หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 214

“ตอนนี้ยังคงสืบไม่ได้ความอะไรเลย ให้เวลาผมสักหน่อยเถอะ......” อีกฝั่ง ก็มีเสียงของผู้ชายดังขึ้น มากระทบที่หู

“ทำไมยังสืบไม่ได้ความ? นายเป็นพวกไม่ได้เรื่องหรือไง?” ชลิตาสีหน้าไม่พอใจ อารมณ์จากที่อยู่สูงๆ ก็ดิ่งลงทันที

“คุณชลิตา หรือว่า......สามีของพี่สาวคุณนั้นไม่ได้มีอะไรตั้งแต่แรกแล้ว? ไม่งั้นทำไมถึงตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย?” อีกฝั่งพูดอย่างระมัดระวัง

“เป็นไปไม่ได้ สืบต่อไป ความรู้สึกฉันมันไม่โกหกฉันหรอก อะไรก็ตรวจสอบไม่เจอ งั้นนายโทรหาฉันทำไม?” ชลิตาว่ากล่าวอย่างเย็นชา

“ที่โทรมาเพื่ออยากจะบอกคุณว่า เดือนนี้เลยวันเงินเดือนออกไปสองวันแล้ว”

“รู้แล้วน่า! ฉันให้เวลานายอีกเดือนเดียว ถ้ายังหาข้อมูลอะไรมาไม่ได้ นายก็ไสหัวไปซะ” ชลิตากัดฟันกรอด จากนั้นก็กดวางสายไป

…… ……

ด้านล่าง แสงที่ชัชนันท์ ยังคงส่องสว่างอยู่

คุณหญิงคุณนาย เข้ามาล้อมรอบเธอมากยิ่งขึ้น ถามเธอถึงเรื่องของภรรยาท่านรองประธานาธิบดีไม่หยุด

อยู่ๆ ก็ต้องมารับมือกับคนมากมายขนาดนี้ ชัชนันท์รู้สึกปวดหัวสุดๆ

ส่วนแทนไทก็ถอยกลับไปที่เดิมอย่างเงียบๆ ขาเรียวยาวนั่งไขว่ห้าง ลงบนโซฟานั่งเล่นโทรศัพท์อย่างเงียบๆ

วันชัยยืนอยู่ข้างชัชนันท์ ใบหน้ายิ้มแย้มพลางมองลูกสาวของตน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสุข

ส่วนหทัยกลับยิ่งไม่พอใจ

วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเธอ แต่ตอนนี้กลายเป็นอะไรไปแล้ว? หากใครไม่รู้คงคิดว่างานเลี้ยงวันเกิดวันนี้เป็นงานเลี้ยงของชัชนันท์

เนื่องจากบทเรียนที่ผ่านมา เธอจึงไม่กล้าแสดงสีหน้าอะไรออกมา จึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นใจดีมองทุกคน พลางพูด “คือว่า......ได้เวลาอาหารแล้ว ทุกคนตามฉันไปที่อาคารด้านหลังเพื่อรับประทานอาหารกันเถอะ?”

ทุกคนได้ยินดังนั้น ความสนใจจึงเปลี่ยนไปที่หทัย พลางค่อยๆ ยิ้มและพยักหน้าตามๆ กัน

หทัยเห็นดังนั้น ก็เชิดหน้าชูตาทันที เดินไปทางผู้คนด้วยความมั่นใจ แจ้งให้พวกเขาไปรับประทานอาหารที่อาคารด้านหลัง

รู้สึกได้ว่ากระเป๋าในมือตัวเองสั่น ชัชนันท์จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองดูเป็นเบอร์ของนลิน เธอจึงเดินไปยังริมหน้าต่างสูง และกดรับสาย

“คุณชัชนันท์ ผลตรวจของมาวินดีขึ้นมาแล้ว......ฉันเดาว่าอีกไม่นานเขาจะไปหาชลิตาอีกครั้งเพื่อคุยเรื่องการหย่า”

“อืม......”

