“ว้าว โรงแรมเวลลิงตัน?” พอคนขับแท็กซี่รู้ว่าจุดหมายของคนเหล่านี้อยู่ที่ไหนก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ทำไม? ตรงนั้นมันมีอะไรครับ?” สีหน้าชองชิโปโตะเปลี่ยนไปแล้วรีบถามไป
คนขับเป็นคนที่ช่างพูด พอได้ยินคำถามของชิโปโตะเขาก็ถึงกับต้องยิ้มออกมา “เวลลิงตันนะเหรอ เป็นโรงแรมห้าดาวที่มีชื่อเสียงของตูริน ที่สำคัญคือพวกคุณเป็นคนจีนใช่มั้ยครับ? เพื่อนๆ จากชาติเดียวกับพวกคุณก็ชอบไปที่นั่นมากเลย!”
สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย สำหรับชาวต่างชาติแล้ว หน้าตาของชาวเอเชียค่อนข้างคล้ายกัน ด้วยเหตุนี้ถึงได้มีคำว่าคนชาติเดียวกันเกิดขึ้น เพราะพวกเขาไม่เข้าใจความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศหยิงกับประเทศจีน
“หลายวันนี้คนชาติเดียวกับเราไปที่นั่นเยอะเลยเหรอครับ?” ชิโปโตะหันมองเย่เทียน จากนั้นก็ถามคนขับราวกับเป็นการพูดคุยทั่วไป
“ใช่ครับ คนจีนอย่างพวกคุณค่อนข้างใจกว้าง หลายวันมานี้ผมหารายได้ได้เยอะเลย ขอบคุณพระเจ้า!” ระหว่างที่พูดคนขับก็แบมือทั้งสองข้างออก ปล่อยมือจากพวงมาลัยไปเลย
ภาพที่เห็นทำเอาเย่เทียนหางตากระตุก ฝีมือของเขาอยู่ในระดับฟ้าแน่นอน แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุเขาเองก็คงจะเจ็บไม่เบาเหมือนกัน
“นี่ ลูกพี่ ขับรถดีๆ หน่อย!” ชิโปโตะก็แตกตื่นเหมือนกัน จึงรีบตะโกนไป
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับเพื่อนๆ นี่มันเป็นแค่การกระทำทั่วไปเท่านั้น!” คนขับหันมองชิโปโตะด้วยสีหน้าที่ทะเล้น จากนั้นก็ยักไหล่ แล้วกลับไปขับรถอย่างตั้งใจ
แต่พอมีประสบการณ์จากครั้งก่อน ชิโปโตะก็ไม่กล้าถามอะไรมาก กลัวคนขับจะแสดงท่าทีอะไรที่ทะเล้นออกมาอีก
เย่เทียนกลับหรี่ตาลง ในเมื่อท่านจ้าวให้เข้ามาที่ตูรินก็แสดงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน บวกกับสิ่งที่คนขับแท็กซี่พูด ที่นั่นน่าจะมีคนจากประเทศหยิงอยู่ไม่น้อยเลย
ไม่แน่พอถึงตอนนั้นอาจจะมีเบาะแสเกี่ยวกับการเรียกชุมนุมของเหล่ายอดมนุษย์ในครั้งนี้ก็เป็นได้
รถถูกขับมาที่โรงแรมเวลลิงตันอย่างรวดเร็ว สำหรับข้อมูลที่คนขับให้มาอย่างไม่ตั้งใจ ชิโปโตะเองก็ใจกว้างมากตะโกนออกมาว่าพระเจ้า แล้วบอกว่ารักคนจีนมากๆ
แต่เย่เทียนก็อดใจที่จะไม่ทำลายกำลังใจของเขา ใช่ว่าคนจีนทุกคนจะใจกว้างแบบนี้สักหน่อย!
“ท่านจ้าว พวกเราถึงแล้ว!” เย่เทียนหยิบมือถือออกมาแล้วโทรหาท่านเจ้า เนื่องจากตอนนี้จิ่วเจี้ยและเสวียนเฉิงยังอยู่กับเขา ถ้าเป็นไปได้เย่เทียนก็อยากให้ท่านจ้าวช่วยดูแลพวกเขาไปอีกสักพัก
ท่านจ้าวมีวิธีการเยอะ บวกกับความสัมพันธ์ที่มีกับปรมจารย์เจตสิกอีก การที่จิ่วเจี้ยกับเสวียนเฉิงอยู่กับพวกเขาอาจจะลำบากไปบ้าง แต่ชีวิตก็จะปลอดภัยแน่นอน
แต่ถ้ามาอยู่กับเขามันก็จะแตกต่างออกไป เนื่องจากตอนนี้พวกสายเลือดพิเศษก็เพ่งเล็งมาที่เขาแล้ว มันก็เท่ากับมีอันตรายมากมายกำลังรายล้อมเขาไว้
“ใครเนี่ย! โทรมาเช้าขนาดนี้ ประสาทรึไง!” น้ำเสียงที่โมโหของท่านจ้าวดังขึ้น ถามแบบไม่ต้องสงสัย การที่เย่เทียนโทรไปตอนนี้มันดูไม่เหมาะจริงๆ นั่นแหละ ส่วนความสามารถในการได้ยินของเย่เทียนร้ายกาจแค่ไหน ก็ต้องได้ยินเสียงอุดอู้ของผู้หญิงที่ดังออกจากลำโพงอย่างแน่นอน
“ท่านจ้าว ผมมาถึงตูรินแล้วครับ” เย่เทียนถอนหายใจอย่างหมดคำจะพูด ในเรื่องบางเรื่องก็อดนับถือในความแข็งแกร่งของคนแก่อย่างท่านจ้าวไม่ได้เลย ในชีวิตที่เสเพลทุกคืนแบบนี้ต่อให้เป็นเขาก็ใช่ว่าจะทนไหว!
“ที่นั่นมีพวกบัดซบจากประเทศหยิงอยู่เยอะเลย เธอหาทางเอาข้อมูลเรื่องการเรียกชุมนุมยอดมนุษย์ในครั้งนี้มาให้ได้มันจะเป็นประโยชน์กับเธอมาก” ท่านจ้าวพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ
“คุณไม่ได้อยู่ที่ตูรินเหรอครับ?”
“ก็ไม่นะสิ!” ท่านจ้าวพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผล “โตขนาดไหนแล้ว ยังต้องให้คนแก่อย่างฉันมาปวดหัวอีก! เอาล่ะ แค่นี้นะ จะได้ข้อมูลอะไรรึเปล่าก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้ว! ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่ต้องโทรหาฉันอีก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่