ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1205

อาหารมื้อนี้คนอื่นกินแล้วเป็นยังไงเย่เทียนไม่ชัดเจน แต่ที่เขากินนั้นเรียกว่าความทรมาน

โดยเฉพาะเหลียงเยว่หรูที่นั่งตรงข้าม คอยเงยหน้ามองเขาอยู่บ่อยๆ แม้แต่คนโง่ก็ยังสามารถดูออกว่ามีปัญหา แต่เฉินหวั่นชิงที่นั่งอยู่ข้างๆเขากลับแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น

ในความเป็นจริงกลับใช้มือที่ทรงพลังบีบหน้าท้องของเย่เทียน……

“เอ่อ! หัวหน้าซ่าน ขอบคุณคุณมากจริงๆ!”

เย่เทียนจับมือซ่านหงเลี่ยงอย่างจริงใจ

ดวงตาที่แดงก่ำของซ่านหงเลี่ยงเบิกกว้าง ใบหน้าของเขามึนงง

“อะแฮ่ม นายพลเฝิงกลับมาแล้ว และครั้งนี้การเดินทางไปทะเลทรายถ่ากันต้องขอบคุณคุณมาก!” ซ่านหงเลี่ยงรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างผิดปกติ เลยดึงมือตนเองกลับ

“นายพลเฝิงกลับมาแล้วเหรอ?” เย่เทียนตาเป็นประกาย เรื่องของโลกบู๊โบราญเขาได้ไหว้วานนายพลเฝิงช่วยตรวจสอบ บางทีคราวนี้อาจเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา?

พอคิดถึงความรู้สึกที่สามารถใช้ชี่แท้ได้ตามอำเภอใจ เย่เทียนก็รู้สึกคาดหวัง

รถขับเข้าไปภายในกองกำลังพิเศษ อย่างราบรื่น และเฝิงเจิ้นเหอก็รออยู่ที่หน้าประตูแล้ว

ว่าไปแล้วเฝิงเจิ้นเหอก็ถือได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโต และใช้ท่าทีแบบนี้ปฏิบัติต่อเย่เทียน พูดได้ว่าให้เกียรติเย่เทียนเต็มที่แล้ว

“นายพลเฝิง!”

“เย่เทียน มา เข้ามาคุยข้างใน!”

กลุ่มคนหัวเราะเหอเหอเดินเข้าไปในห้องทำงานของเฝิงเจิ้นเหอ

“เรื่องที่คุณให้ฉันสอบถามมีข่าวมาแล้ว อยู่นี่!” พูดจบเฝิงเจิ้นเหอยื่นข้อมูลเอกสารที่ปิดผนึกไว้ตรงหน้าไปให้เย่เทียน

เย่เทียนมองเขาอย่างสงสัย

“สำหรับเรื่องทางนู้นล้วนเป็นความลับสุดยอด แม้แต่ผมก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะตรวจสอบ” เฝิงเจิ้นเหอหัวเราะอย่างปีติยินดี

“แต่เพราะได้พึ่งใบบุญของคุณ หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป กองกำลังพิเศษของเราก็ได้ผลประโยชน์มากมายเช่นกัน!” เฝิงเจิ้นเหอรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อนึกถึงวัตถุที่ขุดพบในซากปรักหักพังของเมืองโบราณ

แน่นอนนี่ก็คือเรื่องที่ทำให้เขามีความรู้สึกดีๆต่อเย่เทียน

ตามด้วยจำนวนนักบู๊ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แรงกดดันต่อพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน และจากรายงานล่าสุดที่เผยแพร่โดยสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในประเทศจีน ชี่ทิพย์ก็ปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งนี้ทำให้ประเทศจีนเผชิญปัญหาที่รุนแรงยิ่งขึ้น นักบู๊จะควบคุมด้วยวิธีไหน

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เย่เทียนควรจะกังวล

เขากับกองทัพมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด อีกทั้งเรื่องส่วนใหญ่ที่เขาทำนั้นมุ่งเน้นไปที่ประเทศจีน ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้หากไม่ดึงมาเป็นพรรคพวก ถ้างั้นคนที่ตัดสินใจสมองอาจมีปัญหาจริงๆ

“ถ้างั้นผมก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!”

เย่เทียนเปิดกระเป๋าเอกสารต่อหน้าพวกเขา ข้างในเป็นกองเอกสารหนาๆ

เย่เทียนพลิกดูทันที ท้ายที่สุดพบข้อมูลที่มีประโยชน์เพียงแค่สองเรื่อง

โลกบู๊โบราญมีการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างลับๆ ทุกปีจะมีอัจฉริยะจำนวนมากจากโลกภายนอกถูกส่งไปยังโลกบู๊โบราญ แต่ใช้วิธีอะไรไม่ชัดเจน มีเกณฑ์การตัดสินยังไง ในข้อมูลเอกสารไม่ได้กล่าวถึง

และการคัดเลือกเส้นทางเข้าโลกบู๊โบราญอยู่ที่หุบเขามรณะในเขาคุนหลุน

นี่เป็นเพียงการคาดเดา แต่เย่เทียนก็คิดว่าความเป็นไปได้สูงมาก

และข้อมูลสำคัญอีกเรื่องทำให้เขาประหลาดใจมากกว่า

ซึ่งข้างบนนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นข่าวของโลกบู๊โบราญ แต่เป็นคำสั่งออกหมายนำจับเย่เทียน!

“ดูเหมือนว่าครั้งนี้คงล่วงเกินคนไปไม่น้อยจริงๆ!”

“ราชาพิษหลี่ซือ?” คนคนนี้เย่เทียนกลับไม่คุ้นเคยเลย อดไม่ได้ที่จะมองเฝิงเจิ้นเหอด้วยความสงสัย

ซ่านหงเลี่ยงหยิบเอกสารกองหนึ่งออกจากกระเป๋าถือของตนเอง

เดิมทีเขาต้องการเอาข้อมูลนี้ให้เย่เทียนดูตั้งแต่ตอนอยู่บนในรถแล้ว แต่พฤติกรรมที่ผิดปกติของเย่เทียนทำให้เขาสับสนเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงเก็บไว้จนถึงตอนนี้

ข้อมูลที่เปิดเป็นผู้ชายที่ดูเป็นคนที่น่านิยม

ธรรมดามากไม่มีอะไรน่าดึงดูด ถ้าต้องบอกว่ามีลักษณะพิเศษตรงไหนนั่นก็คือมีแววตาที่สว่างสดใส

“นี่น่าจะเป็นภาพปลอมนะ!”

เย่เทียนเพียงแค่เหลือบมองก็พูดอย่างเฉียบขาด

“เป็นไปไม่ได้! นี่คือผู้ต้องสงสัยที่กองกำลังพิเศษของเราใช้พละกำลังมากมายกว่าจะหามาได้ และมีเพียงตัวตนของเขาเท่านั้นที่น่าสงสัยที่สุด!” ซ่านหงเลี่ยงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

“สำหรับนักฆ่าแล้ว การปลอมตัวเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด สิ่งที่เขาแสดงออกมาเป็นเพียงรูปลักษณ์ที่เขาต้องการให้พวกคุณเห็นเท่านั้นเอง!”

เย่เทียนยักไหล่ จะพูดไปแล้วชาติก่อนเขาก็ถือได้ว่าเป็นนักฆ่าระดับขั้นเทพ เรื่องแบบนี้แค่มองเขาก็ดูออกแล้ว

“เฮ้อ!”

ซ่านหงเลี่ยงถอนหายใจ และส่ายหัว คำพูดนี้เย่เทียนไม่ใช่คนแรกที่พูด เพียงแต่เขารู้สึกไม่เต็มใจ

“แต่ว่ารูปภาพนี้ยังคงมีความหมายมากนะ ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาของบุคคลจะเปลี่ยนไปยังไง แต่แววตาของเขาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ถึงแม้ว่าแววตาจะสามารถเสแสร้ง แต่เมื่อเวลาตกตะลึงก็คงเผยท่าทีที่แท้จริงออกมาแน่”

หลังจากที่เย่เทียนพูดจบเขาก็คลิกที่รูป “เขามีความสามารถพอที่จะหยิ่งยโส ด้วยความสามารถของเขาถ้าจะปิดบังไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด แต่เขากลับดูถูกพวกคุณมาก!”

ซ่านหงเลี่ยงเหลือบมองเขาอย่างไม่พอใจ ฉันรู้ว่าคุณแข็งแกร่งมาก แต่วิธีการพูดให้มันสุภาพนุ่มนวลหน่อยไม่ได้เหรอ?