หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 222

มันเป็นข้อความไลน์ของธนกฤธ ที่ถามเธอว่าจะเซ็นสัญญาเมื่อไหร่

ชัชนันท์ก็เลยส่งข้อความเสียงตอบเขาไปทันที พูดถึงหัวข้อโดยตรง “นายจะไม่ถามถึงเนื้อหาในสัญญาอะไรเหรอ?”

ธนกฤธที่อยู่ปลายสายนั้นหัวเราะเบาๆ “ผมเชื่อว่าพี่นันท์จะไม่เอาเปรียบผม”

“ต่อให้เป็นแบบนั้น นายก็ควรจะถามหน่อยไหม ?”ชัชนันท์ยิ้ม ด้วยความชิลๆ ของธนกฤธทำให้เธอรู้สึกชอบมาก

“ไม่ต้องหรอก ที่เตรียมสัญญาเสร็จแล้วก็ติดต่อผมมา พวกเราเจอกันแล้วก็เซ็นสัญญาพอ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”

เมื่อวางสาย เธอก็รู้สึกเป็นปวดที่ท้องด้านล่างขวาของเธอ

แล้วหน้าเธอก็ซีดไปในทันที

แรงในร่างกายเธอก็ลดลงเช่นกันเมื่อความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้น

เธอคว้าทั้งสองข้างของอ่างอาบน้ำไว้อย่างยากลำบาก แล้วพยายามลุกขึ้น พร้อมกับเดินออกมาจากอ่างอาบน้ำ

วินาทีต่อมา ขาของเธอก็อ่อนแรงและล้มลงไปกับพื้น

แล้วเธอก็รีบจับชั้นวางของที่เต็มไปด้วยครีมดูแลผิวทันที

วินาทีต่อมา ชั้นวางของก็ตกลงที่พื้นพร้อมกับตัวเธอ

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นกระจกบนหิ้งแตกเป็นเสี่ยงๆ และเสียงก็ดังจนแสบแก้วหูไปหมด

ของเหลวทุกชนิดหกลงบนพื้น และกลิ่นต่าง ๆ ผสมกัน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะอาเจียน

เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล

ท้องของเธอยังมีอาการปวด แล้วปวดขึ้นเรื่อยๆ ทุกลมหายใจ

เธอรู้สึกว่าเธอต้องมีไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน

และประตูก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว

แทนไทรีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นหญิงสาวเปลือยกายอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดด้วยความเจ็บปวด รูม่านตาของเขาก็สั่นสะท้านทันที

เขารีบวิ่งเข้าไปทันทีและอุ้มเธอขึ้นมา แววตาดูปั่นป่วน “เธอเป็นอะไรไป?”

ชัชนันท์ส่ายหน้า แล้วก็ชี้ไปที่ท้องล่างของตัวเอง อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็พูดไม่ออก

พอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพที่น่าอายขนาดไหน เธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เธออยากจะขอให้เขาใส่เสื้อผ้าให้เธอแต่ก็ไม่มีแรง

ได้แต่ปล่อยให้เขาอุ้มเธอแบบนี้ แล้วก็เห็นเธอแบบนี้

แทนไทไม่ได้ถามอะไรมากมาย เขารีบอุ้มเธอไปที่เตียง แล้วก็กลับไปเอาผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำ พร้อมกับเช็ดคราบสบู่และน้ำออกจากร่างกายของเธอ

การจ้องมองของเขาและการเคลื่อนไหวของมือของเขาทำให้เธอเขินอายอย่างมาก แต่ความเจ็บปวดในร่างกายของเธอทำให้เธอไม่สามารถสนใจอะไรได้มากนัก

พอเห็นความวิตกกังวลในสายตาของเขา ชัชนันท์ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที

หลังจากเช็ดตัวให้เช็ด แทนไทก็รีบเข้าไปในห้องน้ำและหยิบชุดชั้นในของเธอออกมา พร้อมกับสวมสเวตเตอร์สีขาวให้กับเธอ

อาการจุกเสียดบนร่างกายของเธอแย่ลงเรื่อยๆ ดวงตาของเธอเป็นสีดำสนิท และสติของเธอก็ค่อยๆ เลือนรางหายไป……

แต่น่าจะเพราะว่ามีเขาอยู่ที่นี่ด้วย เธอก็เลยไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว

เหมือนกับว่าการมีเขาอยู่ข้างๆ ทำให้เธอไม่ต้องรู้สึกกลัวอะไรทั้งนั้น

เขาอุ้มเธอขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็พุ่งไปข้างล่างทันที แล้วก็ยัดเธอเข้าไปที่เบาะหลังของรถฮอนด้าสีดำ

ในเวลานี้เธอเกือบจะหมดสติ เปลือกตาของเธอหนักมากจนเธอต้องหลับตาเอาไว้

เขาหายใจหอบและมองมาที่เธอ วางมือข้างเธอพร้อมกับโน้มเข้ามาแล้วพูดว่า “นันท์……ทนอีกนิดหนึ่งนะ เดี๋ยวพวกเราก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว”

พอพูดจบ เขาก็รีบออกจากรถและปิดประตูฝั่งเธอทันที และขึ้นไปอีกฝั่งหนึ่ง

พอสตาร์ทรถได้ก็เหยียบคันเร่งจนสุด……

แล้วรถฮอนด้าสีดำก็พุ่งออกไปราวกับลูกธนู

ในขณะที่กำลังควบคุมพวงมาลัย เขาก็คอยมองอาการของเธอผ่านทางกระจกหลัง แล้วก็กังวลมาก

หลังจากรถแล่นออกมาจากคฤหาสน์ เขาก็รีบโทรหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลราษฎรทันที “รีบหาคนมารอรับที่ประตูโรงพยาบาลหน่อย ……”

