“ไม่กลับแล้วครับ อีกสักระยะเวลาหนึ่งก็จะเปิดโรงพยาบาลเลย” แทนไทพูดต่อ
ชัชนันท์ได้ฟังก็ใจหล่นวูบ
เธอเตรียมการรายละเอียดทุกอย่างกับแทนไว้แล้ว แต่ลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างเดียว
ตอนนี้เขาบอกกับคุณพ่อ ว่าอีกสักระยะเวลาหนึ่งก็จะเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนแล้ว แถมยังไม่กลับแล้วด้วย งั้นก็หมายความว่า นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในสายตาของคุณพ่อ
และต้องเจอหน้ากันบ่อยขึ้น เพื่อมารับหน้าคุณพ่อ
เรื่องนี้ยังดี แต่ที่สำคัญกว่าคือเรื่องโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน……
เธอเคยบอกว่าแทนกลับประเทศจีนเพื่อมาเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน ถ้าอยู่ในประเทศนานแล้วยังไม่เปิดอีก คุณพ่อคงต้องสงสัยแน่นอน
แทนเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง แต่ทำไมกลับทำเรื่องผิดพลาดในเวลาแบบนี้ได้นะ? ต่อให้เธอไม่ได้เตรียมเรื่องนี้ไว้ก่อน เขาก็ควรพูดว่า ไม่นานเขาก็จะกลับประเทศYแล้ว และพักเรื่องการเปิดโรงพยาบาลไว้ก่อน
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะตัดปัญหาได้มากมาย และพวกเธอต้องกลับมาเแก้วันเฉพาะเทศกาลสำคัญเพื่อรับหน้าคุณพ่อเท่านั้น
แต่ในเมื่อเขาบอกไปแบบนั้นแล้ว เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ทำได้แค่ช่วยพูดตามน้ำไปก่อน
เธอต้องพยายามทำท่าทางใจเย็น พลางยิ้มและพูดกับเขาว่า “คุณสามีคะ อันที่จริงฉันว่าเรื่องโรงพยาบาลไว้ก่อนก็ได้นะคะ ก่อนเปิดโรงพยาบาล ฉันว่าคุณควรไปทำงานที่โรงพยาบาลอื่นดูก่อนสักระยะ จะได้สั่งสมประสบการณ์ พร้อมกับการเรียนรู้การบริหารโรงพยาบาลไปในตัวด้วย”
แทนไทยิ้มพลางพยักหน้า “อืม ที่คุณพูดก็มีเหตุผล”
วันชัยเห็นว่าลูกเขยช่างเชื่อฟังนัก เขาจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจอีกครั้ง “แทน ที่นันท์พูดก็มีเหตุผล แต่ถ้าอยากจะรีบเปิดจริง ๆ ก็ใช่ว่าจะได้ หากกลัวประสบการณ์ไม่พอ ไปเชิญคนที่พอมีประสบการณ์มารับตำแหน่งรองท่านประธานก่อนก็ได้นี่”
“คุณพ่อครับ เอาอย่างที่ภรรยาผมว่าดีกว่า คำพูดของเธอถือเป็นอันสิ้นสุด” แทนไทกล่าว
วันชัยพยักหน้าอย่างพึงพอใจอีกรอบ “อืม ความเข้าใจนายหัวไวไม่เบาเลยนะ ใช้ได้ๆ”
พอพูดจบ วันชัยก็หัวเราะอย่างมีความสุขออกมาทันที
พอหทัยลงมาก็เห็นภาพที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างเบิกบานใจ จึงเกิดความอิจฉาที่พูดไม่ออกขึ้นในใจ
ตอนนี้เธอรู้สึกว่า เหมือนตัวเองเป็นคนนอก
ทั้ง ๆ ที่เธอก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านหลังนี้ แต่ทุกเรื่องในบ้าน เธอกลับไม่มีส่วนร่วมอะไรเลย
เธอมองรอยยิ้มอันได้ใจของชัชนันท์ หทัยก็ยิ่งริษยาจนแทบทนไม่ไหว
มันจะเก่งกาจแค่ไหนเชียว? ก็แค่ได้ผู้ชายที่รู้จักการใช้วิชาแพทย์แผนจีนเท่านั้น แถมไม่ใช่ผู้ดีตระกูลสูงส่งอะไรสักหน่อย จะดีใจอะไรหนักหนา?
เขาคนนี้แค่ดูดีกว่ามาวินนิดหน่อย และมีออร่ากว่ามาวินเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีอะไรดีกว่ามาวินอีกเหรอ? ไม่มีแล้ว!
เหลือบไปเห็นว่าหทัยลงมาแล้ว วันชัยจึงมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที และไม่คิดจะสนใจเธอเลย
ช่วงหลังมานี้ ตัวเขาเองก็ปลงแล้ว เขาค่อย ๆ เดินออกมาจากความเจ็บปวด
และจัดการกับความรู้สึกที่มีต่อหทัยได้แล้วด้วย
ตอนนี้ เขาหวังแค่ว่าทั้งคู่จะจบกันด้วยดี บางที การยืดเยื้อก็จะมีแต่ยิ่งทำให้ต้องเจ็บปวด
“คุณสามีคะ นันท์ มีแขกมาที่บ้าน ทำไมไม่เรียกฉันล่ะคะ?” หทัยพยายามฝืนยิ้มออกมา และเดินเข้าไปในวงสนทนา
ก่อนนั่งลงบนที่พักแขนของเก้าอี้ที่วันชัยนั่งอยู่
ต่อให้ในใจจะไม่ชอบชัชนันท์กับแทนไทแค่ไหน แต่ตอนนี้เธอต้องเก็บซ่อนมันไว้ก่อน
เธอจำเป็นต้องเสแสร้ง ไม่แน่ว่าอาจยังมีโอกาส ถ้าเธอยอมแพ้เรื่องการรักษา งั้นเธอคงได้ไปเผาตัวเองที่เมรุเท่านั้น
ชัชนันท์ยิ้มอย่างรักษาน้ำใจ “นึกว่าคุณพักผ่อนอยู่ จึงไม่อยากไปรบกวนน่ะค่ะ”
“เพราะว่าเธอไม่มีความจำเป็นต้องปรากฏตัวที่นี่” วันชัยกลับพูดตรง ๆ
ประโยคเดียวทำเอาหทัยเจ็บจี๊ด
แต่หทัยกลับยังทำหน้ายิ้ม “คุณคะ พูดอะไรของคุณคะเนี่ย? ลูกเขยใหญ่ของเรามาทั้งที ในฐานะแม่ของนันท์ จะไม่ให้ฉันมาได้ยังไงล่ะ?”
ชัชนันท์ไม่พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มและมองหทัย เธอพยายามรักษามารยาทและสำรวมท่าที แต่ในใจนั้นกลับสบถออกมาแล้ว……
การกระทำของหทัยทำให้เธอเข้าใจความหมายของประโยคที่ว่า “คนหน้าด้านมักกอบโกยได้มาก”
หน้าของเธอคงหนาเท่ากำแพงเมืองเลยมั้ง?
นี่มันเป็นคนไม่เอาหน้า
“คุณป้า แม่ของฉันจากไปนานแล้วค่ะ” ชัชนันท์พูด
“ฉันเป็นแม่เลี้ยงของเธอ แต่ก็ถือว่าเป็นแม่นะจ๊ะ” หทัยตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...