อ่านสรุป บทที่ 109 โล่ จาก ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight
บทที่ บทที่ 109 โล่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Light-Knight อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
หลังจากได้รับที่อยู่ที่แน่นอน เย่เทียนก็วางสายแล้วขึ้นรถห้อตะบึงไปในทันที
คมใจคือร้านอาหารแฟรนไชส์ทั่วประเทศที่อยู่ใกล้กับบาร์ดรุณียั่วรัก สภาพแวดล้อมที่หรูหรา บวกกับราคาที่ไม่สูงนัก ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่พนักงานบริษัท
หลังจากนั่งรถมาสิบนาที เย่เทียนก็มาถึงร้านอาหารและพบกับซูเหมย
ซูเหมยสวมชุดเดรสสีม่วงอ่อน ผมหยักศกสีแดงลู่ลงมาที่หัวไหล่ ดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์ ทำให้ผู้คนยากที่ละสายตาไป
เย่เทียนนั่งลงตรงหน้าซูเหมยอย่างไม่ยี่หระ พลางถามด้วยรอยยิ้ม “ทำไมจู่ๆ ถึงคิดชวนผมไปกินข้าวล่ะ?”
“แม่ของฉันมาที่เจียงหนันแล้ว”
ซูเหมยยิ้มอย่างขมขื่น “เดี๋ยวก็จะมาที่นี่”
เย่เทียนยักคิ้ว “คุณป้ามาเป็นเรื่องที่ดี ทำไมผมรู้สึกว่าคุณดูหน้าตาเศร้าหมองจัง”
“เฮ้อ ก็คุณไม่รู้จักแม่ของฉัน มาเร่งรัดให้ฉันแต่งงานจนปวดหัวไปหมดแล้ว”
ซูเหมยส่ายหน้าเบาๆ ฝืนยิ้มพูดว่า “ที่ให้คุณมาครั้งนี้ ก็เพราะอยากให้คุณมาช่วยเป็นแฟนของฉัน ทำให้แม่ของฉันรู้สึกมั่นคง อย่าให้แม่เอาแต่นัดบอดให้ฉันตลอดเวลา”
เอามาเป็นโล่เหรอ?
สีหน้าของเย่เทียนแปลกไปทันที ไม่เคยคิดมาก่อนว่าภาพในละครน้ำเน่าเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
เพียงแต่ว่า ความลังเลของเย่เทียนทำให้ซูเหมยรู้สึกไม่พอใจในทันที เธอพ่นลมหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “ว่าไงล่ะ? คุณไม่เต็มใจเหรอ?”
“ไม่ใช่ ผมเปล่า...”
เย่เทียนยิ้มแห้ง กำลังจะอธิบาย
ในเวลานี้ มีหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าหรูหรา ทั้งตัวเต็มไปด้วยอัญมณีปรากฏตัวขึ้นที่ประตูร้านคมใจ
เธอเหลือบมองไปรอบๆ ร้านอาหารแล้วขมวดคิ้วขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจกับสภาพแวดล้อมที่นี่
ซูเหมยคอยสังเกตที่ประตูตลอดเวลา พอเห็นคนที่มาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ชูกำปั้นขึ้นโบกมือให้ พูดคุกคามเย่เทียนว่า “แม่ของฉันมาแล้ว อย่าเปิดเผยตัวเองล่ะ ถ้าถูกจับได้ ฉันจะเล่นงานคุณแน่!”
“…”
เย่เทียนรู้สึกไม่มีทางเลือก
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? ไหนพูดเสียดิบดีว่าจะเลี้ยงข้าวตน?
แต่ตอนนี้อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างสมบูรณ์ ไม่อยากเป็นโล่ก็ต้องเป็น!
ข้างกายหญิงวัยกลางคนมีชายหนุ่มในชุดสูทยืนอยู่ ดูอายุประมาณยี่สิบเจ็ดปี บนข้อมือสวมนาฬิกาแบรนด์เนมปาเต็ก ฟิลิปป์ ใบหน้าอันหล่อเหล่ามีแววเย่อหยิ่งอยู่บ้าง เขาเป็นตัวอย่างของลูกหลานเศรษฐี
เขาดันแว่นกรอบทองที่สวมอยู่พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยพอใจ “น้าจ้าง ทำไมเหมยเหมยถึงนัดในสถานที่แบบนี้?”
“เสี่ยวเฟิง เรื่องนี้ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน”
จ้าวเสว่เฟิน แม่ของซูเหมยก็รู้สึกอึดอัดเช่นกัน เธอเดินเข้ามาในร้านอาหาร
บริกรรีบเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามาสองที่หรือเปล่าครับ?”
“เรามาหาคน”
จ้าวเสว่เฟินตอบอย่างราบเรียบ กวาดสายมองไปรอบๆ ร้านอาหารเพื่อหาซูเหมย
ซูเหมยคอยสังเกตความเคลื่อนไหวที่ประตูอยู่ตลอด พอเห็นผู้ชายที่อยู่ข้างหลังจ้าวเสว่เฟิน แววตาก็ดูซับซ้อนขึ้นมาทันที พลางลุกขึ้นกล่าวทักทาย “แม่คะ ทางนี้ค่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงเรียก จ้าวเสว่เฟินก็หันกลับมา พอเธอเห็นชายหนุ่มแปลกหน้านั่งอยู่เคียงข้างซูเหมย
“เสี่ยวเฟิงพูดถูก ไม่งั้นเธอก็อย่าอยู่ในเจียงหนันอีกเลย กลับบ้านไปกับแม่ ทรัพย์สินของครอบครัวเรายังไม่เพียงพอที่จะให้เธอกินดื่มไปทั้งชาติอีกเหรอ?”
พยักหน้าเห็นด้วย พูดอย่างฮึกเหิม
“แม่คะ ฉันมีชีวิตที่ดีมาก” ซูเหมยขมวดคิ้ว
จ้าวเสว่เฟินตำหนิอย่างไม่พอใจ “ดียังไง? เธอดูตัวเองตอนนี้สิว่าผอมแค่ไหน? ไม่รู้ว่าทุกวันกินอะไร ถ้าเกิดป่วยขึ้นมาแล้วทำยังไง?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเย่เทียนที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดก็หน้านิ่วคิ้วขมวด อดพูดไม่ได้ว่า “ที่นี่ก็ดีมากนะครับ รสชาติก็ดี สิ่งแวดล้อมก็ดีด้วย กินจนป่วยน่าจะพูดเกินจริงไปหน่อยนะครับ”
พอเย่เทียนพูดออกไปแบบนี้ จ้าวเสว่เฟินก็แสร้งทำเป็นประหลาดใจเหมือนตอนที่พบเขาครั้งแรก แล้วกวาดสายตามองเย่เทียนหลายครั้ง
“เสี่ยวเหมย นี่ใครกัน? เป็นพนักงานบาร์ของเธอเหรอ?”
“เขา...” ซูเหมยเปิดปากกำลังจะแนะนำ
เย่เทียนลุกขึ้นก่อนและแนะนำตัวเอง “สวัสดีครับคุณน้า บางทีคุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อผม แต่ผมได้ยินเสี่ยวเหมยพูดถึงคุณบ่อยๆ ผมเป็นแฟนของเสี่ยวเหมย ชื่อเย่เทียนครับ!”
“แฟนของซูเหมย?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงจ้าวเสว่เฟิน แม้แต่หลี่เฟิงเองก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง
พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าซูเหมยมีแฟนแล้ว! มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังคนในครอบครัวใช่ไหม?
หลี่เฟิงมองพิจารณาเย่เทียนอย่างรอบคอบ มองดูเย่เทียนที่ธรรมดาไม่โดดเด่น จู่ๆ ก็มีแสงสว่างแวบเข้ามาในหัวของเขา เขาแน่ใจว่าซูเหมยตั้งใจหาคนอื่นมาแอบอ้าง
เมื่อคิดได้ดังนี้ หลี่เฟิงก็ยิ้มมุมปากอย่างสนุกสนานแล้วพูดว่า “ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินว่าซูเหมยมีแฟนแล้ว? น้าจ้าง เสี่ยวเหมยเคยพูดถึงให้คุณฟังบ้างหรือเปล่า?”
ไม่ว่าเย่เทียนจะเป็นตัวจริงหรือไม่ก็ตาม ในเมื่อเขาเริ่มแนะนำตัวเองแบบนี้ หลี่เฟิงก็ถือว่าเป็นศัตรูหัวใจแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...