หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 215

พูดจบ ชัชนันท์ก็เดินขึ้นข้างบนไป

“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด......” ขณะนั้น โทรศัพท์จากธนิดาก็โทรเข้ามาอีกครั้ง ดึงความสนใจของแทนไท

แทนไทกดรับสายอีกครั้ง “อะไรอีก?”

“ไม่มีอะไร แค่จะถามว่า พี่จะเล่นเกมมั้ย?”

“ไม่เล่น” เขาปฏิเสธตรงๆ

จากนั้น แทนไทก็กดวางสาย และลุกขึ้นออกจากบ้านไป

…… ……

ขณะเดียวกัน ที่อีกฝั่ง บ้านตระกูลรัตนากรกุล

ชลิตาที่ระงับอารมณ์โกรธให้เป็นปกติได้แล้วก็นั่งไขว่ห้างเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง

“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด......” ขณะนั้นมาวินก็โทรศัพท์มาหา

เมื่อเห็นสายเรียกเข้านี้ มือของชลิตาก็สั่นอย่างแรง

หลายวันมานี้ มาวินโทรหาเธอไม่น้อยเลย ทุกครั้งล้วนพูดแต่เรื่องหย่า

ถึงแม้ทุกครั้งเธอจะปฏิเสธ แต่เขาก็ดื้อรั้นเอามากๆ โทรหาสองสายสามสายติดต่อกัน

ชลิตาก็ทำแบบเดิม กดตัดสายทิ้งไป

ยังไงเธอก็จะไม่หย่ากับมาวิน ตอนนี้ตนเองได้สูญเสียสิ่งของไปมากมายแล้ว เธอจะให้ตัวเองสูญเสียมาวินไปอีกไม่ได้

ถึงแม้ตอนนี้มาวินจะไม่มีตำแหน่งเหมือนแต่ก่อน แต่เธอยังเชื่อ วันเวลาผ่านไป เขาจะต้องกลับคืนจุดสูงสุดได้

สามีที่ดีแบบนี้ เธอไม่มีทางจะปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นเอาไปได้ง่ายๆ แน่ ตอนที่มาวินกลับคืนจุดสูงสุด คนที่ยืนข้างกายเขา จะต้องเป็นเธอชลิตา

ในขณะนั้น มาวินก็ส่งข้อความมา “ออกมาคุยด้วยหน่อย......ฉันอยู่หน้าประตูบ้านเธอ วางใจได้ไม่ใช่เรื่องหย่า”

ทันใดนั้นชลิตาก็ดีใจขึ้นมา

ไม่ใช่เรื่องหย่า งั้นเป็นอะไร?

หรือว่าเขาอยากจะมาคืนดีกลับเธองั้นเหรอ? พี่วินของเธอ ในช่วงระยะเวลาที่แยกกับเธอนี้ หรือว่าจะนึกถึงเรื่องดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น? จากนั้นก็พบว่าตัวเองยังรักเธออยู่?

วินาทีนี้ ชลิตามีความสุขมากๆ

เธอสูดหายใจเข้าลึก รีบลุกขึ้น จัดการเซตผมของตัวเอง จากนั้นก็พยายามระงับความสุขในใจ แสร้งทำท่าทีเป็นซึมเศร้า ขมวดคิ้ว สวมรองเท้าแตะ และเดินลงข้างล่างไป

ด้านล่าง หทัยกับวันชัยกำลังนั่งดื่มชากันอยู่

เมื่อเห็นพวกเขา ชลิตาก็แสร้งทำท่าทีซึมเศร้ามากขึ้นไปอีกทันที เธอหมดอาลัยตายอยาก หดหู่ไม่มีชีวิตชีวา มองดูแล้วเหมือนกุหลาบแห้งที่กำลังจะเหี่ยวเฉา

เมื่อเห็นสภาพลูกสาวตัวเองแบบนี้ ใจของวันชัยก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีกครั้ง

“ตา ลูกลงมาทำอะไรเหรอ?” วันชัยถาม

ชลิตาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองวันชัยอย่างล่องลอย “หนูอยากออกไปเดินเล่น”

“พ่อไปเป็นเพื่อนนะ......” วันชัยพูดขึ้น

ชลิตาส่ายหน้า “ให้หนูอยู่คนเดียวเงียบๆ นะ”

จากนั้น เธอจึงก้มหน้า เดินออกมาอย่างเร็ว แม้แต่รองเท้าก็ไม่ได้เปลี่ยน

วันชัยเตรียมจะเข้าไปห้าม แต่หทัยกลับคว้ามือเขาไว้ “ให้ลูกไปเดินเล่นเถอะ ไม่เป็นไรหรอก......”

“ถ้าหาก หลังจากออกไป ลูกคุมตัวเองไม่ได้อีกล่ะจะทำยังไง?” วันชัยทำหน้าร้อนรน

“ตอนเที่ยงเธอกินยาแล้ว วางใจได้ ไม่เป็นไรหรอก” หทัยพูดปลอบ

วันชัยถึงได้นั่งลง แต่ในใจยังคงว้าวุ่น

“ที่รักคะ ตาของพวกเราชอบรถสปอร์ตที่สุด ถ้าคุณจะซื้อคันนึงให้นันท์ แล้วจะซื้อให้ตาสักคันได้มั้ย? บางทีได้เห็นรถแล้ว อารมณ์ของลูกอาจจะดีขึ้นนะ?” หทัยถามอย่างลองเชิง

“ได้......” วันชัยตอบอย่างไม่ต้องคิด

หทัยยกยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็ซบอิงไหล่วันชัยอย่างอ่อนโยน สองมือกอดเอวของวันชัยไว้แน่น

…… ……

ชลิตาเดินมาถึงหน้าประตูก็เห็นรถเบนท์ลีย์ของมาวินจอดอยู่ตรงนั้น

ต้นซากุระสองต้นตรงหน้าประตู ผลิดอกสีชมพูอ่อนไปทั่วต้น

ลมพัดมา กลีบดอกไม้ก็โบยบินราวเกล็ดหิมะ ร่วงหล่นลงพื้น และก็ร่วงลงบนรถของเขาเช่นกัน

ชลิตายังคงทำท่าทีซึมเศร้าเอาไว้ และรีบเข้าไปนั่งลงตรงที่นั่งข้างคนอย่างไว จากนั้นก็ปิดประตูลง

มาวินมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็โยนเอกสารหย่า ใส่มือเธออย่างแรง “รีบเซ็นชื่อซะ อย่าทำให้ฉันเสียเวลา”

เมื่อเห็นตัวหนังสือหย่า ความคาดหวังในใจของเธอ ก็สูญหายไปในทันที

สิ่งที่ตามมาก็คือความโกรธที่ไม่มีสิ้นสุด!

ที่แท้ เขานั้นหลอกเธอ! เขากลัวว่าเธอจะไม่ออกมา ดังนั้นเขาจึงหลอกเธอว่าไม่ได้มาพูดเรื่องหย่า!

เธอนั้นตอนนี้ ภายนอกเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้านะ แล้วมาวินล่ะ? ไม่สนใจอะไรเรื่องนี้เลย พูดเรื่องหย่าครั้งแล้วครั้งเล่า

หรือว่าเขาไม่กลัว ทำให้เธอกระทบกระเทือนจนอาการยิ่งกำเริบงั้นเหรอ? ผู้ชายคนนี้ยังมีหัวใจอยู่มั้ย?

