ลู่เยี่ยนซู ลู่หยวนเซียว และลู่เจิ้งเย่ว์สามพี่น้องเป็นคนค้ำยันในราชสำนัก และยังคงอยู่ในราชสำนัก
“รีบไปจัดโต๊ะอาหารฉลอง เตรียมของที่ซ่านซ่านและเจาเจามาให้หมด คืนนี้ข้าจะดื่มฉลองสักสองจอก......” หรงเช่อมีความสุขใบหน้าผ่อนคลาย รออีกเดี๋ยวไปแจ้งข่าวดีให้ท่านผู้เฒ่า
รอตอนซ่านซ่านเลิกเรียน ทุกคนรออยู่นานก็ไม่มา สวี่สืออวิ๋นถึงโบกมือ “พวกท่านกินกันก่อนเถอะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ซ่านซ่านมีองครักษ์อยู่ด้วย”
ในเวลาเดียวกันก็ให้เด็กรับใช้ออกไปตาม เพิ่งออกประตูก็จบที่หน้าประตูพอดี
“ทำไมถึงเพิ่งกลับมาขอรับ? ฮูหยินกำลังเป็นห่วงอยู่เลยขอรับ”
เด็กรับใช้ที่เพิ่งมาใหม่ทำหน้าทุกข์ ม่ายเฟิงตอบทันทีว่า “ไม่โทษพวกเขา พวกเขาขวางซ่านซ่านได้ที่ไหน ซ่านซ่านเพิ่งเข้าเรียนวันนี้และได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้อง เพื่อนร่วมชั้นทุกคนเลี้ยงอาหารเขา”
ตอนที่เด็กน้อยลงจากรถม้า เดินท้องโตมา นี่.....
มีลักษณะขุนนางหลายส่วน
ยังเป็นประเภทผู้เจนโลกที่อยู่ในวงการขุนนาง
ใบหน้าน้อยแดงระเรื่อย เติงจือร้อนใจกระทืบเท้า “ดื่มเหล้าด้วยหรือ? เขาเพิ่งสองขวบครึ่ง!!”
ม่ายเฟิงทั้งอารมณ์ดีและตลก “ไม่ได้ดื่ม มีข้าอยู่ จะให้เขาดื่มสุราได้อย่างไร”
“เพื่อนร่วมชั้นใช้นมแทนเหล้า คารวะเขาคนละแก้ว หมดไปสองกา” เข้าห้องน้ำอยู่หลายครั้ง
เติงจือแทบจะหัวเราะออกเสียง ไม่ใช่ อายุน้อยๆเรียนรู้ทักษะได้ไม่น้อยจริงๆ
แต่เมื่อนึกถึง กลุ่มคนเหล่านั้นเป็นลูกตระกูลขุนนาง เจอกันตั้งแต่เด็ก รู้กระบวนการในวงการขุนนางบ้างก็เป็นเรื่องปกติ
“รีบไปพบฮูหยินเถอะ ฮูหยินคงรอจนร้อนใจแล้ว”
ซ่านซ่านนี่ถึงเข้าประตูไป
ข้างหลังยังแบกกระเป๋าหนังสือนูนๆ สวี่สืออวิ๋นเปิดออกดู “ในกระเป๋าหนังสือของเจ้า ทำไมมีของทานเล่นเยอะแบบนี้.....” ผลไม้ชนิดต่าง ๆ และของทานเล่นเต็มกระเป๋า
ซ่านซ่านหาวออกมาหนึ่งครั้ง ใบหน้าผ่อนคลาย ดูท่าวันนี้ผ่านมาอย่างมีความสุขมาก
“ใครให้บ้างข้าไม่รู้ แต่ใครไม่ให้ ข้าจำได้ดี”
สวี่สืออวิ๋น ???
เห็นซ่านซ่านโบกมือ “ท่านแม่ ข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อนแล้ว ในเมื่อเพื่อนร่วมชั้นเลือกข้าเป็นหัวหน้าห้อง ข้าก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด!”
“ซ่านซ่านจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด!”
สวี่สืออวิ๋นรีบถามว่า “เจ้ากินอะไรมาหรือยัง?”
ได้ยินซ่านซ่านตอบอยู่ไกลๆ “พลเมืองยังไม่กิน ซ่านซ่านก็ไม่กิน”
ลู่เจาเจาฟังแล้วสมองเกิดเสียงวิ้ง ๆ
“เขาป่วยหรือเปล่า?”
“เสียสติไปแล้วหรือ?” ศักดิ์ศรีขุนนางของเด็กคนนี้ หนักกว่าทุกคนในบ้านอีก!
หรงเช่อมองหน้าสบตากับสวี่สืออวิ๋น
“เพิ่งเป็นหัวหน้าห้องวันแรก ก็ดื่มเหล้าที่เพื่อนร่วมชั้นเลี้ยง รับของทานเล่นที่เพื่อนร่วมชั้นให้แล้ว???” ลู่เจาเจาลูบคาง ทำไมตอนนั้นข้าถึงคิดไม่ได้??
ขณะนี้ เหมือนแสงสว่างปกคลุมบนท้องฟ้าของโลกมนุษย์กำลังสั่น
ลู่เจาเจาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ หน้าผากมีเหงื่อซึมเม็ดใหญ่
นั่งอย่างอ่อนแรงบนเตียง ยกมือกุมหัวใจด้านซ้าย ว่างเปล่านิ่งไม่เต้น
หัวใจของนาง ผสานแบบสมบูรณ์กับโลกมนุษย์ทั้งใบแล้ว
ไม่รู้ว่ากระบี่เจาหยางปรากฏออกมาตั้งแต่เมื่อไร ขณะนี้กำลังตรงอยู่ตรงหน้านาง นางยกมือจับ “พวกเราขึ้นไปดูกัน......”
ตอนที่เต๋าสวรรค์ปรากฏ นางรู้สึกว่าอีกฝ่ายลมหายใจไม่มั่นคงเสมอ
ครั้งก่อนที่ปรากฏความไม่มั่นคง ยังเป็นตอนที่ถูกผลกระทบของพลังพิษ ตอนที่เต๋าสวรรค์ใกล้จะพังทลาย
ลู่เจาเจาเปลี่ยนเป็นลำแสงหนึ่งหายจากในห้องไป
เด็กน้อยทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ยืนอยู่กลางอากาศธาตุที่ว่างเปล่า ในอากาศธาตุที่อัดแน่นเหมือนมีสัตว์ขนาดใหญ่ซ่อนอยู่นับไม่ถ้วน กำลังรอโอกาสเคลื่อนไหว
ลู่เจาเจาในตอนนี้ พอจะมีความองอาจในตอนนั้นอยู่บ้าง
นางคุ้นเคยกับที่แห่งนี้มาก
หลังจากที่สังเวย เต๋าสวรรค์รวบรวมนาง นางจึงพักฟื้นอยู่ที่นี่หลายปี
นางมองหาไปทั่ว แต่ไม่เห็นเงาของเต๋าสวรรค์
ลู่เจาเจารู้สึกหงุดหงิดนิดๆ เกาหน้าม้า ข้างหูได้ยินเสียงไก่ขัน ท้องฟ้ากำลังจะสว่างถึงกลับไปที่โลกมนุษย์
ตอนตื่นมา ซ่านซ่านกำลังยกถ้วย ยังไม่ทันได้กินข้าว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ให้อ่านนะคะ...
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...