เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1304

แต่เขามักคิดว่าให้นางอดทนเอาไว้ก่อน

“รักในวันที่สายไปไร้ราคายิ่งกว่าเศษไม้ใบหญ้า” จุยเฟิงถือชามเข้ามาพร้อมกับพูดอย่างเย็นชา

เขาเคยเห็นอาอู๋นอนไม่หลับด้วยความเจ็บปวด เดินเตร่อยู่หน้าลานบ้านนับครั้งไม่ถ้วน เขายังเห็นเคยอาอู๋กลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวดหลายครั้ง

แล้วจู๋มั่วไม่เคยเห็นบ้างเลยหรือ

เขาเองก็เห็นเช่นกัน

เขาเลือกที่จะไม่สนใจ

จู๋มั่วถือขวดเหล้าและเดินโซซัดโซเซไปหน้าประตู “ข้าผิดเอง สมควรแล้ว...”

“รีบมาขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย… ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย” แม่นมให้คนนำหุ่นเชิดไม้ออกมาตัวหนึ่ง

หุ่นเชิดไม้นั้นถูกห่อด้วยยันต์สีเหลือง หมายความว่าวิญญาณชั่วร้ายถูกสะกดเอาไว้

ม่ายเฟิงถือมีดเดินมา “ขอข้าทำด้วยคน ...สังหารวิญญาณชั่วร้าย!”

“ข้าจะวาดลวดลายบนหน้ามัน…” อาหมานยกปากกาขึ้นวาดลงบนใบหน้าของหุ่นเชิด

ส่วนซ่านซ่านที่วันอารมณ์ไม่ดีเป็นทุนเดิม ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “สาดน้ำมูลสกปรกลงไปเลย...”

พรุ่งนี้ถึงวันขับไล่วิญญาณชั่วร้ายแล้ว ข้าจะเทน้ำมูลสกปรกลงไป!

ซ่านซ่านหัวเราะคิกคักเพียงลำพัง

ในที่สุดวันรุ่งขึ้นก็มาถึง

ทั่วทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรนานาชนิดอันน่ารื่นรมย์

“วันนี้พวกเราต้องกินขนมเฉ่าถวนจื่อ เจ้านายน้อยรีบลุกมาชิมดูเถิด มีทั้งรสหวานรสสเค็ม รสหวานยัดไส้น้ำตาลงา ส่วนรสเค็มยัดไส้เนื้อสัตว์ต้นหอม กินเสร็จแล้วต้องออกไปแห่ขบวนอีก”

“เทศกาลขับไล่วิญญาณร้ายในตงหลิงแตกต่างจากของเรา ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้สัมผัสบรรยากาศของเทศกาลต่างแคว้นนะเจ้าคะ” สาวรับใช้สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับลู่เจาเจา

“แห่ขบวน แห่ขบวน ข้าไปด้วย!” ซ่านซ่านยิ้มอย่างมีความสุข

แต่ลู่เจาเจากลับมองเขาอย่างลังเล “ช่างมันดีกว่า? อันที่จริงแก่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร...”

ซ่านซ่านย่นหน้าเล็กๆ พลางจับมือนางขึ้นมาร้องอ้อนวอน “ไปเที่ยว... ข้าอยากไป ด้วยกันนะ...”

ลู่เจาเจาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพาเขาออกไป

ซ่านซ่านเอาแต่มองซ้ายมองขวา ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีความสุขแค่ไหน ส่วนจุยเฟิงได้แต่เดินตามไกลๆ อย่างไม่สบายใจนัก

“ซื้อภาพเทพเจ้าเฝ้าประตูสักใบดีกว่า เทพเจ้าเฝ้าประตูจะปกป้องครอบครัวไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายเข้ามากล้ำกราย”

“เทพเจ้าเฝ้าประตูที่ใช้เลือดสุนัขสีดำวาด ช่างศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”

มีภาพวาดมากมายแขวนอยู่ทั้งสองข้างถนน เมื่อสาวรับใช้เห็นเจ้านายน้อยแวะไปร้านใด นางก็ตามไปจ่ายเงินที่ร้านนั้น

“ทำไมพวกเขาถึงแบกใบกะหล่ำปลีเน่ากับไข่เน่าแบบนั้นล่ะ” ลู่เจาเจาปิดจมูกด้วยท่าทางรังเกียจ

“เป็นของที่ใช้ต่อกันมาในเทศกาลขับไล่วิญญาณร้ายของตงหลิงเจ้าค่ะ”

ลู่เจารู้สึกตกใจและมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา “นี่...ฝีมือเจ้าหรือ”

หน้าอกเล็กๆ ของซ่านซ่านพองขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “แน่นอน! คิกๆ ๆ”

เขารู้สึกว่ายังไม่พอ ดังนั้นเขาจึงพยายามดิ้นลงจากไหล่ของจุยเฟิง วิ่งตามหลังเกวียนและรูปปั้นพร้อมปาก้อนกรวดกับเด็กกลุ่มหนึ่ง

ลู่เจาเจาห้ามไว้ไม่ทัน จึงให้จุยเฟิงไปตามดูและปล่อยให้เขาทำทุกอย่างที่เขาต้องการ

ตอนแรกยังรู้สึกอากาศเย็นอยู่นิดหน่อย แต่พอวิ่งแล้วกลับมีเหงื่อไหลออกมาไม่น้อย

เมื่อซ่านซ่านกลับถึงบ้าน แก้มของเด็กน้อยก็แดงระเรื่อด้วยความตื่นเต้น

“วันนี้คุณชายน้อยคงสนุกมากเลยสินะ ดูสิเหงื่อออกเต็มหน้าผากเลย รีบไปอาบน้ำผลัดผ้าก่อน ระวังจะไม่สบายเอานะเจ้าคะ” แม่นมสั่งให้คนต้มน้ำอ้ายเฉ่าเอาไปแล้ว พอซ่านซ่านกลับมาก็ลงไปแช่ในน้ำได้เลย

หลังจากล้องเนื้อล้างตัวเสร็จ ทั้งตัวก็หอมไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพร

หน้าประตูติดภาพเทพเจ้าเฝ้าประตูองค์ใหญ่ ขณะที่หน้าต่างก็ติดภาพวาดเทพเจ้าแม่ทัพเอาไว้

ซ่านซ่านรู้สึกง่วงนอนและฟุบหลับไปบนโต๊ะ โดยไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยซ้ำ

“ช่างเถิด อย่าเพิ่งปลุกคุณชายน้อยเลย วันนี้เขาคงเหนื่อยมาก บ่าวกำลังอุ่นโจ๊กบนเตา ไว้รอเขาตื่นเมื่อใดก็กินได้ตลอดเวลา” แม่นมอุ้มเขาเข้าไปในห้อง พับผ้าห่มที่ปลายเท้าให้อย่างดี ปิดประตูหน้าต่างก่อนเดินออกไปอย่างเงียบๆ

พร้อมกับให้สาวรับใช้เฝ้าอยู่หน้าประตู ประเดี๋ยวฟ้ามืดลง คุณชายน้อยก็คงตื่นแล้ว

ซ่านซ่านกำลังนอนหลับใหล และรู้สึกราวกับว่าวิญญาณได้ออกจากร่าง แต่ก็เหมือนไม่ได้ไปไหน และ เข้าสู่ดินแดนอันแปลกประหลาด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์