ไม่อยากพูดอะไรมาก เขาโยนโทรศัพท์ไปที่ที่นั่งผู้โดยสารข้างๆ แล้วมองตรงไปข้างหน้า

พอรถแล่นออกมาจากคฤหาสน์ คนและรถบนท้องถนนก็เยอะมาก

เขาทำได้เพียงทำให้รถช้าลงเล็กน้อย แล้วแซงรถคันหน้าไปทีละคัน

ระหว่างทาง ไม่รู้ว่าเขาแซงรถไปทั้งหมดกี่คัน แล้วสุดท้ายก็มาถึงโรงพยาบาลราษฎร

ตอนนี้เอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็นำแพทย์กลุ่มใหญ่มารออยู่ที่หน้าโรงพยาบาล

แทนไทจอดรถตรงหน้าของพวกเขาทันที หลังจากนั้นก็รีบลงรถและอุ้มชัชนันท์ลงมา วางไว้บนรถเข็นเปลหามข้างๆ กับที่พวกนั้นยืนอยู่

ชัชนันท์ไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว ตอนนี้เธออยู่ในภาวะสลบไสล

“คุณชายห้า นี่มันเรื่องอะไรกันครับ?”ผู้อำนวยการโรงพยาบาลถาม

“เธอน่าจะปวดท้อง”แทนไทมองเธอแล้วต่อ

ผู้อำนวยการไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่เข็นชัชนันท์เข้าไปในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วพร้อมกับคนอื่น

แทนไทติดตามอยู่ด้านหลัง

และชัชนันท์ก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว

วินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปรึกษาหารือกับแทนไทอยู่ครู่หนึ่ง และก็ตัดสินใจว่าจะให้ชัชนันท์เข้ารับการผ่าตัด

…………

ตอนที่ชัชนันท์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งนั้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องผู้ป่วย

ตอนนี้ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดกำลังนั่งมองเธออย่างตั้งใจอยู่ข้างเตียง

นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนล้าที่ไม่สามารถปกปิดได้

“เธอฟื้นแล้ว” เขาพูด

เธอรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยตรงช่องท้องด้านล่าง ก็เลยถามว่า “ห้า ฉันเป็นอะไรไป? ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันหรือเปล่า”

หลังมือของเธอเย็นเฉียบ เธอเหลือบมองที่หลังมือโดยไม่รู้ตัว และพบว่าเธอกำลังถูกให้น้ำเกลืออยู่

“อืม”เขาตอบ “หมอบอกว่าจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ดังนั้นผมก็เลยให้เขาผ่าตัดให้คุณเรียบร้อยแล้ว”

“อ้อ” เธอพยักหน้า แล้วก็เหลือบมองนาฬิกาที่ผนังฝั่งตรงข้าม

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว

ดูท่าทางเขาจะยุ่งวุ่นวายกับเธอมาสักพัก

พอย้อนกลับไปนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนอยู่ในห้องน้ำ ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาอีกครั้ง

ตอนนั้นเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย แล้วเขาก็พุ่งเข้ามา แถมยังช่วยเช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้เธอเอง

และทันใดนั้น เธอรู้สึกราวกับว่าส่วนลึกของหัวใจของเธอถูกกระแสไฟฟ้าที่พัดแรง ความรู้สึกที่ไร้เรี่ยวแรง เหมือนกับว่ามันจะหยุดไปในวินาทีต่อไป

เขาทั้งๆที่รู้ รู้อยู่แก่ใจยังทำเป็นไม่รู้ มุมปากยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “ทำไมหน้าถึงได้แรงขนาดนั้นล่ะ?”

ชัชนันท์รู้สึกหัวใจเธอตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง “ไม่มีอะไร……ขอบคุณมากนะ……แล้วอีกอย่าง ห้า สิ่งที่คุณเห็นในห้องน้ำวันนี้ทั้งหมดก็ลืมมันไปซะนะ”

“อ้อ” เขาตอบด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำและยิ้มกว้างอีกครั้ง

“ขอบคุณนะ” ชัชนันท์มองหน้าเขาอย่างจริงใจ แล้วก็พูดโดยที่พยายามกดความ เขินอายของตัวเองเอาไว้

วันนี้ ต้องขอบคุณเขามากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คิดว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเธอหมดสติไปในห้องน้ำ

เมื่อถึงตอนนั้นก็แทบไม่อยากจะนึกถึงผลที่ตามมาเลย

“ไม่ต้องหรอก” เขาพูด

“แล้วฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่?”ชัชนันท์ถาม

“คุณหมอให้การสังเกตอาการที่โรงพยาบาลเป็นเวลาสามวัน ถ้าเกิดว่าไม่มีปัญหาอะไรก็กลับบ้านได้” ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอดทน “ถึงแม้ว่าแผลจะไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่จะสะเพร่าไม่ได้เด็ดขาด วันนี้คุณห้ามลงจากเตียง……ส่วนพรุ่งนี้ คุณสามารถลงจากเตียงและเดินไปรอบๆ ได้ แต่ต้องระมัดระวังนะ”

“หมอยังบอกอีกว่า หลังผ่าตัดแล้ว คุณต้องพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อนจึงจะสามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ "แทนไทพูดอีกครั้ง

“อ้อ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวเรียกคนมาดูแลแล้วกัน……”ชัชนันท์ถอนหายใจยาวและพูดออกมา

เขามีแฟนแล้ว ถ้าเกิดว่ามาคอยดูแลเธอแบบนี้ คงจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่

“ไม่ต้องหรอก สองวันนี้ผมว่างพอดี” เขาตอบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว