เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1303

“แม้ว่าฮ่องเต้เฟิงตูจะสนิทสนมกับเทพกระบี่เจาหยาง แต่จะให้ต่อต้านแดนเทพอย่างเปิดเผยก็ไม่ได้เช่นกัน”

“วิญญาณของผู้ตายในโลกมนุษย์ หลังจากข้ามสะพานไน่เหอ ดื่มน้ำแกงยายเมิ่งและมองเห็นศิลาวั่งเซียง จากนั้นถูกตัดสินให้กลับชาติไปเกิดใหม่อีกครั้ง ถึงเพลานั้น นางก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป”

“หากเจ้ารู้ว่านางกลับชาติไปเกิดที่ใด และเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของนาง มันคงไม่ดีกับนางอย่างแน่นอน”

“ปล่อยวางเถิด”

จู๋มั่วเคาะโต๊ะดด้วยปลายนิ้วเบาๆ พร้อมมองวิญญาณเร่ร่อนที่ผ่านไปมาอย่างระวัง

อาอู๋ของเขาอยู่ให้หมู่วิญญาณเหล่านี้ด้วยหรือไม่

“ข้าจู๋มั่วเกิดมาไม่เคยขอร้องผู้ใด ข้าหวังว่าผู้พิพากษาโปรดเห็นใจสักหน่อย ไม่ว่าจะกลับชาติไปเกิดที่ใด ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งอีกเลย”

“ข้าแค่เพียงอยากพบนาง มองนางจากที่ไกลๆ ไม่เข้าไปรบกวน” น้ำเสียงของจู๋มั่วฟังดูจริงใจ ไร้ความดื้อรั้นเช่นเมื่อก่อน

ผู้พิพากษาเหลือบมองเขาพร้อมกับถอนหายใจ

ผู้พิพากษาเคยเข้าร่วมงานเลี้ยง 2 ครั้ง

นับเป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้เฟิงตูได้รับเทียบเชิญพิธีวิวาห์ของเขากับเผ่าหงส์ ทว่าฮ่องเต้เฟิงตูไม่มีเวลาว่าง จึงส่งผู้พิพากษาไปร่วมงานแทน

ด้วยความคำเชิญอันอบอุ่นของเผ่ามังกร เขาตั้งใจเพลิดเพลินไปกับสุรามงคลที่นั่น

เพราะมังกรและหงส์ต่างเป็นสัญลักษณ์มงคลมาแต่สมัยโบราณ

ใครจะรู้ว่าภาพที่ได้เห็นคือรัชทายาทเผ่ามังกรทอดทิ้งคู่หมั้น ปล่อยให้คู่หมั้นถูกสามดินแดนหัวเราะเยาะเย้ย

เรื่องใหญ่แบบนี้เพิ่งจบไปไม่นาน

เขาก็ได้ยินมาอีกว่ารัชทายาทเผ่ามังกรกบฏต่อแดนเทพ เพื่อไม่ให้เผ่าหงส์เดือดร้อนไปด้วย ราชามังกรจึงยกเลิกการหมั้นหมายแทนบุตรชายไป

และยังต้องทำตามข้อกำหนดเช่นเดียวกับพิธีวิวาห์นั่นคือการเชิญทั้งสามดินแดน

แม้แต่ฮ่องเต้เฟิงตูที่บำเพ็ญเพียรยังต้องหาเวลาว่างออกมาดู

ผู้พิพากษาพลันโบกมือทันที “ตามข้ามา ข้าจะตรวจบัญชีการเกิดการตาย โปรดบอกชาตาแปดอักษรมา ไม่รู้ว่าได้กลับชาติไปเดินหรือไม่”

จู๋มั่วกล่าวขอบคุณผู้พิพากษาอย่างดีใจ ก่อนจะบอกชาตาแปดอักษร

ผู้พิพากษาพลิกบัญชีการเกิดการตาย ด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ไม่ ไม่พบชื่อของนางในบัญชีการเกิดการตาย”

“นางตายแล้วจริงๆ หรือ”

“แต่ข้าเห็นด้วยตาตัวเอง ว่านางตายไปพร้อมกับลูกในท้อง” จู๋มั่วไม่กล้านึกถึงอดีต เพราะแค่คิดถึงมันก็หายใจไม่ออกแล้ว

ผู้พิพากษามองไปที่บัญชีการเกิดการตายพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่ ชื่อของนางไม่อยู่ในบัญชีการเกิดการตาย และไม่เคยมาที่ยมโลก”

จู๋มั่วรีบลุกขึ้นด้วยดวงตาลุกเป็นไฟ ก่อนเอ่ยถามด้วยเสียงหนักอึ้ง “อะไรนะ... นี่หมายความว่าอย่างไร”

ผู้พิพากษาโบกมือ “ไม่ต้องร้อนใจไป คุณไม่ต้องกังวล ชื่อของมนุษย์ทุกคนบนโลกจะปรากฏในบัญชีการเกิดการตาย เมื่อใดที่กลับชาติไปเกิดก็จะมีบันทึกไว้”

“มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่เกิดขึ้น…”

“อีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ บางทีอีกฝ่ายอาจเป็นเทพเจ้าองค์ไหนลงมาเผชิญด่านเคราะห์…”

“บางทีนางอาจเป็นนางฟ้าที่ลงมาเผชิญด่านเคราะห์ของแดนเทพ”

“นางอาจจะผ่านด่านเคราะห์สำเร็จ กลับสู่สรวงสวรรค์ บางทีอาจ...”

“ไม่ ต้องสำเร็จสิ อาอู๋ต้องสำเร็จแน่นอน... ข้าจะตามหานางให้เจอ”

เซี่ยอวี้โจวแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตกใจแทบแย่ คิดว่าเขาเจอเบาะแสอะไรเสียอีก

“เจ้าตามหานางไปทำไมกัน หากนางเผชิญด่านเคราะห์ล้มเหลวล่ะ”

“หากนางยังมีชีวิตอยู่ นางจะต้องทรมานกับสิ่งที่เจอ สองชีวิตในหนึ่งศพ ก่อนตายนางได้แยกทางกับเจ้าแล้ว การที่เจ้าตามหานางเช่นนี้ ไม่เท่ากับการสร้างปัญหาให้นางหรือ”

“สิ่งที่เจ้าทำร้ายนางจะไม่มีวันลดน้อยลง”

“สิ่งเดียวที่สามารถบรรเทาได้คือความรู้สึกผิดในใจของเจ้า อย่างน้อยก็ยังเหลือชีวิตหนึ่งสินะ” เซี่ยอวี้โจวต่อว่าเขาอย่างไร้ความปรานี

จู๋มั่วได้แต่ทำหน้าซีดเซียว...

“เจ้าคงไม่ได้หวังว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกันหรอกนะ”

น้ำตาของจู๋มั่วพลันร่วงหล่นทีละหยด ทำให้เสื้อผ้าของเขาเริ่มเปียกชื้น

“ข้าเสียใจมาก…ข้าอยากบอกนางเหลือเกินว่าข้าตกหลุมรักนางแล้วจริงๆ”

“นางแตกต่างจากองค์หญิงใต้กับภูตดอกไม้”

“ข้าเสียใจ ข้าไม่ควรเลือกเจ้าแห่งมังกรแล้วละเลยความเจ็บปวดของนาง ข้าเองที่ทำให้นางต้องเสี่ยงตายครั้งแล้วครั้งเล่า” ทั้งๆ ที่รู้สึกไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าอาการของนางแย่ลงเรื่อยๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์