เย่เทียนยิ้มออกมาที่มุมปาก เหมือนพอใจกับผลงานของตัวเอง ตอนนี้ขอบฟ้าก็มีแสงสว่างขึ้นมาแล้ว ถ้ายังไม่ลงมือความได้เปรียบของยูมะ ฟุคุจิก็จะหายไป
แต่สิ่งที่ทำให้เย่เทียนแปลกใจก็คือ อีกฝ่ายนั้นไม่ได้ลงมือจริงๆ! ยังคงซ่อนตัววราวกับสิ่งของ
“น่าสนใจ!” เย่เทียนพูดออกมาเบาๆ จากนั้นก็หมุนตัวแล้วกลับเข้าไปในห้อง ในจังหวะนี้ เขาก็จงใจเผยให้เห็นช่องโหว่
เขาเก็บผ้าขนหนูที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา แล้วเหวี่ยงมันขึ้นไปที่ไหล่
แบบนี้ซี่โครงกว่าครึ่งของเย่เทียนก็แสดงออกมาตรงหน้าการโจมตีของ ยูมะ ฟุคุจิ!
ถึงยูมะ ฟุคุจิจะหลับตา แต่ทุกๆ การกระทำของเย่เทียนกลับแสดงอยู่ในหัวเขา และในใจของเขาก็รู้ดี นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะโจมตีใส่เย่เทียน!
แต่ไม่รู้ทำไม เขากลับรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย และเพราะความรู้สึกแบบนี้จึงทำให้ใจของเขาเริ่มวุ่นวายขึ้นมา
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขาสับสน ลังเลอย่างถึงที่สุด
มันไม่ใช่สิ่งที่นินจาคนหนึ่งควรมีเลย และมันก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขายังไม่ลงมือ
เดิมเขาก็เป็นนินจาที่มีฝีมืออยู่แล้ว และความรอบคอบก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาสามารถอยู่รอดมาถึงตอนนี้ เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด การกระทำของเย่เทียนมันดูสมบูรณ์แบบเกินไป สมบูรณ์แบบจนรู้สึกว่ามันไม่จริง
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ลงมือ เย่เทียนรู้ว่าเสียเวลาต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงได้หาวแล้วเดินเข้าไปในห้อง
และในตอนที่เขาหาวนั้นเอง ดวงตาของยูมะ ฟุคุจิก็ได้เปิดออก นิ้วที่วางอยู่ตรงโกร่งดาบก็ดีดออกไปทันที
“ตัง!”
ประกายดาบเส้นหนึ่งพุงไปที่เอวของเย่เทียน รวดเร็วราวกับสายฟ้า!
เย่เทียนประมาท เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าโอกาสที่ดีขนาดนั้นยูมะ ฟุคุจิกลับไม่ลงมือ แต่เลือกที่จะลงมือตอนนี้ และเขาก็อดที่จะรู้สึกนับถือการตัดสินใจของยูมะ ฟุคุจิไม่ได้ เพราะเมื่อกี้เขาไม่ทันได้ระวังตัว!
ไม่ได้ระวังตัวแบบจริงๆ มันถึงเปิดโอกาสให้ยูมะ ฟุคุจิได้โจมตี!
หลังจากที่ยูมะ ฟุคุจิชักดาบออกก็ไม่ได้หันไปมองอีก เขาได้สลายกลายเป็นกลุ่มควันแล้วหายเข้าไปในป่าที่อยู่ข้างๆ ในความคิดของเขา เย่เทียนได้ตายไปแล้ว! การเปิดช่องโหว่เมื่อกี้ เย่เทียนไม่มีทางหลบการโจมตีของเขาได้แน่! เขามั่นใจพอ!
แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักทันที เพราะตรงหน้าเย่เทียนยิ้มแป้นและมองมาที่เขา!
“นี่นะเหรอวิชาลอบสังหาร? ก็ไม่เท่าไหร่นี่!” เย่เทียนพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ให้เกียรติ แต่แผลตรงเอวก็ยังทรยศเขาอยู่ดี
การโจมตีครั้งนั้นของยูมะ ฟุคุจิร้ายกาจจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะฝึกฝนอย่างยากลำบากกับท่านจ้าวมาเป็นเวลานาน เย่เทียนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองต้องเสียท่าให้กับการโจมตีนี้อย่างแน่นอน! แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อเทียบกับการโจมตีที่ราวกับปีศาจของท่านจ้าว การลอบสังหารแบบนีก็ยังไม่เท่าไหร่!
ยูมะ ฟุคุจิรู้ดีว่างานในวันนี้ไม่ได้ง่ายแล้ว สายตามองไปยังแผลที่อยู่ตรงเอวของเย่เทียน รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลงทันที โอ้วแม่เจ้า หมอนี่ยังเป็นคนอยู่รึเปล่าเนี่ย!
เมื่อกี้ตอนที่เย่เทียนปรากฏตัวแผลยังปริออกเหมือนปากของเด็กทารกอยู่เลย ในเวลาแค่นี้ แผลนั่นกลับสมานเข้าด้วยกันแล้ว!
ไม่ใช่ว่ายูมะ ฟุคุจิไม่เคยลงมือกับยอดมนุษย์ที่ร่างกายแข็งแกร่งมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เจอคนที่ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วเหมือนเย่เทียนแล้วจะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง?
ยูมะ ฟุคุจิไม่พูดไม่จา แค่ก้าวไปข้างหลังเบาๆ หนึ่งก้าว ตั้งท่าเหมือนจะโจมตี
“โอ้ว? มีท่าอื่นด้วย? มามามา ช่วยชี้แนะด้วย!” เย่เทียนยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่สายตาที่นิ่งสงบนั่นกลับทำให้ ยูมะ ฟุคุจิรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา
หึหึ สำหรับนินจานั้น ถ้าพลาดแล้วก็ไม่มีทางสู้กันตรงๆ แน่นอน! ความมืดสิที่เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา การไปสู้กับคนอื่นตรงๆ ก็เท่ากับไปตายชัดๆ!
แอบขำอยู่ในใจ ยูมะ ฟุคุจิก็ขยับแล้ว ทันทีที่ดีดนิ้ว ประกายดาบก็พุ่งออกมา
“ท่าที่เคยใช้แล้วยังมีหน้ามาใช้ซ้ำอีก?” เย่เทียนสบถออกมา เอี้ยวตัวหลบออก ช่วยไม่ได้ ด้วยฝีมือระดับเย่เทียนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขามันก็มีแต่ได้เปรียบเท่านั้น
ว่ากันตามตรง การที่ยูมะ ฟุคุจิสามารถทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้เย่เทียนก็รู้สึกตกใจมากแล้ว
“ฟู่!”
แต่การโจมตีเมื่อกี้เป็นแค่คาถาลวงตาของยูมะ ฟุคุจิเท่านั้น เขาตัดสินใจที่จะหนีตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าเย่เทียนจะตอบสนองยังไงก็ไม่มีทางหยุดเขาได้!
ควันกลุ่มหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้ายูมะ ฟุคุจิ การหลบหนีของคนน่ารังเกียจแบบนี้ต่อให้เป็นเย่เทียนก็ยังปวดหัว
แต่ยูมะ ฟุคุจิกลับลืมเรื่องบางอย่างไป
ที่นี่ไม่ใช่ที่พักของเย่เทียน ในห้องยังมีนานโกะอยู่ด้วยนะ!
นานาโกะไม่รู้จักยูมะ ฟุคุจิ ด้วยฐานะของเธอจึงไม่มีทางรู้จักกับคนระดับล่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในเงามืด แต่ในเมื่ออีกฝ่ายมาแล้วก็ต้องเตรียมใจที่จะอยู่ต่อ
ประเด็นคือเธออยากหาใครสักคนมาพิสูจน์ว่าท่านางแอ่นย้อนกลับของเธอมันไม่ได้เรื่องจริงๆ รึเปล่า!
ตรงสุดขอบของป่า นานาโกะได้โจมตีออกมาอย่างกะทันหัน ร่างกายแยกเป็นสามร่าง แล้วเคลื่อนที่อยู่ในป่า เป็นการเคลื่อนไหวที่เร็วมาก
“ตัง!”
นานาโกะโจมตีแล้ว แต่เมื่อดาบซามูไรถูกชักออกจากฝัก นานาโกะก็หยุดเคลื่อนที่ และมีคาบเลือดเกาะอยู่ที่ปลายดาบ
“เฮอเฮอ…”
ร่างของใครบางคนค่อยๆ ปรากฏออกมา แววตาของยูมะ ฟุคุจิเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ตอนที่เขาอยากจะพูดกลับรู้สึกว่าไม่มีเสียงอะไรถูกเปล่งออกมา ทำได้แค่ล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
ในที่สุดนานาโกะก็สามารถยืนยันว่านางแอ่นย้อนกลับของตัวเองได้แล้ว แต่แบบนี้มันกลับทำให้เธอยิ่งหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
ไม่ใช่ว่าท่านางแอ่นย้อนกลับของเธอมีปัญหา แต่เป็นเพราะเย่เทียนแข็งแกร่งเกินไป! แต่พอคิดว่าคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยังเสียท่าให้ยูมะ ฟุคุจิ เธอค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
อย่างว่า ความสุขนั้นเกิดขึ้นบนความทุกข์ของคนอื่นจริงๆ
“ดูท่าครั้งนี้กานโนเซน นากะต้องสติแตกจริงๆ แล้ว!” พูดจบเย่เทียนก็ก้มลงไปค้นตัวของยูมะ ฟุคุจิ สำหรับนักฆ่าพวกนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดมักจะพกติดตัวไว้ตลอด ไม่มีทางเก็บไว้ที่อื่นแน่นอน
ไม่นานจดหมายลับฉบับหนึ่งก็ถูกค้นออกมา ถึงในนั้นจะเขียนด้วยภาษาหยิงแต่เย่เทียนก็หาความผิดปกติไม่เจอ เหมือนเป็นแค่จดหมายทักทายตามมารยาทเท่านั้น
แต่จดหมายธรรมดาแบบนี้มาอยู่ในตัวยูมะ ฟุคุจิมันเป็นส่ิงที่ไม่ธรรมดาที่สุดแล้ว!
นานาโกะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลยสักนิด เธอสนใจแค่ดาบของเธอเท่านั้น ถึงตอนนี้นางแอ่นย้อนกลับของเธอจะทำอะไรเย่เทียนไม่ค่อยได้ แต่เธอเชื่อว่าต่อไปต้องทำให้เย่เทียนตึงมีได้แน่นอน!
นี่แหละคือเป้าหมายในการต่อสู้ของเธอ เมื่อมีเป้าหมายในการต่อสู้ นานาโกะก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!
เย่เทียนไม่ได้อยู่ต่อนาน เขาได้ส่งจดหมายไปให้หัวหน้าทีม การวิเคราะห์ข้อมูลเย่เทียนก็ไม่ถนัด เรื่องของมืออาชีพก็ปล่อยให้มืออาชีพทำจะดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่