ริมฝีปากแดงของชัชนันท์ยกยิ้มเล็กน้อย และค่อยๆ กดวางสายไป จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าคลัชสีเงิน

ในดวงตาใส ราวกับมีดวงดาวซ่อนอยู่อย่างนั้น

…… ……

งานเลี้ยงวันเกิดของหทัย จัดจนถึงบ่ายสาม ถึงจะเลิก

หลังจากส่งแขกกลับ ชัชนันท์กับแทนไท ก็ตามวันชัยแล้วก็หทัย กลับไปยังห้องรับแขกตึกหลักของบ้านตระกูลรัตนากรกุล

หลังจากที่พวกเขานั่งลง หทัยก็เริ่มรินน้ำชาให้พวกเขาอย่างเป็นมิตร

มองดูท่าทางที่จอมปลอมของหล่อน ชัชนันท์ก็รังเกียจอยู่ในใจ แต่สีหน้าก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ส่วนแทนไทก็สงวนระยะห่างอย่างมีมารยาทมาตลอด

“นันท์.....พ่อถามหน่อย ลูกไปรู้จักภรรยาของท่านรองประธานาธิบดีได้ยังไง?” มือสองข้างของวันชัยกุมมือของชัชนันท์ พลางพูด

“เธอเคยไปซื้อตึกของพาราวิหค เลยได้รู้จักกัน” ชัชนันท์บอกไปตามความจริง

“เพราะเรื่องนี้ เลยรู้จักกัน? จากนั้นในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ลูกก็เชื่อมสัมพันธ์กับอีกฝ่ายได้ดีขนาดนี้เลย?” วันชัยทำหน้าช็อก เขาคิดว่าความสามารถของลูกสาวคนโตของตน และเกิดไปจากที่ตัวเองคิดไว้มาก

การดำเนินกิจการของบริษัท ต้องการคนแบบนี้

ลูกสาวคนโตคนนี้ จะเก่งมากเกินไปมั้ย?

ชัชนันท์ยิ้มพลางพยักหน้า “ก็เพราะเรื่องนี้......”

วันชัยอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ “นันท์ของพี่เก่งจริงๆ ไม่เสียแรงที่เป็นทายาทที่พ่อจับตามอง”

“ที่จริงแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่า เธอถูกชะตาหนูมั้ง” ถ้าหากจะต้องอธิบายล่ะก็ งั้นก็คงเป็นเพราะเหตุผลนี้แล้ว

“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร นันท์ก็เก่งทั้งนั้นแหละ” วันชัยเอ่ยชมอีกครั้ง สายตาล้วนเต็มไปด้วยความชื่นชมชัชนันท์

“ใช่แล้วนันท์เก่งมาก แต่ว่านันท์ หนูต้องพบปะคนแบบนั้น หนูจะต้องระวังนิดนึงนะ อย่าทำให้เขาไม่พอใจ ไม่งั้นอาจจะส่งผลกระทบถึงบริษัทพวกเราทั้งบริษัทเลยก็ได้นะ” หทัยแสร้งทำเป็นใจดีมองชัชนันท์พลางพูด

ต่อหน้ารอยยิ้มของหล่อน ชัชนันท์ก็ตอบกลับอย่างนิ่งๆ “อืม......ขอบคุณคุณป้าที่เตือนนะคะ หนูเข้าใจแล้ว พ่อคะ ป้าคะ หากไม่มีอะไรแล้ว งั้นพวกหนูขอกลับก่อนนะคะ หนูต้องไปเตรียมตัว ไปคฤหาสน์ท่านรองประธานาธิบดีคืนนี้ค่ะ”

“โอเคๆๆ ...... ใช่แล้ว นันท์ พ่ออยากจะซื้อรถสปอร์ตให้ลูกสักคัน...... ลูกชอบมาเซราติไม่ใช่เหรอ? ลูกดูว่าวันนี้มีเวลา ไปดูรถกับพ่อ?” วันชัยทำหน้าเมตตา

หทัยได้ยินดังนั้น ก็อิจฉาชัชนันท์ขึ้นมาทันที

ทำไมเขาถึงพูดว่าจะซื้อรถให้ชัชนันท์ กลับไม่พูดว่าจะซื้อให้ชลิตาล่ะ? หรือว่าลูกของหทัยเป็นลูกที่เกิดจากพ่อเลี้ยงหรือไงกัน?

