ทั้งสองฝ่ายใช้แรงมากขึ้นเรื่อย ด้วยความที่ใช้แรงมากขึ้นหน้าผากของหัวหน้าเริ่มมีเหงื่อไหลออกมาแล้ว ร่างกายก็เริ่มสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
การเป็นนักบู๊นั้นเมื่อพูดถึงเรื่องการควบคุมร่างกายก็แทบจะทำได้ขั้นสุดแล้ว สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้ามันไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ! พร้อมกันนั้นก็ยังเป็นการบอกอ้อมๆ ว่าร่างกายของเขากำลังจะถึงขีดจำกัดแล้ว
ตอนแรกแม่ม่ายดำยังเอามือวางไว้บนโต๊ะ พร้อมกับทำหน้าขี้เกียจและสนใจ
แต่มาตอนนี้ เธอกลับลุกพรวดขึ้นมา หันมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่ตกใจ อ้าปากเล็กน้อย เห็นแล้วอยากจะเขาไปจูบจริงๆ
“นี่คุณผู้หญิง สายตากับท่าทางของคุณนี่มันช่างดึงดูดจริงๆ!” เย่เทียนพูดด้วยท่าทางที่ใจเย็น พอหัวหน้าทีมได้เห็นอย่างนั้นก็ถอดหายใจออกมาทันที
พลังที่อยู่ภายใต้แรงกดสูงก็ได้คลายลงทันที
พอคลายลงแบบนี้มันก็ไม่สำคัญ ต่อให้เป็นเย่เทียนหน้าผากก็เริ่มมีเหงื่อไหลออกมาแล้วเช่นกัน ตอนนี้พลังที่ทั้งสองอัดเข้าไปในโตีะนั้นมหาศาลมาก พอหัวหน้าทีมมาคลายออกแบบนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะระเบิดออก!
เชคอฟถอยหลังตามสัญชาตญาณ เขาเองก็มองออกว่าทั้งคู่กำลังวัดอะไรบางอย่างกันอยู่ แค่วิธีที่ใช้มันรุนแรงไปสักหน่อย แถมยังรุนแรงกว่าวัฒนธรรมบางอย่างของมนุษย์หมาป่าด้วย!
เล่นใหญ่เกินไปแล้วมั้ง!
เชคอฟตัดพ้อออกมาในใจ จากนั้นก็จ้องมองไปยังโต๊ะที่แสนอันตรายนั่น
หัวหน้าทีมเองก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยปกติ แต่ตอนนี้จะพูดอะไรมันก็สายเกินไปแล้ว! โดยเฉพาะร่างกายของเขา เขาไม่สามารถควบคุมมันได้แล้ว ทำให้เขาอยากจะตะโกนออกไปว่าทำยังไงดี
ถึงปกติลู่จื่ออันจะดูไม่ค่อยอยู่ตามร่องตามรอย แต่ตอนนี้กลับจ้องมองมาที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “ระวังหน่อย พยายามควบคุมพลังเอาไว้!” พูดจบเขาก็วางมือไปที่สะบักของหัวหน้าทีม ค่อยๆ ถ่ายพลังของตัวเองเข้าไป เพื่อลดอาการเหนื่อยล้าของหัวหน้าทีม
“นี่มันเรียกว่าอะไร!” ในใจของเย่เทียนขำออกมาอย่างขมขื่น ส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็ทำเป็นต้องงัดความเสี่ยงของร่างกายออกมาใช้ แล้วดึงพลังทั้งหมดของตนออกมา
ในพริบตาที่เย่เทียนเอาจริงขึ้นมานั้น ทั่วทั้งห้องก็เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดัน หลายคนถึงกับรู้สึกหายใจแทบไม่ออก
สามยอดรวมเกล้านั้นไม่ได้มีไว้เล่นๆ ตอนนี้พอเย่เทียนเอาจริงขึ้นมาทุกคนต่างช็อกไปตามๆ กัน
เชคอฟสายตาเป็นประกาย เขารู้มาตลอดว่าเย่เทียนนั้นแข็งแกร่ง แต่นึกไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้! มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งขนาดนี้สำหรับเขาและเผ่าพันธุ์ของเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องดีๆซะยิ่งกว่าดีกว่าดีเลย
เย่เทียนวางมือทั้งสองข้างไว้บนโต๊ะ ร่างกายของเขาราวกับลูกโป่งที่ถูกเติมลม ระหว่างที่เสื้อผ้าสั่นไหวเขาก็เป็นเหมือนคนอ้วนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
แต่ไม่มีใครขำ แต่กลับจ้องมองไปยังโต๊ะด้วยสายตาที่เคร่งขรึม
“แกร็กแกร็ก!”
ตรงกลางของโต๊ะเกิดเสียงดังขึ้น เสี้ยนค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเป็นเส้นๆ เห็นแล้วไม่ต่างอะไรกับขนที่ปุกปุยของสัตว์เลย!
บ่งบอกว่าโต๊ะถูกพลังทำลายไปมากขนาดไหนแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่