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีหัวใจ เธอก็ยังปล่อยวางคนๆ นี้ไม่ลง นี่สิเป็นเรื่องที่น่าโมโหที่สุดแล้ว

เธอรักมาวิน รักเขาคนนี้ และก็ฐานะของเขา

ชลิตาตัวสั่นกำเอกสารหย่าไว้แน่น พลางมองมาวินอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาลค่อยๆ ไหลออกมา “พี่วิน ทั้งๆ ที่พี่รู้อาการของฉันในตอนนี้ พี่ยังจะกระตุ้นฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า......ในคุกเอาเอกสารหย่ามาขู่ฉันก็ช่างเถอะ หลังจากฉันออกมาทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันเป็นโรคซึมเศร้า พี่ก็ยังจะทำ”

“พี่จะต้องบีบฉันให้ตายให้ได้ใช่มั้ย?” พูดถึงสุดท้าย ชลิตาก็สำลัก

หัวใจตรงไหนสักที กระตุกไม่ยอมหยุด......

“เป็นเธอมากกว่ามั้งที่จะบีบฉันให้ตาย? ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันรังเกียจเธอแค่ไหน แต่เธอกลับให้ตายยังไงก็ไม่ยอมเซ็นใบหย่า ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ รีบเซ็นซะ!” มาวินต่อว่าอย่างเย็นชา นัยน์ตาเย็นชาอย่างไร้ที่เปรียบ

ในสายตาของเขา เธอมองไม่เห็นความอ่อนโยนเหมือนดั่งในอดีตเลยแม้แต่น้อย

นัยน์ตานี้ มันเย็นชากว่าตอนไหนๆ

“ฉันไม่หย่า ให้ตายฉันก็ไม่หย่า!” ชลิตาส่ายหัว

“ได้ เธอบีบฉันเองนะ เป็นแบบนี้แล้ว งั้นฉันก็จะไปยื่นฟ้องเธอ!”

“พี่วิน ฉันรักพี่......พี่อย่าหย่ากับฉันเลยนะ?”

“แต่ฉันไม่ได้รักเธอ! รีบเซ็นซะ! ก่อนพวกเราจะแต่งงานพวกเราเซ็นเอกสารไว้แล้ว ของฉันทั้งหมดไม่เกี่ยวกับเธอ ของเธอทั้งหมดไม่เกี่ยวกับฉัน ถ้าหากเดินตามกฎหมาย สักแดงเดียวเธอก็เอาไปไม่ได้ แต่ถ้าหากเธอยอมเซ็นให้ฉัน เธอสามารถได้รับค่าชดเชยจากฉัน เงื่อนไขการหย่าที่ให้เธอ มันเยอะมาก ของดีๆ เธออย่าปฏิเสธเดี๋ยวจะไม่เหลืออะไรเลย”

คำพูดของมาวิน ราวกับมีดทีละเล่มทีละเล่ม ปักลงบนใจที่อ่อนแอของเธอไม่หยุด เธอใกล้จะคลั่งเต็มที่......!

“มาวิน! นายต้องการจะเอาแบบนี้ให้ได้ใช่มั้ย! ฉันไม่หย่า ถ้านายมีความสามารถก็ไปดำเนินการตามกฎหมายเลย! ฉันไม่หย่า!”

“เพี๊ยะ......!” เมื่อเธอพูดจบ มือที่เย็นชา ก็ตกกระทบลงบนหน้าของเธอ

ตบครั้งนี้ใช้แรงมาก น้ำตาของเธอโดนตบจนกระเด็นเลย

มือตบลงบนใบหน้า แต่กลับทำร้ายถึงจิตใจของเธอ

เธอกุมหน้าที่แสบของเธอเอาไว้ มองดวงตาแดงก่ำของเขา “นาย......นายถึงกับตบฉัน......?”

“นั่นก็เพราะว่าเธอวอน! ชลิตา เธอมันยัยแพศยา! สำหรับยัยแพศยาอย่างเธอ มันต้องตบ!” มาวินต่อว่าอย่างรุนแรง เขาสูญเสียรูปลักษณ์ของสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนในอดีตไปหมดสิ้น

“เธอมันแค่ผู้หญิงถูกๆ จริงๆ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้ชอบเธอลงนะ?” มาวินพูดขึ้นอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว