ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1096

“ตอนนี้ทำยังไง?” หัวหน้าทีมขมวดคิ้วแล้วมองมาที่เย่เทียน

หัวหน้าทีมคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถ ปกติเขาจะเป็นคนที่คอยสั่งการ แต่สถานการณ์วันนี้มันต่างออกไป เขาเลือกที่จะหันไปถามเย่เทียน ในความคิดของเขาเหมือนมีแค่เย่เทียนเท่านั้นที่จะสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้

เย่เทียนหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “นี่สินะที่เขาเรียกว่าคนคำนวณมิอาจสู้ฟ้าลิขิต! ถึงเราจะเคยคาดเดาชะตาของออนนีฮานเอาไว้ แต่เราก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเลือดปีศาจนั่นจะเป็นเขา!”

“ที่สำคัญคือเราไม่คาดคิดว่าเลือดปีศาจจะสามารถกลายพันธุ์ได้ถึงสองครั้ง เมื่อเทียบกับตัวตนที่เคยรู้จักแค่การเข่นฆ่าแล้ว เลือดปีศาจในตอนนี้ยิ่งสร้างความกดดันได้มากกว่าเดิม พวกเราต้องระวัง!”

พูดจบเย่เทียนก็หายใจเข้าลึกๆ “แผนการยังคงดำเดินต่อไป ส่วนเรื่องออนนีฮาน ผมจะจัดการเอง!”

หัวหน้าทีมไม่ได้ถามเย่เทียนว่าเป็นแผนอะไร แค่มองเย่เทียนอย่างลึกซึ้งไปทีหนึ่ง แล้วพูดไปว่า “พวกเราเชื่อในสายตาจองตัวเอง และเชื่อในเพื่อนร่วมทีมของตัวเองด้วย!”

เย่เทียนไม่ได้พูดอะไร แค่แสดงแววตาที่พร้อมสู้ออกมา

เพื่อแฝงตัวเข้าไปในงานประชุมยอดมนุษย์ถือได้ว่าพวกเราได้ลงทุนลงแรงไปมหาศาล ตอนนี้จะให้มาเปลี่ยนแผนจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เมื่อเป็นแบบนั้น เย่เทียนก็เลือกที่จะเชื่อในตัวเอง

การจะฆ่าออนนีฮาน เรื่องนี้แทบเป็นไปไม่ได้ แต่เหมือนทุกคนจะมองข้ามเรื่องหนึ่งไป นั่นก็คือฝีมือของเย่เทียน!

ถ้ามีพื้นที่เฉพาะให้เย่เทียน ควบคุมไม่ให้ออนนี้ฮานหนีไปได้ งั้นสำหรับเย่เทียนแล้วการที่จะฆ่าอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร แน่นอนว่า ระหว่างนั้นก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น

ถ้าเป็นออนนีฮานคนก่อน เย่เทียนสามารถบีบเขาให้ตายอย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ด้วยสารพันธุกรรมของห้องตัดสินคดี ออนนีฮานได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก เมื่อเผชิญหน้ากับออนนีฮานในสภาพนี้ เย่เทียนก็ไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ง่ายๆ แล้ว

หลังจากที่ทุกคนออกไป เย่เทียนก็วนดูคลิปที่วิลเลียมส่งมา ขมวดคิ้ว และไม่เคยจริงจังขนาดนี้มาก่อน

“ดูท่าท่านผู้นำจะตัดสินใจได้แล้วสินะ!” ไม่รู้ว่าท่านจ้าวมาถึงข้างๆ เย่เทียนตั้งแต่เมื่อไหร่ และพูดไปขำไป

เย่เทียนพยักหน้าด้วยความจนใจ “นอกจากวิธีที่สามารถกำจัดอันตรายที่ซ่อนตัวอย่างนี้ ผมยังจะทำอะไรได้อีก?”

ท่านจ้าวยักไหล่ “ดูจากสภาพการณ์แล้วนี่เป็นเพียงหนทางเดียว”

ดวงตาของเย่เทียนหมุนวน ในเมื่อท่านจ้าวมาแล้วต้องไม่ได้มาเพื่อพูดคุยเรื่อยเปื่อยอยู่แล้ว เย่เทียนจนได้ลองถามไปว่า “ท่านจ้าว คุณมีวิธีใช่มั้ยครับ?”

“วิธีมันก็มีอยู่อย่างหนึ่ง แค่ไม่รู้ว่าเธอจะกล้าพอรึเปล่า ถ้ามันสำเร็จก็เพียงพอที่จะทำให้สันตะปาปาสูญเสียอย่างหนัก!” ท่านจ้าวก็ไม่ได้อ้อมค้อม และได้พูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา

“หืม? วิธีอะไรครับ?”

ท่านจ้าวโบกมือ ชายชราแว่นดำที่ถือกระบองไม้ไผ่คนหนึ่งได้เดินเข้ามา มีผ้าผูกอยู่ที่กระบองไม้ไผ่ บนนั้นมีคำว่าปากเหล็กเทพคำนวณเขียนไว้ ดูเท่มากๆ

เย่เทียนหันมองรอบๆอย่างอัตโนมัติ ไม่ผิดแน่ ยังอยู่ในห้องของมนุษย์หมาป่า แต่มองดูชายชราที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของชาวยุทธแห่งประเทศจีนแล้ว เขาก็รู้สึกสับสนอยู่เหมือนกัน

“ท่านนี้ก็ไม่แนะนำอะไรมากแล้ว เขามีวิธีที่สามารถกักขังคนได้ แต่ก็ไม่ได้นานมาก แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น!” ท่านจ้าวพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

เย่เทียนขมวดคิ้ว พูดตามตรงถ้าคนคนนี้ไม่ใช่ท่านจ้าวพามา แล้วไปเจอกันข้างนอกมีความเป็นไปได้ที่เขาจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นนักต้มตุ๋น แต่ตอนนี้ท่านจ้าวพูดอย่างเป็นจริงเปนจัง มันก็ทำให้เขาอดลังเลไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่