“ไหนลองพูดแผนของคุณให้ฟังหน่อย!” ออนนีฮานลังเลไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจ สำหรับความยิ่งใหญ่ขององค์กรเขานั้นรู้ดี อีกอย่างองค์กรก็ได้ยื่นข้อเสนอที่เขาไม่สามารถต่อต้านออกมาแล้ว พอเป็นแบบนี้เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธการร่วมมือกับทางองค์กรได้อีก
“เมล็ดพันธุ์ที่พวกคุณตามหามาโดยตลอดเราสามารถมอบให้ได้หนึ่งเม็ด แต่ข้อแลกเปลี่ยนคือเย่เทียนต้องตาย!”
“คุณว่ายังไงนะ!” พอได้ฟังข้อเสนอของชายชุดดำอีกครั้ง ออนนีฮานก็ลุกพรวดขึ้นมา ไม่หลงเหลือความสุภาพที่เคยมี แถมการหายใจก็ยังเร่งรีบขึ้นมา
“ผมคิดว่าพวกคุณน่าจะรู้จักเมล็ดพันธุ์ดียิ่งกว่าผมนะ!” พูดจบชายชุดดำก็ปรบมือทีหนึ่ง สิ่งของเล็กๆ ที่เหมือนหยดเลือดปรากฏออกมาในมือของเขาเม็ดหนึ่ง
เพียงแค่ได้เห็น ออนนีฮานก็กลืนน้ำลายไปทีหนึ่ง แถมยังเผยเขี้ยวของตัวเองออกมาแล้วด้วย
นี่เป็นการแสดงออกที่ไม่มีมารยาทเอาซะเลย แม้เมื่ออยู่ต่อหน้าเมล็ดพันธุ์จะมีสายเลือดพิเศษสักกี่คนที่สามารถใจเย็นอยู่ได้? คิดว่าคงไม่มีสักคน! พอคิดได้อย่างนั้นเขาก็อดที่จะสูดหายใจไม่ได้ จากนั้นก็จ้องมองชายชุดดำด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
“ทำไม? อยากฆ่าผมเหรอ?” ชายชุดดำไม่ได้เกรงกลัว ยังคงวางท่าเรียบเฉย แถมยังเอนตัวพิงไปด้านหลัง บ่งบอกว่าผ่อนคลายมาก
ไม่ใช่ว่าในหัวของออนนีฮานไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เพราะในตึกนี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว ยังมีมาร์ควิสอยู่ด้วยอีกคน ถ้าพวกเขาร่วมมือกันจะะสามารถเอาชนะชายชุดดำได้รึเปล่านะ?
ความคิดนี้แต่แล่นเข้ามาในหัวแล้วก็หายไป ชายชุดดำเป็นใครเขาก็ยังไม่ค่อยรู้ แต่ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายเขานั้นรู้ดี ถือเป็นอันดับสามขององค์กรเลย ว่ากันว่ามีความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่านมิติ การโจมตีของคนแบบนี้รุนแรงรึเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการหนีนั้นถือเป็นอันดับหนึ่งเลย
แถมความยิ่งใหญ่ขององค์กรต่อให้เห็นสายเลือดพิเศษก็ไม่อยากไปมีเรื่องด้วย พอเป็นแบบนี้เขาก็ต้องอดกลั้นความกระหายที่มีต่อเมล็ดพันธุ์เอาไว้ เลียริมฝีปากไปอย่างไม่รู้ตัวไปทีหนึ่ง พยายามเก็บเขี้ยวกลับไป
“คุณเป็นคนฉลาด!” ชายชุดดำรับรู้ได้ว่าจิตสังหารในตัวของ ออนนีฮานค่อยๆ จางหายจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ยักไหล่แล้วพูดไปว่า “ชื่อเสียงขององค์กรคุณเองก็รู้ดี ถ้าพวกคุณสามารถเด็ดหัวของเย่เทียนมาได้ เมล็ดพันธุ์เม็ดนี้ไม่มีทางทำให้พวกคุณผิดหวังอย่างแน่นอน!”
“ทำไม ทำไมพวกคุณถึงไม่ลงมือเอง?” ออนนีฮานทนไม่ไหวจนต้องถามไป นี่เป็นสิ่งที่เขาสงสัยที่สุด ถ้าจะให้พูดถึงความสามารถของผู้แข็งแกร่งชั้นแนวหน้า องค์กรก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสายเลือดพิเศษเลย
ชายชุดดำขำออกมาทีหนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปทานครรัฐวาติกัน
ช่วงนี้นครรัฐวาติกันถือเป็นเวลาอันดีที่คนมีความสามารถจะมารวมตัวกัน ผู้แข็งแกร่งจากประเทศต่างๆ ถูกเชิญมา ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเป็นอะไรไม่มีใครรู้ สิ่งเดียวที่รู้คือคนที่สั่งให้เชิญคือพระสันตะปาปา
ผู้ที่ทำให้คนเกลียดและเคารพ พอนึกถึงชื่อของเขาก็ทำให้ออนนีฮานถึงกับนั่งไม่สุข
“เอาล่ะ หวังว่าครั้งนี้พวกคุณจะทำสำเร็จนะ!” พูดจบร่างกายของชายชุดดำก็สั่นไหวอย่างน่าประหลาด แล้วหายไปในพริบตา ราวกับเขาไม่เคยอยู่ในห้องนี้มาก่อน
“หึ! ไอ้คนเจ้าเล่ห์!” ออนนีฮานทำเสียงฮึดฮัดด้วยความโล่งใจ จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วเริ่มวางแผน สำหรับสายเลือดพิเศษแล้วเมล็ดพันธุ์ไม่เพียงแค่สามารถเพิ่มพลังได้ มันยังหมายถึงความหวังของอนาคต ถ้าพูดกันตรงๆ ก็คือ ถ้าเขาสามารถได้รับเมล็ดพันธุ์มาแล้วกินมันเข้าไปได้ มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้ขึ้นเป็นดยุก!
แต่ในบรรดาสายเลือดพิเศษยังมีคนที่คอยควบคุมทั้งเผ่าพันธุ์อยู่!
แต่เมล็ดพันธุ์นี้ก็ไม่ใช่ของที่จะได้มาง่ายๆ เอซผู้ยิ่งใหญ่ได้เสียท่าไปแล้ว ถ้าจัดการไม่ดี เขาอาจจะต้องสูญเสียมากกว่านี้
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเม็ดพันธุ์ ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็ต้องลงมือ!
…..
“ถึงแล้วครับ!” ชิโปโตะจอดรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่