หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 224

“ไม่มีอะไรจริงๆ เหรอ?แล้วทำไมฉันถึงได้รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรผิดปกติไป? เมื่อก่อนเวลาที่เธอได้รับบาดเจ็บ เธอไม่เคยบอกว่าต้องการพยาบาลเลยนะ?”นลินไล่ถาม

หลังจากนั้นเธอก็นั่งลงที่เตียง แล้วก็ยื่นแขนออกไปโอบไหล่ของเธอ

“เธอก็พูดเอง ว่ามันคือเมื่อก่อน ตอนนี้เขามีแฟนแล้ว สถานการณ์ได้เหมือนกัน ถ้าเกิดว่าแฟนของเขารู้เขาคงจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่นะ”

เขาพูดจบ ชัชนันท์ก็ยิ้มอย่างข่มขืน สีหน้าเต็มไปด้วยความเดียวดาย

เมื่อพูดถึงหัวข้อนี้ หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว และเธอก็รู้สึกเหมือนว่าหายใจลำบาก

นลินสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของเธอ และแววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “นันท์…… หรือว่าเธอชอบคุณห้าเข้าให้แล้ว?”

ชัชนันท์ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นอีกครั้ง เธอไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร

มีเพียงแค่นลินที่รู้ว่า การเงียบก็เท่ากับยอมรับ

เธอรีบจับตัวชัชนันท์หันมาอย่างจริงจัง และมือสองข้างก็บีบไหล่ของเธอแน่น พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “นันท์ เธอไม่ได้บอกว่าเธอจะระวังไม่ให้ตัวเองตกหลุมรักเขาไม่ใช่เหรอ?”

“ระหว่างพวกเธอสองคนนั้นแตกต่างกันมาก เธอไม่ควรจะคบกับคนที่อยู่ในสถานะนี้ ให้เขาเป็นสามีชั่วคราวก็พอแล้ว จะให้เขาเป็นสามีจริงๆ ไม่ได้เด็ดขาด”นลินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“เรื่องแบบนี้ทุกคนก็รู้อยู่แล้วแหละ แต่ว่านลิน บางทีคนเราก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกของตัวเองได้หรอกนะ” ชัชนันท์ถอนหายใจยาวอย่างไม่มีทางเลือก

“ที่เธอพูดก็ถูก แต่ว่านันท์ พวกเธอทั้งสองคนไม่เหมาะสมกันจริงๆ ตัวตนของเขาไม่เหมาะสมกับเธอ”นลินพูดอย่างจริงจัง

ชัชนันท์ถอนหายใจยาวออกมาอีกครั้ง “มาพูดตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะถึงยังไงตอนนี้เขาก็มีแฟนแล้ว ระวังพวกเรามันเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ฉันจะรู้ตัวว่าชอบเขา ฉันก็ไม่มีทางพูดอะไรหรือว่าทำอะไรเด็ดขาด”

นลินขมวดคิ้วเข้าหากัน “โชคดีที่เขามีแฟนแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ ใครจะไปรู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งสองคนจะพัฒนาการไปถึงขั้นไหน”

ชัชนันท์ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เงียบอย่างเดียว

นลินกุมมือของชัชนันท์เอาไว้ แล้วก็เอามืออีกข้างหนึ่งลูบหัวเธอเบาๆ “ในเมื่อเขามีแฟนแล้ว เธอก็ตัดใจเถอะ เก็บความรู้สึกที่ไม่ควรจะมอบให้เขากลับมาให้หมด”

“ฉันจะพยายาม” ชัชนันท์ขมวดคิ้ว

นลินไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่ดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน “ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอคงทุกข์ใจมาก……ให้เวลาเป็นตัวจัดการทุกอย่างแล้วกัน รอให้เวลาผ่านไปนานๆ เธอก็จะยิ่งรู้สึกน้อยลงเรื่อยๆ แล้วก็โอเคแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้นถูกไหม?”

ชัชนันท์พยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

นลินก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน ได้แต่ลูบผมเธอเบาๆ พยายามปลอบประโลมความรู้สึกของเธอ

เธอรู้ดีว่า ชัชนันท์เป็นผู้หญิงที่ฉลาด เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องให้เธอพูดอะไร ชัชนันท์ก็สามารถจัดการเองได้ดีอยู่แล้ว

“ก๊อกๆๆๆ……”เสียงเคาะประตูดังรบกวนความคิดของทั้งสองคน

ชัชนันท์ดันนลินออกแล้วพูดว่า “ธนกฤธน่าจะมาแล้ว”

พอพูดจบเธอก็พูดกับคนหน้าประตูว่า “เข้ามาค่ะ”

ไม่นานประตูก็เปิดออก

ธนกฤธเดินเข้ามาพร้อมกับช่อคาร์เนชั่นสีแดงในอ้อมแขนของเขา แต่ว่าคนกลับดูอ่อนโยนกว่าดอกไม้ซะอีก

เขามองนลิน แล้วก็พยักหน้าให้เธออย่างมีมารยาท หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปหาชัชนันท์ “พี่นันท์……ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง?”

