เส้นนั้นอย่างภาคภูมิใจ

“งั้นเหรอ? ฉันจำได้ว่าสร้อยเส้นนี้ทั่วโลกมีแค่รุ่นเดียว ตอนนั้นไม่รู้ว่าถูกคนไม่ประสงค์ออกนามคนไหนซื้อไป......คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ?” มุมปากของชัชนันท์ยกยิ้มอย่างเย็นชา นัยน์ตามีความดูถูกเล็กน้อย

“ก็แน่สิ......หรือว่าจะให้ฉันใช้ของปลอมแบบเธอหรือไง?” มารีญาหึอย่างเย็นชา เป็นมองบนใส่เธอ

ชัชนันท์เลิกคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร

“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด......” ในขณะนั้น โทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากกชมน เธอจึงกดรับสายทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว