เย่เทียนรู้สึกได้ถึงพลังปราณไหลเวียนอยู่ในร่างกาย อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เห็นหน้าที่ทำเป็นเต็มไปด้วยหัวเราะที่สะใจ ปีศาจเลือดมีการคิดนึกอยู่อย่างเดียว นั่นก็คือจะขยี้เย่เทียนให้แหลกไปคามือ!
“ตายซะ!” ปีศาจเลือดคำรามในลำคอ ติดตามด้วยพากระบี่ที่ทอประกายแสงแดงจ้าจนแสบตาพุ่งแทงใส่ลำตัวเย่เทียน
ถ้าการจู่โจมครั้งนี้เข้าถึงเป้า นั่นหมายถึงเย่เทียนหมดสิทธิ์ที่จะมีชีวิตแน่นอน!
คนมุงกันดูการต่อสู้กันอยู่ก็มีไม่น้อย ต่างก็ลุ้นดูภาพสยดสยองกันจนเหงื่อหยด มีแต่ท่านจ้าวที่มองเห็นตัวของเย่เทียนชักกระตุกอยู่สองสามทีก็พูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “ดูท่าจะเพิ่งเข้าถึงสภาวะสุดยอด สมแล้วจริง ๆ ที่มีเนื้อตัวพิสดาร!”
เจ้าสำนักของสำนักหมอเทพมีความมั่นใจมากในยาสูตรลับเฉพาะของเขาเอง เมื่อได้รู้ถึงมีการกระตุ้นการใช้งานของผู้สืบทอดของท่านจ้าวแล้ว เขามองไปที่ปีศาจเลือดด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสมเพช
“ใช่เรอะ?” เย่เทียนทำเสียงฮึเบา ๆ ตามด้วยเงาร่างหายแวบไป ทำให้แรงอันหนักหน่วงของการแทงกระบี่ลงไปของปีศาจเลือดต้องเจอกับความว่างเปล่า
"สวบ!"
ปฏิกิริยาแทบจะไวเท่าความคิด ปีศาจเลือดจัดการกับปีกที่หลังของตัวเองให้โอบห่อหุ้มตัวของเขาเข้าแน่นเข้ามา แต่เขายังคงประเมินแรงขาของเย่เทียนต่ำไป
“ปึง!”
ปีศาจเลือดถูกเตะกลิ้งกระดอนออกไป เหมือนลูกหนังอัดติดแน่นบนผิวก้อนหินก้อนหนึ่งที่เห็นกองอยู่ทั่วไป
“เมื่อกี้แกอัดเอาซะมันมือมากเลยนะ!” เย่เทียนแสยะยิ้มเดินเข้าไปหาปีศาจเลือด แล้วยื่นมือออกไปคว้าจับข้อเท้าของปีศาจเลือด ปีศาจเลือดพยายามดิ้นแต่ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด
ปีศาจเลือดมาถึงขณะนี้ก็ได้ใช้พลังเกินไปขนาดหนัก จึงเมื่อเจอเย่เทียนที่กำลังคึกคักฮึกเหิมพลังเต็ม ปีศาจเลือดหมดปัญญาแม้จะดิ้นต่อต้านยังไม่ไหว!
“ตอนนี้สะใจไม่ไหวแล้วมั้ง?” เย่เทียนใช้มือเพียงข้างเดียวจับข้อเท้าปีศาจเลือด วาดควงแขนออกไป ดูเหมือนปีศาจเลือดที่อยู่ในมือเป็นเศษผ้าผืนหนึ่ง กวาดใส่พื้นเสียงดังครืน ๆ จนพื้นเกิดเป็นหลุมใหญ่เป็นหลุม ๆ
คนมุงกันดูการต่อสู้กันอยู่ก็มีไม่น้อย เหล่าบรรดายอดมนุษย์อเมริกัน กลุ่มคนไร้ปรานีอีกทั้งพวกกลุ่มจัดตั้งต่างก็หลบมุมแอบไปข้าง ๆ เห็นภาพที่เป็นอยู่ทำเอาหลายคนตื่นเต้นจนลูกตาจะถลนออกนอกเบ้า
ในใจที่พวกเขาคิดอยู่ในตอนนั้นว่าเย่เทียนน่าจะเป็นคนที่ตายคนนั้นถึงถูก แต่ใครจะไปคิดว่าไอ้คนที่หายใจกำลังจะขาด ดูแล้วจะต้องถูกขยี้แหลกตายคามือปีศาจเลือดคนนั้นกลับพลิกฟื้นคืนพลังคึกคักฮึกเหิมขึ้นมา
พูดถึงพวกกลุ่มยอดมนุษย์ที่ถนัดการต่อสู้แบบประชิดตัวนั้น การต่อสู้ของเย่เทียนกับปีศาจเลือดที่ผ่านมาก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้นกันตาแทบระเบิด ทำเอาพวกเขารู้สึกถึงอารมณ์ดุเดือดที่เลือดพล่าน
การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายนั้นต้องว่าเป็นการแลกกันด้วยเลือดเนื้อระดับสุดยอดกันเลยทีเดียว!
แต่แค่เพียงพลิกตัวก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างหักมุมชนิดไม่มีใครคิดได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ได้แต่อ้าปากตาค้างมองเย่เทียนแสดงอานุภาพ
เจ้าปีศาจเลือดหนอ หลายครั้งที่ออกพลังประหนึ่งสายฟ้าฟาดจู่โจมใส่คู่ต่อสู้ กระทั่งดูเห็น ๆ ว่าคู่ต่อสู้ไม่มีแววที่สู้แม้แต่จะต้านรับยังไม่มี!
แต่ไอ้ตัวที่ดูผอมแห้งไม่เห็นว่าจะมีแรงพลังอะไรนั่นเป็นไง?ไม่เพียงรับมือกับปีศาจเลือดแบบซึ่ง ๆ หน้า ที่สำคัญเขากลับเอาชนะมาได้!ส่วนเจ้าปีศาจเลือดที่ใคร ๆ แค่ได้ยินชื่อก็หน้าถอดสีนั้นตอนนี้กลับเหมือนเศษผ้าผืนที่ถูกจับโบกสะบัดเล่น ทุเรศ สุดจะทุเรศจริง ๆ !
เย่เทียนก็ได้ระบายความคับแค้นในใจออกได้หมดในที่สุด กู่ก้องเสียงกังวานอย่างดัง เหวี่ยงปีศาจเลือดในมือขว้างไกลออกไป กระแทกตกลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง ขนาดยุบลงเป็นหลุมใหญ่
เห็นสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ที่วางมาดเป็นผู้เหนือชั้นยืนอยู่บนยอดเขาหลายท่านนั้นกระดกมุมปากกันดุกดิก
เจ้าสำนักแห่งสำนักหมอเทพเกิดรู้สึกมีอะไรผิดปกติขึ้นมาในใจ มองตาท่านจ้าวถามไปว่า “ท่านจ้าว ของที่ข้าให้ท่านไปนั่นมันไม่น่าจะโหดถึงขนาดนี้นี่นา!”
โหด!ใช่ ก็ตัวนี้แหละ วิถีหลักของสำนักหมอเทพนอกจากเคล็ดวิชาลับบางอย่างแล้วล้วนแต่เน้นด้านอ่อนโยน มีที่ไหนจะเป็นความดุดันอย่างที่เย่เทียนแสดงออกแบบนี้?
“อ๋อ ข้ากลัวว่าฤทธิ์ยานั้นอ่อนไปเลยเติมอะไรบางอย่างของข้าลงไป!” ท่านจ้าวยิ้มแหย ๆ พูดออกไปคำหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่