พอเห็นใบหน้าของเขา สายตาของนลินก็เต็มไปด้วยความชื่นชม รู้สึกทึ่งกับธนกฤธคนนี้

“ดีขึ้นเยอะแล้ว” ชัชนันท์ยิ้มอย่างอ่อนโยนและสนิทสนม

ธนกฤธยิ้ม เผยให้เห็นลักยิ้มที่ละเอียดอ่อน “ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว อันนี้ผมซื้อมาระหว่างทาง หวังว่าพี่จะชอบ ……”

“ขอบคุณนะ สวยมากเลย ฉันชอบมาก” ชัชนันท์มองดูช่อดอกคาร์เนชั่นสีแดงนี้แล้วก็รู้สึกชอบมาก

ไม่มีผู้หญิงคนใดสามารถต้านทานเสน่ห์ของดอกไม้ได้ แม้แต่เธอก็ไม่มีข้อยกเว้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” ธนกฤธวางดอกไม้ไว้บนโต๊ะข้างเตียงด้วยความพึงพอใจ

“กฤษ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือประธานของXเอนเตอร์เทนเมนท์ นลิน พวกดาราดังๆ ที่มาจากXเอนเตอร์เทนเมนท์ ก็เป็นฝีมือของเธอทั้งนั้นที่ปั้นมา”ชัชนันท์มองนลินพร้อมกับแนะนำ “เธอโตกว่านาย เรียกว่าพี่นลินก็ได้”

ธนกฤธได้ยินดังนั้นก็รีบยื่นมือออกไปจับมือกับนลินทันที “สวัสดีครับพี่นลิน ผมชื่อธนกฤธ พี่จะเรียกผมว่ากฤษเหมือนกับพี่นันท์ก็ได้ครับ”

นลินลุกขึ้นยิ้มอย่างมีมารยาท แล้วก็จับมือกับธนกฤธ “สวัสดีค่ะกฤษ”

พอพูดจบเธอก็ปล่อยมือธนกฤธ

ในการพบกันครั้งแรก เธอประทับใจลูกชายคนเดียวของรองประธานาธิบดีเป็นอย่างมาก

เขาเข้าถึงได้ง่ายมาก และในตัวเขา เธอไม่เห็นความเย่อหยิ่งของลูกหลานผู้สูงศักดิ์อยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

“กฤษ สัญญาของนาย ฉันได้ร่างมาเรียบร้อยแล้วนะ วางไว้ในรถ ถ้าเกิดว่านายสะดวกก็รอแป๊บนึงเดี๋ยวฉันจะไปหยิบสัญญามา แล้วพวกเราจะได้อ่านพร้อมกัน” นลินมองธนกฤธพร้อมกับพูด

ธนกฤธดีดนิ้วอย่างสบายใจ “ได้เลยครับ ถ้างั้นพี่ไปเอาเถอะครับ ผมสะดวกมาก”

หลังจากนั้น เขาก็เดินไปที่ข้างเตียงของชัชนันท์พร้อมกับพูดว่า “เดี๋ยวผมจะอยู่เป็นเพื่อนพี่นันท์เอง ไม่ต้องห่วงเลยครับ”

นลินยิ้มแล้วก็เดินลงไปข้างล่าง

“พี่นันท์……เจ็บแผลบ้างไหมครับ?” ธนกฤธถามด้วยความเป็นห่วง

ชัชนันท์ส่ายหน้า “ไม่ถือว่าเจ็บมาก……ได้อยู่มั้ง”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วครับ สำหรับเรื่องผ่าตัดของพี่ผมคุยกับแม่แล้วนะ แม่บอกว่าเดี๋ยวตอนบ่ายจะมาเยี่ยม ตอนนี้เธอต้องไปร่วมงานที่สำคัญมากๆ กับพ่ออยู่” ธนกฤธตอบ

พอได้ยินดังนั้น ชัชนันท์ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันที “ความจริงไม่ต้องมาเยี่ยมก็ได้นะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย”

“ต่อให้พี่ไม่เป็นอะไรแม่ผมก็ต้องมาอยู่แล้ว พี่ไม่รู้เหรอว่าเธอชอบพี่แค่ไหน แล้วพี่ก็ไม่รู้หรอกว่าตอนที่แม่รู้ว่าพี่ผ่าตัดแม่เป็นห่วงพี่ขนาดไหน ผมโตมาขนาดนี้แล้ว นอกจากผมกับพ่อที่ป่วย ก็ไม่เคยเห็นแม่พูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นมาก่อนเลย”ธนกฤธพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

พอได้ยินแบบนี้ ชัชนันท์ก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก และความอบอุ่นก็แพร่กระจายไปทั่วหัวใจของเธอ

…………

อีกด้านหนึ่งในเวลาเดียวกัน ที่ห้องทำงานประธานของ เซ็นเทอรี่ลองกรุ๊ป

แทนไทถือปากกาทองรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น หลังจากลงนามในเอกสารทั้งสองฉบับอย่างห้าวหาญ เขาหยิบเอกสารทั้งสองฉบับและส่งให้เกริกซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา

เกริกรับเอกสารทั้งสองมือด้วยความเคารพ และหันหลังเดินออกไป

“เกริก……”แทนไทมองแผ่นหลังของเขา และเรียกอย่างราบเรียบๆ

เกริกหันมามองสีหน้าที่เย็นชาของเขา “คุณชายห้า มีเรื่องอะไรจะสั่งเพิ่มหรือเปล่าครับ?”

แทนไทปิดฝาปากกาช้าๆ และวางลง

หลังจากนั้นก็วางมือลงบนโต๊ะไม้จันทน์สีแดง มือทั้งสองข้างไขว้กัน และพูดกับเกริกด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า “ผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าเกิดว่าจู่ๆ ดูท่าทางของเธอที่มีต่อนายเปลี่ยนไป……มันเป็นเพราะอะไรกัน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว