เย่เทียนมองเขาแวบหนึ่งอย่างเหยียดหยาม
“ถึงแม้ฉันไม่ลงมือ พวกแกตระกูลเจี่ยงจะปล่อยฉันไปเหรอ? เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว แกยังเป็นเจ้าบ้านอีกต่างหาก พูดจาอะไรอย่าให้มันสิ้นคิดไปหน่อยเลย!”
เย่เทียนแบมือออก “ฉันให้เวลาพวกแกไปไม่น้อยแล้ว เดาว่าแกคงเริ่มเรียกคนแล้วมั้ง! แต่ขอโทษด้วยนะ ตอนนี้ฉันไม่อยากรออีกต่อไป”
“สรุปแกจะทำอะไร!”
“ฉันทำอะไร?” เย่เทียนหรี่ดวงตาแล้วพูดจาดูถูกอย่างแรง “แกยังมีหน้ามาถามว่าฉันอยากจะทำอะไร!”
การแสดงออกของเย่เทียนดูเย็นชาดุร้ายขึ้นมามากกว่าเดิม “พวกแกมาออกหมายจับฉัน แน่นอนว่าฉันต้องแก้แค้นนะสิ! บนโลกนี้ไม่มีกฎที่โดนตีแล้วไม่สู้กลับสักหน่อย!”
“ตอนนี้ให้ทางเลือกพวกแกสองข้อ ข้อแรก เอาเงินมาแลกชีวิต ข้อสอง ฉันทำลายทั้งตระกูลเจี่ยงของพวกแกทิ้ง!”
ชั่วขณะนั้นคำพูดนี้ของเย่เทียนดึงดูดความวุ่นวายอย่างใหญ่โต
“ถุย! แกไม่ลองตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง! แกไม่คู่ควร!”
“ยังจะมาทำลายตระกูลเจี่ยงพวกเรา คุยโวโอ้อวดชัดๆ!”
คนตระกูลเจี่ยงมีอารมณ์โกรธเคือง แต่สองฝ่ายที่สนทนากันอยู่กลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ บนสีหน้า รวมทั้งเจี่ยงหลิน!
“แกอยากได้สิ่งของอะไรถึงจะสามารถกลับไป? ฉันพิจารณาดูได้!”
ชั่วพริบตาเดียวคำพูดของเจี่ยงหลินทำให้คนของตระกูลเจี่ยงเงียบเสียงลง เดาว่าพวกเขาเองก็นึกไม่ถึงว่าเจี่ยงหลินจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมา แต่ละคนต่างใช้สายตาที่เหลือเชื่อมองเขากันอยู่
“เจ้าบ้าน! ไม่ได้เด็ดขาดเลย! มันเป็นแค่ไอ้สารเลวคนหนึ่งมีสิทธิ์อะไรกัน!”
“ใช่! มาฆ่าผู้อาวุโสคุมกฎ และทำร้ายผู้อาวุโสใหญ่ต่อหน้าตระกูลเจี่ยงของพวกเรา นี่คือความอัปยศอดสูของตระกูลเจี่ยง!”
คนที่พูดย่อมเป็นคนของกลุ่มผู้อาวุโส รุ่นเด็กคนอื่นๆ ได้แต่ใช้สายตาที่แค้นเคืองจ้องเย่เทียนไว้
ถึงแม้พวกเขาไม่พอใจต่อคำพูดของเจี่ยงหลินอย่างมาก แต่ความน่าเกรงขามของเจี่ยงหลินเจ้าบ้านคนนี้ยังเจาะลึกเข้าไปยังจิตใจของผู้คน ทำให้พวกเขาไม่กล้ามีความคิดไม่เคารพสักนิดเดียว
“หุบปากไปให้หมดเดี๋ยวนี้!”
เจี่ยงหลินปล่อยอำนาจอันน่าเกรงขามของตนเองออกมาโดยตรง ชั่วขณะนั้นกลบเสียงต่อต้านของภายในตระกูลเจี่ยงลงแล้ว
เขาไม่มองทุกคนของตระกูลเจี่ยงที่ด้านหลัง แต่ว่าหันหน้ามองทางเย่เทียน “ว่ามาเถอะ แกอยากได้ของอะไร!”
เย่เทียนต้องยอมนับถือเจี่ยงหลิน
ผู้ชายคนนี้ช่างเย็นชาเหลือเกิน เย็นชาจนไม่เหมือนคนคนหนึ่ง! ในฐานะที่ตระกูลเจี่ยงเป็นถึงตระกูลบู๊โบราณ แม้ว่าจะเป็นศิษย์สำนักนอกนั่นก็ล้วนเป็นพวกหยิ่งยโสที่ดูถูกผู้อื่นทั้งสิ้น
แต่เจี่ยงหลินกลับมองแก่นสารของเรื่องราวได้แจ่มแจ้ง
เย่เทียนไม่มีความกังวลใดๆ แต่ตระกูลเจี่ยงของเขาไม่ใช่!
น่าเสียดายที่เจี่ยงหลินไม่ว่าเขาจะเย็นชาแค่ไหนก็ขวางเย่เทียนที่มาหาเรื่องไว้ไม่ไหว
“ฉันต้องการทั้งตระกูลเจี่ยง! แกพาศิษย์ของตระกูลเจี่ยงไสหัวออกไป ไม่ว่าไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ทั้งตระกูลเจี่ยงเหลือไว้ให้ฉัน!”
เย่เทียนมองเจี่ยงหลินแบบยั่วยุ พูดเรื่องพวกนี้ออกมาเป็นการจุดอารมณ์ขุ่นเคืองของตระกูลเจี่ยงอย่างยิ่ง
“เชี่ย! มันก็คือมายั่วยุ!”
“เจ้าบ้านครับ เจี่ยงห้าวหลินขอออกรบครับ!”
“เจี่ยงชวงเฟิงขอออกรบครับ!”
คนกลุ่มหนึ่งต่างตะโกนอย่างโมโห คุกเข่าลงมาทันที ตะคอกด้วยเสียงสูง
“แกกำลังยั่วฉัน!” หน้าตาเจี่ยงหลินยังคงไร้ความรู้สึก มีเพียงแค่สายตาที่เย็นยะเยือกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“อย่าพูดแบบนี้สิ ฉันไม่สนใจผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายแก่แบบแกยิ่งไม่สนใจใหญ่เลย!” เย่เทียนยักไหล่แล้ว
คนเรานะ บางครั้งซื่อตรงเกินไปในที่สุดจะถูกคนรังแกเอา
เจี่ยงหลินคนแบบนี้มักจะคิดว่าตนเองอยู่เหนือกว่าผู้อื่น ยังแม่งมาออกหมายจับฉัน หรือว่าฉันก็ด่าพวกแกสักตั้งไม่ได้งั้นเหรอ? ทั้งอยากทำเรื่องชั่วทั้งอยากสร้างชื่อเสียงดีงาม พวกแกไม่คู่ควร
ตอนนี้แต่ละคนทำท่าทางว่าเป็นผู้ถูกกระทำกันหมด ทำให้ใครดู?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่