บนหน้าจอโทรศัพท์ เผยให้เห็นข้อความจากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคยจะปรากฏขึ้น “ ชัชนันท์ ยัยผู้หญิงชั้นต่ำ ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน เธอรีบไปตายซะ”
ชัชนันท์แทบไม่ต้องคิดก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความนี้มา
เรื่องที่ไร้สมองแบบนี้ นอกจากมารีญาที่สมองมีแค่ขี้เลื่อย คนอื่นก็คงไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้หรอก
กชมนอ่านเนื้อหาในข้อความ และใบหน้าก็หม่นลงทันที “นี่ใครกัน? เกินไปหน่อยแล้ว?”
“น่าจะเป็นมารีญาแหละค่ะ น่าจะเพราะว่าเรื่องที่งานเลี้ยง ก็เลยโดนพ่อแม่ดุ เลยมาระบายอารมณ์ที่หนู” ชัชนันท์ยิ้มอย่างขมขื่น
“ผู้หญิงคนนี้จะกำเริบเสิบสานเกินไปหน่อยไหม? นันท์ ครั้งนี้ป้าจะช่วยหนูสั่งสอนเธอเอง” กชมนกล่าวอย่างหนักแน่น
“เรื่องเล็กๆๆ แบบนี้คงไม่ต้องให้ถึงคุณป้าลงมือหรอกค่ะ”ชัชนันท์ตบมือกชมนเบาๆ “วางใจได้เลยค่ะ หนูมีวิธี”
กชมนพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ “งั้นก็ได้”
“สวัสดีครับท่านรอง……”
เกิดความวุ่นวายที่หน้าประตูขึ้นอีกครั้ง และก็เป็นเสียงคนใช้พากันทักทายทีละคน
ชัชนันท์ก็มองตามต้นเสียงไป
ยังไม่ทันมีคนเดินออกมา เธอก็รู้สึกได้ถึงความกดดันแล้ว
ไม่นาน รูปร่างของคนคนหนึ่งที่เธอเคยเห็นในทีวีก็ปรากฏตัวขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นชายวัยกลางคนแล้ว แต่ว่าก็ยังคงดูหยิ่งผยองมาก
ชุดสูทสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาวและเนกไทสีดำ มองแวบแรกก็ดูสง่าและน่าดึงดูด เป็นคนแบบที่เธอไม่ถึง
แม้แต่รอยตีนกาบนใบหน้าของเขาก็ยังดูวิเศษ
เขามองชัชนันท์นิ่งๆ หลังจากนั้นก็มองไปที่กชมนด้วยรอยยิ้ม เขาจับจ้องไปที่กชมนตลอดแล้วเดินเข้ามาหาพวกเธอทั้งสองคน
กชมนรีบดึงให้ชัชนันท์ลุกขึ้นทันที แล้วก็กอดแขนของชัชนันท์ไว้อย่างสนิทสนม “สามี ฉันขอแนะนำให้รู้จัก สาวงามคนนี้คือคนที่ฉันเคยเล่าให้คุณฟังไง ชัชนันท์ คุณหนูใหญ่ของรัตนากรกุลกรุ๊ป”
เขายิ้มให้กับชัชนันท์ แต่ว่าความยิ่งใหญ่บนใบหน้าของเขานั้นยังคงไม่สั่นคลอน “สวัสดีครับนันท์ ผมชื่อธนากร เป็นเกียรติมากที่ได้รู้จักคุณ ยินดีต้อนรับที่มาที่บ้านผมนะครับ คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองก็ได้”
ชัชนันท์ยิ้มตอบ ท่าทางดูสง่าผ่าเผย “สวัสดีค่ะ หนูก็เป็นเกียรติอย่างมากเหมือนกันที่ได้รู้จักคุณ”
“เพื่อนของภรรยาผม ก็เหมือนเพื่อนผมเหมือนกัน ต่อไปถ้าเกิดว่ามีธุระอะไรก็พูดได้เลยนะครับ” ธนากรพูด
“ใช่ๆๆๆ นันท์ ต่อไปถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไร แล้วมีแค่สามีของป้าที่ช่วยได้ก็ไปหาเขาได้เลยนะ”กชมนพูดเสริม
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณลุงคุณป้า”ชัชนันท์พยักหน้าเบาๆ นายหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สุภาพและสง่า
“แล้วไอ้เจ้ากฤษนั่นแหละ? ไม่ใช่ว่าขึ้นไปซ้อมเต้นอีกแล้วใช่ไหม?”พอพูดถึงธนกฤธ สายตาของธนากรก็ดูเมตตาและอ่อนโยนขึ้นเยอะ
“น่าจะใช่นะ ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เมื่อกี้อยู่กับนันท์ตลอดเลย”กชมนตอบตามความจริง
“ซ้อมเต้นเหรอ?กฤษชอบเต้นมากเลยเหรอคะ”ชัชนันท์ถาม
“อืม ความฝันของเด็กคนนั้นตั้งแต่เด็กคือการได้เป็นไอดอล เดิมทีผมหวังว่าเขาจะเดินตามทางเดียวกับผม แต่เขาไม่ต้องการ ก็ไม่มีทางเลือกเพราะว่าผมมีลูกอยู่แค่คนเดียว ก็เลยปล่อยเขาไป……”น้ำเสียงของธนากรดูหมดหนทาง
จากคำพูดช่วงนี้ และสีหน้าแววตา ชนันท์มองออกว่า สามีภรรยาคู่นี้รักและเอ็นดูอยู่คนเดียวอย่างธนกฤธมากแค่ไหน
โดยทั่วไปแล้ว เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่ครอบครัวแบบนี้จะอนุญาตให้ลูกชายเข้าสู่วงการบันเทิง
แต่ว่าพวกเขาไม่เหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นเขามีบริษัทที่ได้เซ็นสัญญาด้วยไหมคะ?” ชัชนันท์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ธนกฤธแค่มองก็รู้ว่าเป็นคนที่มีอนาคตไกล หน้าตาอย่างเขาถ้าเกิดว่าไปเป็นไอดอลล่ะก็ ต้องดังมากแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...