ในบ้านยังมีคุณชายน้อยที่ขาวน่ารักคนหนึ่ง ดูลักษณะอายุห้าปี หกปี เหมือนมาหาซ่านซ่านโดยเฉพาะ......
“หนูเป็นหลานชายคนเล็กของจวนติ้งกั๋วกงใช่ไหม?” สวี่สืออวิ๋นยิ้มถาม
คุณชายน้อยทำความเคารพสวี่สืออวิ๋นและลู่เจาเจา “ขอรับ ผู้น้อยโจวจื่อสิง คารวะองค์หญิง คารวะฮูหยิน”
“ดีๆ พวกเจ้าไปเรียนด้วยกันเถอะ” ซ่านซ่านได้เพื่อนใหม่เร็วแบบนี้ สวี่สืออวิ๋นทำหน้าปลื้มใจสุดๆ
โจวจื่อสิงก็ถูกเลี้ยงอย่างดีในจวนติ้งกั๋วกงตั้งแต่เด็กจนโต ในตอนนี้ยกถ้วยป้อนโจ๊กให้ซ่านซ่านอย่างเอาใจใส่
ซ่านซ่านถามว่า “เติมน้ำตาลลงไปหรือ?”
โจวจื่อสิง “เติมก้อนน้ำตาลลงไปเล็กน้อย ไม่มีปัญหา”
ซ่านซ่านลูบแก้ม “บอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว ช่วงนี้ข้าปวดฟัน ต้องลดการกินน้ำตาล”
โจวจื่อสิงยิ้มอย่างประจบ “ข้ารู้ ข้ารู้ ดังนั้นถึงใส่แค่ช้อนเดียวเท่านั้น”
ซ่านซ่านแก้มป่องเล็กน้อย “ช้อนเดียวก็ไม่ได้ มันจะส่งผลเสียได้ ครั้งต่อไปไม่ว่าน้ำตาลชนิดไหนก็ห้ามใส่”
โจวจื่อสิงพยักหน้า “อย่างนั้นข้าไปเปลี่ยนถ้วยใหม่?”
ซ่านซ่านโบกมือ “ช่างเถอะๆ กินแก้ขัดไปแล้วกัน” กินไปสองคำก็ลุกขึ้นยืนแล้ว
“ท่านแม่ ข้ากินเสร็จแล้ว ซ่านซ่านไปสถานศึกษาแล้ว......”
โจวจื่อสิงรีบทำความเคารพ จากนั้นก็เร่งฝีเท้าเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
สวี่สืออวิ๋นสบตากับเติงจือ “พวกเขาสองคน......ดูแปลก ๆ หรือไม่? เหมือนพูดทุกอย่างแล้วแต่ก็เหมือนไม่ได้พูดอะไร”
“ฮูหยินวางใจ ในกั๋วจื่อเจี้ยนสร้างระลอกคลื่นใหญ่ไม่ได้”
สวี่สืออวิ๋นเบาใจลงเล็กน้อย ขอแค่ยินดีรักการเรียนการสอนก็พอ
ขณะนี้ ณ กั๋วจื่อเจี้ยน
“ซ่านซ่านเก็บการบ้านขึ้นมา” อาจารย์ลูบเคราเดินออกไปจากประตูไป
เพียงไม่นาน ซ่านซ่านพาเด็กรับใช้ เด็กรับใช้ถือการบ้านส่งไปตรงหน้าของอาจารย์
“เก็บครบแล้วรึ?” อาจารย์ถาม
ซ่านซ่าน “ครบแล้ว มีนักเรียนทั้งหมดยี่สิบเอ็ดคน เก็บได้ยี่สิบเอ็ดเล่มขอรับ”
อาจารย์พยักหน้า “ความจำของเจ้าสูสีกับพี่สาวเจ้าเลย ในปกติต้องตั้งใจเรียนให้มากๆ อย่าขี้เกียจเอาแบบพี่สาวของเจ้า”
“ท่องบทกวีที่เรียนเมื่อวานมา” ซ่านซ่านท่องออกมาอย่างสุภาพ ไม่ตะกุกตะกักสักนิด
อาจารย์รู้สึกปลื้มใจ ถึงขนาดเกิดความคิดชื่นชมคนเก่งเล็กน้อย “ดีๆ” ตอนนั้นเขาถูกลู่เจาเจาทรมานจะเป็นจะตาย ตอนนี้ซ่านซ่าน ทั้งว่านอนสอนง่ายและรู้ความ จิตใจได้รับการปลอบโยน
“เจ้าไปสุ่มตรวจสถานการณ์การท่องบทกว่าของเพื่อนร่วมชั้น”
“ขอรับ” ซ่านซ่านถอยออกไปแล้ว
เพียงไม่นาน ซ่านซ่านน้อยจึงนั่งอยู่หน้าชั้น ตรงหน้ามีพวกเพื่อนร่วมชั้นต่อแถวยาว แต่ละคนท่องบทกวีอย่างตะกุกตะกัก
คนที่เดินผ่านมา ต่างทำหน้าปลื้มใจ
พูดจบก็ไปจุดธูปเปิดศาลบรรพชนอย่างมีความสุข บอกกับบรรพบุรุษตระกูลหรง
รอตอนซ่านซ่านกลับมา ก็พูดชมอีกรอบ
แต่ม่ายเฟิงทำหน้าตึง ดึงซ่านซ่านมาถึงมุมหนึ่ง “ซ่านซ่าน เจ้าใจกล้าเกินไปแล้ว!!”
“อยู่ต่อหน้าอาจารย์ เจ้ายังการนับสมุดการบ้านสิบหกเล่ม เป็นยี่สิบเอ็ดเล่ม!!”
“เจ้าไม่กลัวเกิดเรื่องหรือ?”
ซ่านซ่านมองท้องฟ้าอย่างลึกซึ้ง “ใครผลักท่านขึ้นมา ก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของคนนั้น!”
“นี่เป็นเส้นทางการเป็นขุนนาง”
ม่ายเฟิงโกรธจนแทบหงายหลังแล้ว
“นี่นับเป็นเส้นทางการเป็นขุนนางอะไร เจ้าเป็นแค่หัวหน้าชั้นคนหนึ่ง!”
ซ่านซ่านทำหน้านิ่ง “ไม่นับเป็นขุนนางได้อย่างไร? ฝ่าบาทปกครองใต้หล้า”
“ข้าอยู่สถานศึกษาปกครองเพื่อนร่วมชั้น มันเป็นเรื่องเดียวกัน”
“แม้แต่เพื่อนร่วมชั้นก็ปกครองไม่ได้ อนาคตจะเป็นขุนนางได้อย่างไร?”
“ม่ายเฟิง คนเราจะต้องรู้จักพลิกแพลง แม้แต่ฝ่าบาท มีบางครั้งยังต้องลืมตาข้างปิดตาข้าง ท่านว่าใช่หรือไม่?”
ม่ายเฟิงพูดสู้เขาไม่ได้ ใบหน้าแดงก่ำ “แต่เจ้าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง เจ้ายังกินของเพื่อนร่วมชั้น ดื่มของเพื่อนร่วมชั้น รับของเพื่อนร่วมชั้น!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ให้อ่านนะคะ...
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...