“ค่ะ ขอบคุณค่ะพ่อ”

…… ……

กลับมาถึงคฤหาสน์ของตน ชัชนันท์ก็ถอดรองเท้าส้นสูงออกทันที เปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะสีขาวสบายๆ

ใส่รองเท้าส้นสูงนานไป ส้นเท้ารู้สึกปวดเอามากๆ วินาทีที่เปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะ ชัชนันท์รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่

เธอสูดหายใจเข้าลึก และนั่งลงบนโซฟา

หลังจากที่แทนไทเปลี่ยนรองเท้า กำลังจะเดินไปทางโซฟา

“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด......”

ขณะนั้น โทรศัพท์เขาก็สั่นขึ้น

มองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ด้านบนเขียนว่า “เจ้าตัวเล็ก” สายตาของเขาก็อ่อนโยนลง และกดรับสาย

“พี่ห้า......คืนนี้กินข้าวด้วยกันมั้ย?” ข้างหูมีเสียงหวานๆ ของธนิดาดังขึ้น

“ได้......ตอนเย็นกี่โมง?”

“หกโมงเป็นไง?” ฝั่งธนิดาถาม

“ดีล” แทนไทตอบอย่างไม่ต้องคิด จากนั้นก็นั่งลงด้านข้างชัชนันท์ และกดวางสาย

วินาทีที่เขากดวางสาย สายตาของชัชนันท์ก็บังเอิญไปมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่ตั้งใจ เห็น ‘เจ้าตัวเล็ก’ สามคำนี้ ทันใดนั้นชัชนันท์ก็รู้สึกเจ็บปวดจะขาดใจ

คุณห้ากับแฟนของเขา รักกันดีจริงๆ

ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ตนก็ไม่ควรไปสนใจเขาต่อ แต่เธอก็กลับอดใจไม่ไหว

เมื่อเห็นสีหน้าของชัชนันท์ไม่ค่อยดี แทนไทจึงพูดขึ้น “เหนื่อยมากเหรอ?”

ชัชนันท์พยักหน้า “อืม”

“ดื่มชาหน่อยมั้ย?” แทนไทถาม

“คุณห้า......”

“หือ”

“อยู่ข้างนอกเชื่อมสัมพันธ์กับผู้หญิง นายต้องระวังหน่อยนะ ถึงยังไง ถึงยังไงตามหลักแล้ว นายแทนไทยังเป็นสามีของฉันอยู่ หากถูกถ่ายอะไรมาได้ ฉันต้องโดนพาดหัวข่าวพร้อมไปกับนายนะ...... มันส่งผลกระทบไม่ดี ทั้งนายแล้วก็ฉัน” ชัชนันท์พูดเตือน

คิ้วคอมของแทนไทเลิกขึ้นเล็กน้อย สายตาถูกย้อมไปด้วยแววตาสำรวจ “ทำไมจู่ๆ เธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา?”

“ก็แค่อยู่ๆ ก็นึกได้ เลยเตือนนายเอาไว้” ชัชนันท์พูดขึ้น

ชัชนันท์ใช้มือสองข้างดันร่างที่เมื่อยล้าให้ลุกขึ้น “ฉันขึ้นข้างบนไปแช่น้ำ แต่งหน้า จากนั้นจะเตรียมตัวออกจากบ้านไปกินข้าวเย็น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว