ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1191

สรุปบท บทที่ 1191 สือเหรินปรากฏตัว: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

อ่านสรุป บทที่ 1191 สือเหรินปรากฏตัว จาก ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight

บทที่ บทที่ 1191 สือเหรินปรากฏตัว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Light-Knight อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

คำสั่งที่เย่อหยิ่งของเหอซู่ฮวายิ่งได้ทำให้เย่เทียนไม่มีความสุขมากขึ้นไปอีก

ไอ้บ้าเอ๊ย แม้ว่าการช่วยชีวิตของกูจะเป็นเพียงเรื่องผ่านๆ และตอนนี้ได้พบกันแล้วก็ยิ่งเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย แต่มึงจะมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งกับกู?

ใบหน้าของเย่เทียนเย็นชา และเขากระชับฝ่ามือ

“อะแฮ่ม!”

ตาเฒ่าหวงไอออกมาอย่างรุนแรง และข้างๆ เหอซู่ฮวาก็ถูกล้อมรอบด้วยชายหนุ่มที่แข็งแกร่งหลายคน “ศาสตราจารย์เหอ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

หลังจากที่ได้เห็นเย่เทียน คนพวกนี้ก็ดูเต็มไปด้วยความตื่นตัวและไม่เป็นมิตร

เย่เทียนเหลือบมองทั้งสองคนนี้ “คนของจั้นหวู่งั้นเหรอ?”

“อืม? เจ้าเป็นใคร?”

เย่เทียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ปล่อยมือ และผลักตัวตาเฒ่าหวงออกไปโดยตรง

จากนั้นถึงตอบว่า “เย่เทียน!”

เพียงแต่คำพูดของเยย่เทียนไม่ได้ทำให้พวกเขาผ่อนคลายความระมัดระวังลง แต่กลับมองเย่เทียนขึ้นลงด้วยสายตาที่ถี่ถ้วนมากขึ้น

หนึ่งในนั้นถึงกับเย้ยหยัน “ไม่รู้จัก! เพื่อป้องกันเจ้าจะเป็นสายลับ ตอนนี้เจ้าถูกจับกุมตัวแล้ว!”

“จับกุมฉันงั้นเหรอ?”

เย่เทียนหัวเราะขึ้นมา

ยังไม่ต้องพูดถึงความสงสัยที่เต็มหัวยังไม่ได้รับความชัดเจน เพียงแค่น้ำเสียงที่เย่อหยิ่งของอีกฝ่ายก็ได้ทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นอย่างยิ่ง!

อย่าพูดถึงพวกเขาเลย แม้แต่เฟิงเจิ้นเหอก็ไม่กล้าพูดกับเขาแบบนี้!

“งั้นเราก็มาประลองกันเลย!”

ทั้งสองมองหน้ากัน และตะโกนอย่างโกรธจัด “ลงมือ!”

ต้องบอกว่า คนที่สามารถเป็นคนของจั้นหวู่ได้นั้น ฝีมือยังคงไม่เลวเช่นกัน แต่ต่อหน้าเย่เทียนนั้นไม่ถือเป็นอะไรเลย

ต่อสู้กันเพียงสามรอบ ชายสองคนนี้ที่ยังเต็มไปด้วยความเยือกเย็นในตอนเมื่อกี้นี้ก็ได้ตกอยู่ฝั่งแพ้โดยสิ้นเชิง และในที่สุดพวกก็ถูกเย่เทียนเคาะล้มลงและโยนทิ้งไปข้างหนึ่ง

“บังอาจ! กล้าดียังไงถึงกล้าลงมือต่อเจ้าหน้าที่!”

“ถ้าฉันเป็นเจ้า ฉันจะรีบหุบปากในทันที!” เย่เทียนเหลือบมองเหอซู่ฮวาอย่างรังเกียจ ผู้หญิงคนนี้อกใหญ่แต่ไร้สมองจริงๆ! แม้แต่เรื่องง่ายๆ แบบนี้ก็ยังไม่มองไม่ออกเลยเหรอ? คิดจริงๆ เหรอว่าจะอาศัยตัวตนที่เรียกว่าก็จะสามารถยืนหยัดได้หรือ?

“เจ้า!” เหอซู่ฮวาจ้องไปที่เย่เทียนด้วยความโกรธ

“ฉันกำลังถามเจ้าอยู่ว่า ตาเฒ่าหวงคนนี้คือใคร? มันเกิดอะไรขึ้นอยู่ที่นี่กันแน่!”

“ทำไมฉันต้องบอกเจ้าด้วย” เหอซู่ฮวาจ้องไปที่เย่เทียนอย่างโกรธจัด

“เพราะเจ้าไม่มีทางเลือก!”

บนใบหน้าของเย่เทียนฉายแววเย้ยหยัน “เจ้าจะพูดเอง หรือจะให้ฉันบังคับให้เจ้าพูด! เจ้าเลือกเอาเอง!”

เดิมทีจ้าวเทียนฉีอยากจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ฟู่เซิ่งหนานที่อยู่ข้างๆ ดึงเสื้อผ้าของเธอ จ้าวเทียนฉีจึงทำได้เพียงทำหน้ามุ่ยและไม่พูด

เหอซู่ฮวาอยากจะต่อสู้จนถึงที่สุด แต่เมื่อเขาพบกับสายตาอันเย็นเยียบของเย่เทียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

สัญชาตญาณบอกเธอว่า สิ่งที่เย่เทียนพูดนั้นเป็นความจริง!

หากเธอไม่ให้ความร่วมมือเรื่องเลวร้ายอาจเกิดขึ้นได้!

“โอเค! ฉันจะพูด! ตาเฒ่าหวงผู้นี้เป็นผู้ปกครองประจำอยู่ที่นี่ ตอนที่เรามาถึงเราก็ได้มีการต่อสู้อย่างดุเดือดกับตาเฒ่าหวง แต่แล้วเราก็พบวิธีที่จะเข้าสู่เมืองในส่วนลึกของทะเลทราย และตาเฒ่าหวงก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของเรา”

“อย่างกที่ว่าพวกเจ้าก็ยังไม่ได้เข้าไปในเมืองส่วนลึกเหรอ?”

“มันจะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร! แม้ว่าพวกเราจะค้นพบวิธีการเข้าไปแล้ว แต่ไม่ว่าพวกเราจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถเข้าไปได้!”

หลังจากพูดจบในดวงตาของเหอซู่ฮวาก็เป็นประกายด้วยความกระตือรือร้น “เจ้ารู้ไหมว่าเราพบอะไรอยู่ในช่องทางนั้น? ชี่ทิพย์! ชี่ทิพย์ที่อุดมสมบูรณ์!”

รูม่านตาของเย่เทียนหดตัวลงทันที เป็นไปได้ไหมว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์ในส่วนลึกของทะเลทรายนั้นเป็นพรจากพลังอันยิ่งใหญ่?

นี่มันเป็นไปได้อย่างยิ่ง!

แต่เดิมเย่เทียนก็ได้ฝึกฝนคัมภีร์หวงมาก่อน และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงชี่ทิพย์

“สือเหรินเหรอ?”

เย่เทียนไม่ได้มองไปที่หลี่โปและคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ แต่กลับมองไปยังชายวัยกลางคนตัวเตี้ยด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น

“เย่เทียน?” เสียงของสือเหรินต่ำมาก “สามารถทำให้องค์ราคะแห่งยมโลต้องเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ขนาดนั้นได้ เจ้าแข็งแกร่งมาก!”

“ที่ได้รับคำชมจากเจ้า ฉันควรรู้สึกได้รับเกียรติหรือไม่” เย่เทียนยักไหล่เบาๆ

“อามิตตาพุทธ โยมเย่ ไม่เจอกันนานสบายดีไหม!”

อาจารย์อมิตาภะปรากฏกายข้างสือเหรินด้วยรอยยิ้ม

“ดูเหมือนว่าท่านปรมาจารย์ได้คาดเดาถึงฉากนี้มานานแล้ว! เพียงแต่ฉันแค่สงสัยว่า ท่านก็เป็นคนของแก๊งหย่งเย่ด้วยเหรอ?”

“ความมืดมิดจะปกคลุมโลกในที่สุด! เย่เทียน ในองค์กรเห็นชอบเจ้าอย่างยิ่ง หากเจ้ายินยอมที่จะเข้าร่วมกับแก๊งหย่งเย่ เรื่องที่เคยผ่านมาทั้งหมดจะถูกล้มเลิกทั้งหมดเป็นอย่างไร?” อาจารย์อมิตาภะชักชวนเย่เทียนอย่างจริงใจขึ้นมา

“ล้มเลิกทั้งหมดงั้นเหรอ?”

มุมปากของเย่เทียนยกขึ้นเป็นส่วนโค้ง “ท่านหักหลังฉันอยู่ในสันตะปาปาอย่างหนัก และตอนนี้ก็ล่อลวงฉันมาที่นี่อีกครั้ง แล้วมาบอกให้ฉันล้มเลิกทั้งหมด? คนของแก๊งหย่งเย่ของพวกเจ้าช่างคิดดีจริงๆ เลย!”

“ไอ้เวรเอ๊ย!”

เย่เทียนด่าอย่างโกรธเคือง และหลังจากด่าประโยคนี้ออกมาก็มีความรู้สึกได้ปลดปล่อยความอึดอัดในใจออกมา และจิตของเขาก็รู้สบายใจมากขึ้นในทันที

“เย่เทียน ทำไมเจ้าถึงดื้อรั้นขนาดนี้นัก? แก๊งหย่งเย่ถึงเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกนี้ที่เราสามารถฝ่าฟันไปได้ หรือว่าเจ้าจะทนความเหงาที่ติดอยู่ในอาณาจักรนี้ไปชั่วชีวิตได้จริงหรือ?”

สือเหรินถอนหายใจยาว “สิ่งที่เราจะต้องทำคือทะลวงขีดจำกัด ส่วนชีวิตและความตายของคนธรรมดา เจ้าจะไปสนใจทำไม? มาถึงระดับเหมือนเรา หรือว่าพวกเรายังไม่ถือเป็นมนุษย์ที่แท้จริงอีกหรือ?”

บนใบหน้าของสือเหรินมีแววบ้าระห่ำเลื่อนผ่าน

“ไม่! เราไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่เป็นเทพพระเจ้า! เทพเจ้าในตำนาน!”

“มันบ้าไปแล้วจริงๆ!” เย่เทียนส่ายหัว จากนั้นก็มองไปที่อาจารย์อมิตาภะ “ตอนนี้ฉันแค่สงสัยว่า ดอกบัวทองทะเลทรายมีอยู่จริงหรือ?”

“แน่นอน!” อาจารย์อมิตาภะพยักหน้าอย่างแรง “เพียงแค่ว่าสิ่งที่เฟิงเจิ้นเหอ

เคยเห็นนั้นเป็นของปลอม ดอกบัวทองทะเลทรายที่แท้จริงอยู่ที่นั่น!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่