ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1138

สรุปบท บทที่ 1138 ลอบสังหาร: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 1138 ลอบสังหาร – ตอนที่ต้องอ่านของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ตอนนี้ของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1138 ลอบสังหาร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เย่เทียนเดินจากไปด้วยความสง่า และไม่มีคนของตระกูลสวีกล้าขัดขวาง

หวางยี่ซานจับหน้าอกตนเอง มองแผ่นหลังของเย่เทียนด้วยใบหน้าที่มืดมน แต่เขาก็ยังไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าตนเองพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช

เมืองเจียงหนันเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เท่านั้น นักบู๊ระดับดำอย่างเขาไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในประเทศ ซึ่งมีพลังเพียงพอที่จะสยบผู้มีอิทธิพลของสถานที่นั้นได้ แต่เขากลับพ่ายแพ้ให้อีกฝ่ายอย่างง่ายดาย?

แล้วเขาจะไม่รู้สึกโกรธได้อย่างไร!

ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีกระบวนท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้ แต่เมื่อเทียบกับท่าทางที่สบายของเย่เทียนแล้ว ถึงแม้เขาพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่มันแล้วไงล่ะ?

สิ่งสำคัญที่สุดคือคราวนี้สินค้าของตระกูลสวีจะเสียหายไม่ได้ และเมื่อนึกถึงเวลาที่เย่ซาปรากฏตัวออกมา ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

“เถ้าแก่สวี ผมจะให้สำนักส่งผู้อาวุโสมาที่นี่ คุณต้องหาคนคอยจับตาเย่ซา! บางทีนี่อาจเป็นเบาะแสที่มีประโยชน์มากสำหรับพวกเรา”

หวางยี่ซานหันไปมองสวีหลินหยุน

สวีหลินหยุนเบ้ปากอยู่ในใจ ตอนแรกคิดว่าคุณมีความสามารถ แต่ตอนนี้มองแล้วมันก็แค่นั้น! แต่ความกังวลของหวางยี่ซานนั้นสมเหตุสมผล

“ทำตามที่ปรมาจารย์หวางบอก ผมจะส่งคนไปจับตาเย่ซา หากมีสถานการณ์พิเศษใด ผมจะส่งคนไปรายงานทันที!”

“ดีมาก! พวกเรารู้ถึงความทุ่มเทของเถ้าแก่สวี คราวนี้การที่คุณชายสวีประสบความล้มเหลวก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย สำนักได้ตัดสินใจรับคุณชายสวีเป็นสมาชิกเป็นพิเศษแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นคุณชายสวีจะต้องเก่งขึ้นอย่างแน่นอน ตระกูลสวีจะได้มีพลังอำนาจมากยิ่งขึ้น!”

เมื่อเทียบกับปรมาจารย์หลี่ที่ชอบแสร้งทำเป็นเย่อหยิ่งแล้ว การที่หวางยี่ซานสามารถมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่ได้มาโดยเปล่า ๆ

หลังจากได้ยินคำพูดพวกนี้แล้ว ทำให้ความไม่พอใจของสวีหลินหยุนหายไปทันที

ยิ่งรู้มาก ก็จะรู้สึกว่าตนเองต้อยต่ำมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

ตระกูลสวีพยายามเลียแข้งเลียขาพวกเขา และได้เคยถูกเหยียดหยามมากมาย ถึงมีวันนี้ได้ แต่ถ้าตระกูลสวีแข็งแกร่งด้วยตนเอง แล้วมันจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

แต่ทุกอย่างล้วนคุ้มค่า!

หากสวีย่าสามารถเป็นสมาชิกของสำนักตงหัวได้ ตระกูลสวีจะมีโอกาสพลิกฟื้น สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นเงื่อนไขที่เขาไม่ปฏิเสธอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นเขาจึงพยายามทำงานให้สำนักตงหัวอย่างเต็มที่

หลังจากเย่เทียนออกจากตระกูลสวีแล้ว เขาจำได้ว่าตนเองลืมขอให้พวกเขาเตรียมรถไปส่งตนเอง

“ถ้ารู้แต่แรกก็จะขอเพิ่มอีกสามถึงห้าล้านก็ดี แต่โชคดีที่วันนี้อากาศดี และทิวทัศน์ก็สวยงามจริง ๆ!”

ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเชี่ยวชาญคัมภีร์หวงมากขึ้นเรื่อย ๆ งานอดิเรกของเย่เทียนก็ได้รับอิทธิพลเช่นกัน เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เขาชอบชีวิตที่เป็นธรรมชาติมากกว่า

โดยเฉพาะวิลล่าของตระกูลสวีนั้นเป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในเมืองเจียงหนัน ถนนเส้นนี้ทิวทัศน์งดงาม มีเสียงนกร้องและดอกไม้บานมากมาย

“โอ๊ย!”

ขณะที่เย่เทียนกำลังเดินชมวิวอย่างสบาย ๆ มีเสียงดังมาจากด้านหน้า

จากนั้นเขาก็เห็นผู้หญิงหุ่นเซ็กซี่ล้มอยู่ข้างถนน สีหน้าเศร้าสร้อยและน้ำตาคลอ ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก

“คุณผู้หญิง มีอะไรให้ช่วยไหม?” ดวงตาของเย่เทียนเป็นประกาย การชื่นชมความงามนั้นเป็นพื้นฐานของคน! มันเป็นเรื่องปกติ

“ฉันเท้าแพลง รบกวนคุณช่วยพยุงฉันหน่อยได้ไหม?” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แล้วยื่นมือไปหาเย่เทียน

เย่เทียนไม่ปฏิเสธ จับแขนของอีกฝ่ายทันที แต่ขณะที่สัมผัสกัน แสงประกายเข้ามาในดวงตาของเขา

“ขอบคุณค่ะ!” ผู้หญิงคนนั้นยืนขึ้นและขอบคุณอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากเดินไปหนึ่งก้าว เธอก็ส่งเสียงร้องอีกครั้ง และพุ่งตรงไปหาเย่เทียน

“คุณผู้หญิง ขึ้นมาบนภูเขายังสวมรองเท้าส้นสูงอีก ทำให้ผมรู้สึกชื่นชมจริง ๆ! สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ควรพกอาวุธมีดพวกนี้ติดตัวมาด้วย!”

“อะไรน่ะ?”

เมื่อได้ยินการหยอกล้อของเย่เทียนแล้ว สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เธอต้องการถึงแขนของตนเองกลับมา แต่พบว่าถูกมือของเย่เทียนจบไว้แน่นราวกับห่วงเหล็ก ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถดึงกลับมาได้

ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งมาก!

หญิงสาวรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่เธอไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น เธอบิดร่างกายและโจมตีร่างกายส่วนล่างของเย่เทียนจากมุมที่แปลกมาก

“โอ้ ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง!” ดวงตาของเย่เทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ซู่ ๆ ๆ!”

ยังไม่จบแค่นี้ ลูกดอกพุ่งออกมาจากป่าข้าง ๆ สามดอก หลังจากเย่เทียนหลบเลี่ยง เขารู้สึกถึงลมแรงพัดมาจากด้านหลังศีรษะ

“รนหาที่ตาย!”

สีหน้าของเย่เทียนเคร่งขรึม เขาบิดร่างกายอย่างกะทันหัน จากนั้นแขนของเขาก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พลังชี่แท้ไหลเวียน ทำให้แขนของเขาแข็งแรงราวกับเหล็ก

“ติง!”

“อะไรกันนี่?”

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้คาดหวังว่าเย่เทียนจะสามารถรับการโจมตีที่รุนแรงของตนเองได้ ทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยพร้อมประหลาดใจ

“ที่แท้เป็นคุณนี่เอง!” เย่เทียนจำอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว เป็นคนตงอิ๋งที่ปรากฏตัวตอนที่เขาไปตรวจสอบตระกูลสวีตอนกลางดึก!

ให้ตายเถอะ! ผู้ชายคนนี้ยั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่า เขาคิดว่าตนเองไม่มีทางจัดการกับเขาได้จริง ๆหรือ!

“ฮึ่ม! มีความสามารถนี่ แต่คุณเป็นคนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น มีจุดจบเดียวเท่านั้น นั่นคือความตาย!”

“ตาย?” เย่เทียนรู้สึกโกรธอยู่ในใจ การคุกคามจากอีกฝ่ายทำให้เขาโกรธมาก เรื่องการลอบโจมตีสำเร็จนั้นช่างเถอะ ตอนนี้มาคุยโวโอ้อวดอยู่หน้าตนเอง ใครให้ความกล้าแก่คุณ?

ทันใดนั้น มือของเขากลายเป็นกรงเล็บ และจับไปที่หน้าอกของอีกฝ่ายทันที

“ไสหัวออกไป!” คนตงอิ๋งตะโกนด้วยความโมโห ยกดาบซามูไรขึ้นมา พยายามบีบบังคับให้เย่เทียนถอยออกไป

แต่เย่เทียนไม่ถอย กลับเดินไปข้างหน้า แล้วใช้มืออีกข้างดีดดาบซามูไรเบา ๆ

ดาบซามูไรซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ และขณะที่อีกฝ่ายกำลังตกตะลึง กรงเล็บของเย่เทียนนั้นจับถูกหน้าอกของอีกฝ่ายแล้ว

“เพลี้ยง ๆ”

ปฏิกิริยาตอบสนองของคนตงอิ๋งนั้นรวดเร็วมาก เธอถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว เธอขว้างระเบิดควันออกมาหลายลูก แล้วหลบหนีไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่